"เอพี" โหมเปิดตัวอีก 18 โครงการ รับเป้าใหม่ 3.9 หมื่นล้าน
'เอพี' เร่งเครื่องรุกถึงไตรมาส 4 เปิดใหม่อีก 18 โครงการ มูลค่ากว่า 3.1 หมื่นล้านบาท พร้อมปรับเป้าขายใหม่อีกรอบ 3.9 หมื่นล้านบาท เพิ่มอีก 19%
[caption id="attachment_333259" align="aligncenter" width="335"]
วิทการ จันทวิมล[/caption]
นายวิทการ จันทวิมล รองกรรมการผู้อำนวยการ สายงานกลยุทธ์องค์กรและการสร้างสรรค์ บริษัท เอพี (ไทยแลนด์) จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ช่วงไตรมาส 4 ปี 2561 เอพีฯ ยังคงเดินหน้าเปิดตัวโครงการที่จับกลุ่มเป้าหมายระดับกลางถึงระดับบน ด้วยแพ็กเกจราคาขายที่ครอบคลุมความสามารถในการซื้อของคนเมืองในปัจจุบัน ที่เริ่มตั้งแต่ 2 ล้านบาท จนถึงกลุ่มสินค้าระดับซูเปอร์ลักชัวรี่ ที่เริ่มต้นในราคา 29 ล้านบาทเป็นต้นไป โดยเตรียมเปิดตัวใหม่อีก 18 โครงการ มูลค่ารวม 31,230 ล้านบาท เป็นคอนโดมิเนียม 2 โครงการ มูลค่า 14,000 ล้านบาท, บ้านเดี่ยว 6 โครงการ มูลค่า 7,840 ล้านบาท และทาวน์โฮม 10 โครงการ มูลค่า 9,390 ล้านบาท พร้อมโครงการที่อยู่ระหว่างการพัฒนาอีกกว่า 90 โครงการ ซึ่งมั่นใจว่าจะสามารถสร้างยอดขายได้เกินเป้าหมายใหม่ที่ตั้งไว้
ในรอบ 9 เดือนที่ผ่านมา บริษัทฯ สร้างยอดขายรวมได้แล้วถึง 30,700 ล้านบาท แบ่งเป็น ยอดขายจากคอนโดมิเนียม มูลค่า 15,080 ล้านบาท, แนวราบมูลค่า 15,620 ล้านบาท และมีสินค้ารอรับรู้รายได้ (Backlog) มูลค่ามากถึง 55,240 ล้านบาท เป็นโครงการแนวราบมูลค่าราว 10,035 ล้านบาท ซึ่งคาดว่าจะรับรู้ทั้งหมดภายในปีนี้ และคอนโดมิเนียมมูลค่า 45,205 ล้านบาท (รวมโครงการร่วมทุน) จะทยอยรับรู้ไปจนถึงปี 2566
"จากความสำเร็จที่เกิดขึ้นในรอบ 9 เดือนที่ผ่านมา บริษัทฯ ได้ปรับเป้ายอดขายใหม่อีกครั้ง จาก 33,500 ล้านบาท เป็น 39,800 ล้านบาท เพิ่มขึ้นเกือบ 19% เป็นคอนโดมิเนียม 20,000 ล้านบาท และแนวราบ 19,800 ล้านบาท ทั้งนี้ ธุรกิจคอนโดมิเนียมปรับเป้าค่อนข้างมากประมาณ 29% เดิมอยู่ที่ 15,500 ล้านบาท ซึ่งทั้งปีนี้คอนโดมิเนียมเปิดใหม่ 5 โครงการ 4,760 ยูนิต รวมมูลค่าโครงการ 25,400 ล้านบาท มียอดขายแล้ว 80%"
"ด้วยจุดแข็ง ทั้งการเป็นหนึ่งเดียวเรื่องทำเลที่ตั้ง, การพัฒนานวัตกรรมดีไซน์และแบบบ้านโมเดลใหม่ ๆ, ความโดดเด่นด้านแนวคิดของ "การดีไซน์พื้นที่" ที่สร้างความแตกต่างให้กับการอยู่อาศัย พร้อมการออกแบบที่สอดรับกับพฤติกรรมลูกค้าครอบครัวเมือง รวมถึงรูปลักษณ์และฟังก์ชั่นการใช้งานภายใน ซึ่งเอพีฯ เชื่อมั่นว่า ทั้งหมดนี้จะได้รับการตอบรับที่ดี และเราจะสามารถบรรลุเป้าหมายการเติบโตอย่างยั่งยืน ทั้งการรับรู้รายได้และเป้าหมายยอดขายใหม่ที่ตั้งไว้"
[caption id="attachment_333259" align="aligncenter" width="335"]
นายวิทการ จันทวิมล รองกรรมการผู้อำนวยการ สายงานกลยุทธ์องค์กรและการสร้างสรรค์ บริษัท เอพี (ไทยแลนด์) จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ช่วงไตรมาส 4 ปี 2561 เอพีฯ ยังคงเดินหน้าเปิดตัวโครงการที่จับกลุ่มเป้าหมายระดับกลางถึงระดับบน ด้วยแพ็กเกจราคาขายที่ครอบคลุมความสามารถในการซื้อของคนเมืองในปัจจุบัน ที่เริ่มตั้งแต่ 2 ล้านบาท จนถึงกลุ่มสินค้าระดับซูเปอร์ลักชัวรี่ ที่เริ่มต้นในราคา 29 ล้านบาทเป็นต้นไป โดยเตรียมเปิดตัวใหม่อีก 18 โครงการ มูลค่ารวม 31,230 ล้านบาท เป็นคอนโดมิเนียม 2 โครงการ มูลค่า 14,000 ล้านบาท, บ้านเดี่ยว 6 โครงการ มูลค่า 7,840 ล้านบาท และทาวน์โฮม 10 โครงการ มูลค่า 9,390 ล้านบาท พร้อมโครงการที่อยู่ระหว่างการพัฒนาอีกกว่า 90 โครงการ ซึ่งมั่นใจว่าจะสามารถสร้างยอดขายได้เกินเป้าหมายใหม่ที่ตั้งไว้
ในรอบ 9 เดือนที่ผ่านมา บริษัทฯ สร้างยอดขายรวมได้แล้วถึง 30,700 ล้านบาท แบ่งเป็น ยอดขายจากคอนโดมิเนียม มูลค่า 15,080 ล้านบาท, แนวราบมูลค่า 15,620 ล้านบาท และมีสินค้ารอรับรู้รายได้ (Backlog) มูลค่ามากถึง 55,240 ล้านบาท เป็นโครงการแนวราบมูลค่าราว 10,035 ล้านบาท ซึ่งคาดว่าจะรับรู้ทั้งหมดภายในปีนี้ และคอนโดมิเนียมมูลค่า 45,205 ล้านบาท (รวมโครงการร่วมทุน) จะทยอยรับรู้ไปจนถึงปี 2566
"จากความสำเร็จที่เกิดขึ้นในรอบ 9 เดือนที่ผ่านมา บริษัทฯ ได้ปรับเป้ายอดขายใหม่อีกครั้ง จาก 33,500 ล้านบาท เป็น 39,800 ล้านบาท เพิ่มขึ้นเกือบ 19% เป็นคอนโดมิเนียม 20,000 ล้านบาท และแนวราบ 19,800 ล้านบาท ทั้งนี้ ธุรกิจคอนโดมิเนียมปรับเป้าค่อนข้างมากประมาณ 29% เดิมอยู่ที่ 15,500 ล้านบาท ซึ่งทั้งปีนี้คอนโดมิเนียมเปิดใหม่ 5 โครงการ 4,760 ยูนิต รวมมูลค่าโครงการ 25,400 ล้านบาท มียอดขายแล้ว 80%"
"ด้วยจุดแข็ง ทั้งการเป็นหนึ่งเดียวเรื่องทำเลที่ตั้ง, การพัฒนานวัตกรรมดีไซน์และแบบบ้านโมเดลใหม่ ๆ, ความโดดเด่นด้านแนวคิดของ "การดีไซน์พื้นที่" ที่สร้างความแตกต่างให้กับการอยู่อาศัย พร้อมการออกแบบที่สอดรับกับพฤติกรรมลูกค้าครอบครัวเมือง รวมถึงรูปลักษณ์และฟังก์ชั่นการใช้งานภายใน ซึ่งเอพีฯ เชื่อมั่นว่า ทั้งหมดนี้จะได้รับการตอบรับที่ดี และเราจะสามารถบรรลุเป้าหมายการเติบโตอย่างยั่งยืน ทั้งการรับรู้รายได้และเป้าหมายยอดขายใหม่ที่ตั้งไว้"
