"สกลธี" ลุยตลาดหัวมุม "แม้เส้นใหญ่ ถ้าเป็นนโยบาย ทำให้ได้หมด"
กทม. ลุยฟ้อง "ตลาดหัวมุม" ประกอบการไม่ได้รับอนุญาต
นายสกลธี ภัททิยกุล รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ให้สัมภาษณ์กับ "ฐานเศรษฐกิจ" ถึงการร่วมแก้ปัญหาที่ดินตลาดหัวมุม ถนนเกษตร-นวมินทร์ ของการทางพิเศษแห่งประเทศไทย (กทพ.) ที่ยกเลิกสัญญาเช่าตั้งแต่ปี 2560 ว่า กทม. ก็ร่วมแก้ปัญหา ซึ่งได้มอบนโยบายให้สำนักงานเขตลาดพร้าวลงไปดูแลปัญหาแล้ว แต่ถือว่าการทางพิเศษเป็นเจ้าทุกข์ ซึ่งทราบว่า สำนักงานเขตลาดพร้าวแจ้งความกับ สน.โชคชัย แล้ว หลังจากการทางฯ ยกเลิกสัญญาเช่า
นายสกลธี กล่าวอีกว่า คาดว่าอีกไม่นานผู้อำนวยการเขตลาดพร้าวและผู้กำกับ สน.โชคชัย จะเชิญเจ้าของตลาด ซึ่งถูกยกเลิกสัญญามาพูดคุยว่าจะดำเนินการอย่างไรต่อ ส่วนกรณีที่พื้นที่ตรงนี้ที่มีคนบอกว่าเส้นใหญ่พอสมควรนั้น "แม้เส้นใหญ่ ถ้าเป็นนโยบาย ผมทำให้ได้หมด"
ด้าน นายวุฒิพงษ์ มนัส ผู้อำนวยการ สำนักงานเขตลาดพร้าว ให้สัมภาษณ์กับ "ฐานเศรษฐกิจ" ว่า ในส่วนของสำนักงานเขตลาดพร้าว ได้ทำการยกเลิกใบอนุญาตจัดตั้งตลาดหัวมุมแล้ว และส่งเรื่องให้สถานีตำรวจโชคชัย เจ้าของพื้นที่ ดำเนินคดีในข้อหาดำเนินสถานประกอบการโดยไม่ได้รับอนุญาตแล้ว ตั้งแต่ต้นปี 2561 ซึ่ง สน.โชคชัย เคยเรียกสำนักงานเขตไปสอบปากคำ แล้วเข้าใจว่า ภารกิจงานของ สน.โชคชัย มีมาก จึงทำให้ยังไม่มีการดำเนินการ
นายวุฒิพงษ์ กล่าวว่า กฎหมายที่สำนักงานเขตลาดพร้าวใช้ดำเนินคดี คือ พระราชบัญญัติสาธารณสุข พ.ศ. 2535 มาตรา 33 ระบุว่า เมื่อพ้นกำหนด 90 วัน นับแต่วันที่ข้อกำหนดของท้องถิ่นตามมาตรา 32(1) ใช้บังคับ ห้ามมิให้ผู้ใดดำเนินกิจการตามประเภทที่มีข้อกำหนดของท้องถิ่นกำหนดให้เป็นกิจการที่ต้องมีการควบคุมตามมาตรา 32(1) ในลักษณะที่เป็นการค้า เว้นแต่จะได้รับใบอนุญาตจากเจ้าพนักงานท้องถิ่นตามมาตรา 56
ซึ่งในมาตรา 32 ระบุว่า เพื่อประโยชน์ในการกำกับดูแลการประกอบกิจการที่ประกาศตามมาตรา 31 ให้ราชการส่วนท้องถิ่นมีอำนาจออกข้อกำหนดของท้องถิ่น ดังต่อไปนี้ (1) กำหนดประเภทของกิจการตามมาตรา 31 บางกิจการ หรือ ทุกกิจการ ให้เป็นกิจการที่ต้องมีการควบคุมภายในท้องถิ่นนั้น ส่วนบทลงโทษ ระบุ ในมาตรา 71 ระบุว่า ผู้ใดฝ่าฝืนต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 6 เดือน หรือ ปรับไม่เกิน 1 หมื่นบาท หรือ ทั้งจำทั้งปรับ
"เดิมทีตอนแรก ตลาดหัวมุมเขามีสัญญาเช่าจากการทางพิเศษฯ เขามีเอกสารเช่าพื้นที่ถูกต้อง สำนักงานเขตจึงออกใบอนุญาตให้ แต่เมื่อการทางฯ ยกสัญญากับตลาด สำนักงานก็ไม่ต่อใบอนุญาตให้ ซึ่งผู้ใหญ่ในศาลา กทม. มีนโยบายว่า ให้สำนักงานเขตดำเนินการให้ถูกต้องตามระเบียบและกฎหมาย ซึ่งใช้วิธีนี้กับทุกตลาดครับ"
เมื่อถามว่า เห็นหน้าเฟซบุ๊กแฟนเพจของตลาดหัวมุมลงรูปเจ้าของตลาดไปยินดีกับการเข้ารับตำแหน่งของ ผอ. เมื่อวันที่ 6 ต.ค. ที่ผ่านมา จะมีผลอะไรกับการดำเนินการกับตลาดหรือไม่ นายวุฒิพงษ์ กล่าวยืนยันว่า ไม่มีผล เพราะเจ้าหน้าที่ต้องดำเนินการตามกฎหมาย ตนไม่สามารถละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ได้
นายสกลธี ภัททิยกุล รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ให้สัมภาษณ์กับ "ฐานเศรษฐกิจ" ถึงการร่วมแก้ปัญหาที่ดินตลาดหัวมุม ถนนเกษตร-นวมินทร์ ของการทางพิเศษแห่งประเทศไทย (กทพ.) ที่ยกเลิกสัญญาเช่าตั้งแต่ปี 2560 ว่า กทม. ก็ร่วมแก้ปัญหา ซึ่งได้มอบนโยบายให้สำนักงานเขตลาดพร้าวลงไปดูแลปัญหาแล้ว แต่ถือว่าการทางพิเศษเป็นเจ้าทุกข์ ซึ่งทราบว่า สำนักงานเขตลาดพร้าวแจ้งความกับ สน.โชคชัย แล้ว หลังจากการทางฯ ยกเลิกสัญญาเช่า
นายสกลธี กล่าวอีกว่า คาดว่าอีกไม่นานผู้อำนวยการเขตลาดพร้าวและผู้กำกับ สน.โชคชัย จะเชิญเจ้าของตลาด ซึ่งถูกยกเลิกสัญญามาพูดคุยว่าจะดำเนินการอย่างไรต่อ ส่วนกรณีที่พื้นที่ตรงนี้ที่มีคนบอกว่าเส้นใหญ่พอสมควรนั้น "แม้เส้นใหญ่ ถ้าเป็นนโยบาย ผมทำให้ได้หมด"
ด้าน นายวุฒิพงษ์ มนัส ผู้อำนวยการ สำนักงานเขตลาดพร้าว ให้สัมภาษณ์กับ "ฐานเศรษฐกิจ" ว่า ในส่วนของสำนักงานเขตลาดพร้าว ได้ทำการยกเลิกใบอนุญาตจัดตั้งตลาดหัวมุมแล้ว และส่งเรื่องให้สถานีตำรวจโชคชัย เจ้าของพื้นที่ ดำเนินคดีในข้อหาดำเนินสถานประกอบการโดยไม่ได้รับอนุญาตแล้ว ตั้งแต่ต้นปี 2561 ซึ่ง สน.โชคชัย เคยเรียกสำนักงานเขตไปสอบปากคำ แล้วเข้าใจว่า ภารกิจงานของ สน.โชคชัย มีมาก จึงทำให้ยังไม่มีการดำเนินการ
นายวุฒิพงษ์ กล่าวว่า กฎหมายที่สำนักงานเขตลาดพร้าวใช้ดำเนินคดี คือ พระราชบัญญัติสาธารณสุข พ.ศ. 2535 มาตรา 33 ระบุว่า เมื่อพ้นกำหนด 90 วัน นับแต่วันที่ข้อกำหนดของท้องถิ่นตามมาตรา 32(1) ใช้บังคับ ห้ามมิให้ผู้ใดดำเนินกิจการตามประเภทที่มีข้อกำหนดของท้องถิ่นกำหนดให้เป็นกิจการที่ต้องมีการควบคุมตามมาตรา 32(1) ในลักษณะที่เป็นการค้า เว้นแต่จะได้รับใบอนุญาตจากเจ้าพนักงานท้องถิ่นตามมาตรา 56
ซึ่งในมาตรา 32 ระบุว่า เพื่อประโยชน์ในการกำกับดูแลการประกอบกิจการที่ประกาศตามมาตรา 31 ให้ราชการส่วนท้องถิ่นมีอำนาจออกข้อกำหนดของท้องถิ่น ดังต่อไปนี้ (1) กำหนดประเภทของกิจการตามมาตรา 31 บางกิจการ หรือ ทุกกิจการ ให้เป็นกิจการที่ต้องมีการควบคุมภายในท้องถิ่นนั้น ส่วนบทลงโทษ ระบุ ในมาตรา 71 ระบุว่า ผู้ใดฝ่าฝืนต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 6 เดือน หรือ ปรับไม่เกิน 1 หมื่นบาท หรือ ทั้งจำทั้งปรับ
"เดิมทีตอนแรก ตลาดหัวมุมเขามีสัญญาเช่าจากการทางพิเศษฯ เขามีเอกสารเช่าพื้นที่ถูกต้อง สำนักงานเขตจึงออกใบอนุญาตให้ แต่เมื่อการทางฯ ยกสัญญากับตลาด สำนักงานก็ไม่ต่อใบอนุญาตให้ ซึ่งผู้ใหญ่ในศาลา กทม. มีนโยบายว่า ให้สำนักงานเขตดำเนินการให้ถูกต้องตามระเบียบและกฎหมาย ซึ่งใช้วิธีนี้กับทุกตลาดครับ"
เมื่อถามว่า เห็นหน้าเฟซบุ๊กแฟนเพจของตลาดหัวมุมลงรูปเจ้าของตลาดไปยินดีกับการเข้ารับตำแหน่งของ ผอ. เมื่อวันที่ 6 ต.ค. ที่ผ่านมา จะมีผลอะไรกับการดำเนินการกับตลาดหรือไม่ นายวุฒิพงษ์ กล่าวยืนยันว่า ไม่มีผล เพราะเจ้าหน้าที่ต้องดำเนินการตามกฎหมาย ตนไม่สามารถละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ได้
