‘ยามาฮ่า’เปิด 2 โมเดลโกยยอดกลุ่มสปอร์ต

16 ต.ค. 2561 | 04:15 น.
 

ตลาดรถจักรยานยนต์ 9 เดือนยังชะลอตัว ด้านยามาฮ่า ไม่หวั่นเดินหน้าเปิด 2 รุ่นใหม่ เจาะกลุ่มสปอร์ต มั่นใจ
สิ้นปีส่วนแบ่งตลาดโต

นางสาวจินตนา อุดมทรัพย์ รองประธานกรรมการบริหาร บริษัท ไทยยามาฮ่ามอเตอร์ จำกัด กล่าวว่า ภาพรวมตลาดรถจักรยานยนต์ 9 เดือนที่ผ่านมา (มกราคม- กันยายน 2561)มียอดจดทะเบียนทั้งสิ้น 1.360 ล้านคัน ลดลง 1.6% ขณะที่ยามาฮ่าทำได้ 2.06 แสนคัน เทียบเท่าปีที่ผ่านมา แต่มีส่วนแบ่งการตลาดเพิ่มขึ้นจากเดิม 14.9% เป็น 15.1%

“ปัจจัยที่ทำให้ตลาดรถจักรยานยนต์มีการชะลอตัวเป็นผลมาจากราคาพืชผลทางการเกษตรที่ยังไม่ดีขึ้น โดยเฉพาะราคายาง ที่กระทบกับกลุ่มลูกค้าภาคใต้ อย่างไรก็ตามประเมินว่าการเลือกตั้งที่จะมีขึ้นในต้นปีหน้าจะช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจ และช่วยให้ผู้บริโภคกล้าใช้จ่ายมากขึ้น ด้านยอดขายของเรายังประคองตัว แม้ภาพรวมตลาดจะหดตัวลงก็ตาม และกลางปีที่ผ่านมาเราก็เพิ่งปรับเป้าประมาณการของทั้งปี ซึ่งคาดว่ายอดขายจะไม่เกิน 3 แสนคัน ด้านเป้าหมายส่วนแบ่งการตลาดจะอยู่ที่ 15.7% ส่วนตลาดรวมจักรยานยนต์ทั้งหมดนั้นจะอยู่ที่ 1.8 ล้านคัน”

2019_YZF-R3_10

เมื่อแบ่งออกเป็นเซ็กเมนต์ต่างๆจะพบว่า กลุ่มสปอร์ต เป็นตลาดที่หดตัวมากที่สุด โดย 9 เดือนตลาดรวมทำได้ 1.85 แสนคัน ลดลง 15 % ,กลุ่มโมเพ็ด 7 แสนคัน เพิ่มขึ้น 1.7% และกลุ่มออโตเมติก เพิ่มขึ้น 0.6%  ขณะที่ยามาฮ่า มียอดขายกลุ่มสปอร์ต 4 หมื่นคัน ลดลง 20% , กลุ่มโมเพ็ด 4.1 หมื่นคัน เพิ่มขึ้น 17% และ กลุ่มออโตเมติก 1.26 แสนคัน เพิ่มขึ้น 3.6%

ยอดขายรถในกลุ่มสปอร์ตที่ลดลง เนื่องจากปีที่ผ่านมายามาฮ่ามีโมเดล เอ็ม สแลชที่ขายดีและเติบโตมาก ซึ่งรถรุ่นนี้เป็นผู้นำตลาดด้วยส่วนแบ่ง 41% ด้านอันดับ 2 มีส่วนแบ่ง 30% และอันดับ 3 มีส่วนแบ่ง 28% อย่างไรก็ตามภาพรวมตลาดที่หดตัวลงก็ส่งผลกระทบให้ยอดขายของแต่ละค่ายลดลง

นางสาวจินตนา กล่าวเพิ่มเติมว่า แผนงานของยามาฮ่าที่จะช่วยกระตุ้นให้เซ็กเมนต์นี้มีการเติบโตคือการเปิดรถรุ่นใหม่ 2 รุ่นได้แก่ ยามาฮ่า เอ็มที-15 สปอร์ตเนกเกต ราคา 9.85 หมื่นบาท เริ่มส่งมอบในเดือนพฤศจิกายน และ NEW YZF-R3  จะเริ่มส่งมอบในเดือนธันวาคม

สำหรับยามาฮ่า เอ็มที-15มาพร้อมเครื่องยนต์ 155  ซีซี สูบเดี่ยว 4 วาล์ว เกียร์สปอร์ต 6 สปีด ระบบหัวฉีดอัจฉริยะ ระบายความร้อนด้วยนํ้า พร้อมระบบวาล์วแปรผันอัจฉริยะ VVA ,ระบบกันสะเทือนหน้า TELESCOPIC UPSIDE DOWN โช้กอัพหัวกลับที่ช่วยดูดซับแรงกระแทก,ระบบกันสะเทือนหลัง ALUMINIUM SWING ARM สวิงอาร์มอะลูมิเนียมแบบไดแคสต์ (Diecast) ทำงานร่วมกับโช้กอัพหลังเดี่ยวที่มาพร้อมกระเดื่องซับแรงช่วยเพิ่มสมรรถนะการทรงตัว พร้อม SUPER WIDE TIRE ยางหลังขนาดใหญ่ขนาด 140 มม. และ รถรุ่นใหม่ยังมาพร้อมฟีเจอร์ต่างๆอาทิ ไฟหน้า MONO FOCUS LED ครั้งแรกในคลาส 150 ซีซี, หน้าปัด NEGATIVE LCD  ที่มี MULTI-FUNCTION

อีกหนึ่งรุ่นคือ NEW YZF-R3 ที่มีการเปิดตัวพร้อมกัน 3 ประเทศได้แก่ อินโดนีเซีย, ไทย และ สหรัฐอเมริกา

06_YAMAHA_Side_5_low

สำหรับ NEW YZF-R3มาพร้อมเครื่องยนต์ขนาด 321  ซีซี  แบบ 4 จังหวะ 2 สูบเรียง 8 วาล์ว ระบายความร้อนด้วยนํ้า จ่ายนํ้ามันเชื้อเพลิงด้วยระบบหัวฉีด และยังมาพร้อมเทคโนโลยี อาทิ ลูกสูบอะลูมิเนียมแบบอัดขึ้นรูป นํ้าหนักเบา, กระบอกสูบไดอะซิล  ส่วนเฟรมตัวถังเป็นแบบโครงเหล็กนํ้าหนักเบาและถูกออกแบบเรียบง่าย ระบบกันสะเทือนหลังแบบ Monocross ที่ทำงานร่วมกับโช้กอัพหลัง KYB ที่สามารถปรับระดับได้ โช้กอัพหน้าเป็นแบบหัวกลับที่มาพร้อมกับแผงคอใหม่เพื่อความสมดุลในการขับขี่ทั้งบนถนนและในสนามแข่ง

การออกแบบถังนํ้ามันและตำแหน่งแฮนด์ใหม่ที่ปรับตำแหน่งตํ่าลง 22 มม. โดยถังนํ้ามันยังคงมีความจุ 14 ลิตร (ความกว้างขึ้นจากตำแหน่งวางหัวเข่า 31.4 มม. และตํ่ากว่าตัวถังนํ้ามัน 20 มม.)

“ตลาด 150 ซีซีมีแนวโน้มเติบโต ดังนั้นบริษัทจึงตัดสินใจที่จะส่งยามาฮ่าเอ็มที-15  เข้ามาเจาะลูกค้าในตลาดนี้  โดยเราตั้งเป้าหมายยอดขายรถในรุ่นนี้ที่ 3,000 คันต่อเดือน ขณะที่รุ่น NEW YZF-R3 เป็นโมเดลที่ผลิตจากอินโดนีเซีย และยังไม่มีการเปิดราคา”

นางสาวจินตนา กล่าวเพิ่มเติมว่า ตลาดบิ๊กไบค์ในช่วงที่ผ่านมาเติบโตเล็กน้อย 0.1% หรือ 2.4 หมื่นคัน เฉพาะยามาฮ่าทำยอดขายในเซ็กเมนต์นี้อยู่ที่ 1,850 คัน เติบโต 18%

หน้า 32-33 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ฉบับที่ 3,409 วันที่ 14 - 17 ตุลาคม พ.ศ. 2561

595959859