"บล.โกลเบล็ก" มองกรอบดัชนีหุ้นไทยโค้งท้าย 1,650–1,800 จุด

16 ต.ค. 2561 | 05:55 น.
"บล.โกลเบล็ก" มองกรอบดัชนีหุ้นไทยโค้งท้าย 1,650–1,800 จุด ชี้! จับตาปัจจัยต่างประเทศแปรตลาด พร้อมชูหุ้นแบงก์–รับเหมา และกลุ่ม mai น่าจับตา

บล.โกลเบล็ก ประเมินหุ้นไทยในช่วงโค้งสุดท้ายของปี 2561 ยังคงมีปัจจัยจากต่างประเทศ โดยเฉพาะช่วงเดือน พ.ย. ที่ยังคงเป็นตัวแปรหลักสำคัญด้านการลงทุน ขณะที่ ปัจจัยในประเทศยังคงต้องติดตามสถานการณ์ทางการเมือง รวมถึงตัวเลข GDP ปี 2561 อยู่ที่ระดับ 4.4–4.8% พร้อมทั้งการเปิดประมูลโครงสร้างพื้นฐานขนาดใหญ่ และเม็ดเงินกองทุน LTF/RMF ที่คาดว่าจะสามารถเข้ามาพยุงตลาดหุ้นในช่วงปลายปี

น.ส.วิลาสินี บุญมาสูงทรง ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัย บริษัทหลักทรัพย์ โกลเบล็ก จำกัด หรือ GBS เปิดเผยถึงแนวโน้มดัชนีตลาดหุ้นไทยช่วงโค้งสุดท้ายของปี 2561 ว่า ตลาดหุ้นไทยยังคงมีแนวโน้มผันผวนจากปัจจัยต่างประเทศยังคงเป็นแปรหลักที่สำคัญที่เข้ามาฉุดภาพรวมการลงทุน อีกทั้งเรื่องสงครามการค้าที่ยังคงยืดเยื้อและอาจส่งผลกระทบต่อการเติบโตของเศรษฐกิจโลก รวมถึงธนาคารกลางสหรัฐฯ ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมเดือน ธ.ค. และ fund flow ไหลออกจากตลาดหุ้นเกิดใหม่ เพื่อลดความเสี่ยงจากค่าเงินที่อ่อนค่า

 

[caption id="attachment_333471" align="aligncenter" width="503"] น.ส.วิลาสินี บุญมาสูงทรง น.ส.วิลาสินี บุญมาสูงทรง[/caption]

ทั้งนี้ ปัจจัยที่นักลงทุนยังคงต้องจับตาหลังจากนี้ คงเป็นกรณีการที่จะจัดให้การเลือกตั้งกลางเทอมของสหรัฐฯ รวมถึงการกำหนดประชุมธนาคารกลางสหรัฐฯ ที่จะเกิดขึ้นในวันที่ 7-8 พ.ย. และกำหนดประชุม กนง. ซึ่งมีการคาดการณ์ว่า ที่ประชุมมีมติคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายตามเดิม โดยจะเกิดขึ้นวันที่ 14 พ.ย. และการกำหนดประชุมธนาคารกลางสหรัฐฯ ซึ่งจะจัดขึ้นวันที่ 18-19 ธ.ค. (นักวิเคราะห์คาดว่า ที่ประชุมฯ จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบาย 0.25%) และในวันที่ 19 ธ.ค. กำหนดประชุม กนง. โดยคาดว่า ที่ประชุมอาจพิจารณาปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบาย หากดัชนีเงินเฟ้อพุ่งขึ้นแรงชนกรอบเป้าหมายที่ระดับ 1.25%

ขณะที่ ปัจจัยในประเทศนั้น ทาง GBS มองว่า ดัชนีตลาดหุ้นไทยยังมีปัจจัยบวกจากการเลือกตั้งทั่วไปในปี 2562 ที่มีความชัดเจนมากขึ้น รวมถึงความคืบหน้าในการเตรียมตัวของพรรคการเมือง ประกอบกับภาพรวมเศรษฐกิจประเทศไทยที่มีแนวโน้มเติบโตต่อเนื่อง โดย Consensus คาด GDP ปี 2561 อยู่ที่ระดับ 4.4–4.8% รวมถึงการเปิดประมูลโครงการด้านโครงสร้างพื้นฐานขนาดใหญ่ และเม็ดเงินกองทุน LTF/RMF ในช่วงปลายปีที่จะเข้ามาช่วยพยุงภาพรวมตลาดหุ้นไทย


Info การลงทุนโค้งสุดท้าย บล.โกลเบล็ก -Media Planner

ด้าน นายณัฐวุฒิ วงศ์เยาวรักษ์ ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัย บริษัทหลักทรัพย์โกลเบล็ก จำกัด กล่าวว่า แนวโน้มตลาดหุ้นในช่วงโค้งสุดท้ายของปี 2561 ยังคงผันผวนอยู่ในกรอบ 1,650–1,800 จุด โดยแนะนำทยอยซื้อสะสมหุ้นเมื่อราคาหุ้นอ่อนตัวจากภาวะตลาด อาทิ หุ้นกลุ่มธนาคาร เนื่องจากได้รับอานิสงส์จากการเข้าสู่ช่วงไฮซีซั่นในช่วงปลายปี ทำให้มีการกระตุ้นการปล่อยสินเชื่อมากขึ้น ดังนั้น แนะนำ TMB, KKP และ KBANK พร้อมทั้งยังแนะนำหุ้นกลุ่มรับเหมาก่อสร้าง เนื่องจากได้ประโยชน์จากการเร่งประมูลโครงการขนาดใหญ่ช่วยเติม backlog อาทิ CK

นอกจากนี้ ทางฝ่ายวิจัยยังจัดทำบทวิเคราะห์และประเมินผลภาพรวมผลการดำเนินงานหุ้นในกลุ่ม mai โดยประเมินถึงผลประกอบการด้านกำไรที่มีแนวโน้มปรับตัวเพิ่มขึ้นในช่วงครึ่งปีหลัง ดังนั้น จึงแนะนำหุ้น DOD ให้ราคา 17.50 บาท โดยคาดกำไรสุทธิ 2H61 เติบโตราว 200% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน จากการมีลูกค้ารายใหม่ที่คาดจะเริ่มผลิตได้ในช่วงปลาย 3Q61, หุ้น XO ราคาเหมาะสม 13 บาท คาดอัตรากำไรขั้นต้นตั้งแต่ 3Q61 จะปรับตัวขึ้นราว 2-3% สู่ระดับ 39-40% หนุนกำไรปี 2561 เติบโต 210%

หุ้น CHAYO ราคาเหมาะสม 4 บาท คาดกำไรสุทธิเติบโต 29%YoY จากการรับรู้รายได้กองสินทรัพย์ด้อยคุณภาพมีหลักประกันใน 2H61, หุ้น TACC ราคาเหมาะสม 5 บาท คาดว่ากำไรในช่วง 2H61 จะเริ่มทยอยเห็นการพลิกฟื้นจากฐานที่ต่ำใน 1H61 และพลิกกลับมาเติบโตได้ในปี 2562, หุ้น SSP ราคาเหมาะสม 11.20 คาดแนวโน้มกำไรสุทธิ 2H61 เติบโต 14% HoH จากโครงการที่เริ่ม COD ตั้งแต่ 1 ส.ค. และโครงการอื่น ๆ จะทำได้ตามกำหนดการ มีบางโครงการเร็วกว่ากำหนด หุ้น JKN ราคาเหมาะสม 13.40 บาท กลยุทธ์มุ่งส่งออก Content ลูกค้า CLMV หนุนรายได้ส่งออกปี 2561 โตเกินเป้า 120 ล้านบาท และหุ้น AUCT ราคาเหมาะสม 8.25 บาท คาดยอดขาย 2H61 จะเร่งตัวขึ้นจาก 1H61 ตามปัจจัยฤดูกาล ประกอบกับยอดขายรถใหม่ภายในประเทศปีนี้เติบโตดี

e-book-1-503x62