'สนธิรัตน์' ติวเข้มทูตพาณิชย์! ลุยแผนผลักดันส่งออกปี 62 มิติใหม่ พร้อมรับมือเศรษฐกิจโลก

15 ต.ค. 2561 | 08:14 น.
'สนธิรัตน์' เร่งเครื่องสู้ศึกการค้า ติวเข้มทูตพาณิชย์ทั่วโลกก่อนประชุมใหญ่ ถกรายภูมิภาควิเคราะห์สถานการณ์การค้าและเตรียมกลยุทธ์รับมือสถานการณ์ผันผวนของโลกผันวิกฤติเป็นโอกาส

นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เป็นประธาน ในการประชุมเตรียมการผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ (ทูตพาณิชย์) จาก 64 แห่งทั่วโลก เปิดเผยว่า การประชุมในวันนี้ เพื่อเจาะลึกสถานการณ์รายภูมิภาคกับทูตพาณิชย์ ประเมินวิกฤตและโอกาสทางการตลาดของพื้นที่ที่รับผิดชอบ ดูแล วิเคราะห์ปัจจัยเสี่ยง ที่ส่งผลกระทบต่อการส่งออกของไทยอย่างไร และให้จัดทำแผนการรับมือรวมถึงแผนผลักดันการส่งออกอย่างเป็นรูปธรรม เพื่อผลักดันยอดส่งออกในช่วงโค้งสุดท้ายของปี 2561 พร้อมวางแผนการขับเคลื่อนการส่งออก รวมทั้งขยายการค้าและการลงทุนในปี 2562 ก่อนการประชุมใหญ่ในวันที่ 18 ต.ค. 2561 โดยมี สมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธาน


สนธิรัตน์ เนิ้อ

นายสนธิรัตน์ ยังกล่าวอีกว่า "หลายภูมิภาคยังมีลู่ทางสำหรับสินค้าไทย โดยใช้โอกาสจากประเทศที่มีการเจรจา FTA กับไทย เช่น ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ ออสเตรเลีย นิวซีแลนด์ และอินเดีย เป็นต้น และประเทศในเขตการค้าเสรี นอกจากนั้น ยังมีภูมิภาคและประเทศต่าง ๆ ที่มีความน่าสนใจทางด้านเศรษฐกิจที่กำลังขยายตัว เช่น ภูมิภาคอัฟริกา ซึ่งเป็นตลาดใหม่ที่ยังมีโอกาสมากในหลายประเทศ ไม่ว่าจะเป็น อัฟริกาใต้ โมซัมบิก และแองโกลา ตลาดตะวันออกกลาง และ CIS รวมถึงกลุ่มประเทศฮาลาล นอกจากนี้ ยังมีประเทศเศรษฐกิจขนาดใหญ่ที่น่าจับตามอง อย่าง อินเดีย ซึ่งได้รับอานิสงส์จากสถานการณ์ทางการค้าระหว่างสหรัฐฯ และจีน คาดว่าเศรษฐกิจอินเดียจะขยายตัวมากขึ้น พร้อมกับโอกาสของสินค้าไทยที่เพิ่มขึ้นในตลาดอินเดีย ซึ่งมีประชากรถึง 1,300 ล้านคน"


สนธิรัตนฺ เนือ2

ทั้งนี้ การประชุมในครั้งนี้จะปรับเพิ่มบทบาทใหม่ของสำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ (สคต.) ในการทำงานเชิงรุกให้มากขึ้น เพื่อรองรับสถานการณ์ทางการค้าที่มีความผันผวนได้อย่างทันท่วงที และรูปแบบใหม่ของธุรกิจที่มีการนำนวัตกรรมและเทคโนโลยีมาใช้ รวมทั้งเพิ่มบทบาทในการจัดทำแผนส่งเสริมและขยายตลาดแก่ธุรกิจบริการไทยอย่างเป็นรูปธรรม นอกเหนือจากส่งเสริมการส่งออกสินค้า นอกจากนั้น ยังได้มอบหมายให้ สคต. ทุกแห่งกระชับความสัมพันธ์กับผู้นำเข้าและนักธุรกิจรายสำคัญในประเทศเขตดูแลของตน เพื่อสร้างแนวร่วมในการส่งเสริมและแก้ไขปัญหาทางการค้า ตลอดจน สคต. ต้องบูรณาการการทำงานและเชื่อมโยงการทำงานกับระดับจังหวัด โดยมีสำนักงานพาณิชย์ 18 กลุ่มจังหวัด เป็นกลไกในภูมิภาค เพื่อสร้างโอาสทางธุรกิจการค้าระหว่างประเทศให้แก่เกษตกรรุ่นใหม่ ผู้ประกอบการท้องถิ่นที่เป็นรายย่อย (MSMEs) และผู้ประกอบการขนาดกลางและเล็ก (SMEs) ที่มีศักยภาพซึ่งกระจายตัวอยู่ทั่วประเทศ ซึ่งกระทรวงพาณิชย์ให้ความสำคัญและมีเป้าหมายที่จะเร่งผลักดันการสร้างความเข้มแข็งให้เศรษฐกิจฐานราก โดยภายใต้นโยบาย Local 2 Global

อย่างไรก็ตาม ในการประชุมทูตพาณิชย์ครั้งนี้จะมีการประเมินแนวโน้มการส่งออกในช่วงที่เหลือของปีนี้ โดยมั่นใจว่า เป้าหมายที่ได้ตั้งไว้ที่ 8% เป็นไปได้อย่างแน่นอน รวมถึงจะประเมินแนวโน้ม ทิศทาง และเป้าหมายการส่งออกปี 2562 ด้วย ซึ่งจะประเมินจากภาวะเศรษฐกิจโลก เศรษฐกิจคู่ค้าในปัจจุบัน ผลกระทบจากสงครามการค้า ราคาน้ำมัน และอัตราแลกเปลี่ยน โดยจะรับฟังความคิดเห็นจากทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง

การส่งออกของไทยใน 8 เดือนแรก มีมูลค่า 169,030 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ขยายตัว 10% โดยตลาดส่งออกสำคัญมีมูลค่าเพิ่มขึ้น ได้แก่ เอเชียใต้ เพิ่มขึ้น 20.8%, อาเซียน ขยายตัว 17.7%, จีน เพิ่มขึ้น 6.3%, ญี่ปุ่น เพิ่มขึ้น 16.7%, สหรัฐฯ เพิ่มขึ้น 5.5%, สหภาพยุโรป เพิ่มขึ้น 8.4% มีเพียงตะวันออกกลางเท่านั้นที่ลดลงเล็กน้อย ที่ 2.3% เนื่องจากปัญหาความไม่สงบในภูมิภาค กระทรวงพาณิชย์มั่นใจว่า มูลค่าการส่งออกในปี 2561 จะเป็นไปตามเป้าหมายกำหนด โดยมีมูลค่าถึง 255,565 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ได้อย่างแน่นอน

595959859