กระบวนการจัดซื้อ "ธีออส2" ไม่เคลียร์! ACT จ่อส่งผลสอบ ค.ป.ท. จัดการ

12 ต.ค. 2561 | 09:31 น.
วันที่ 12 ต.ค. 2561 - นายวิชัย อัศรัสกร รองประธาน องค์กรต่อต้านคอร์รัปชัน (ประเทศไทย) เปิดเผยถึงผลการพิจารณากระบวนการจัดหาโครงการระบบดาวเทียมสำรวจเพื่อการพัฒนา หรือ ธีออส 2 ของคณะกรรมการที่กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีตั้งขึ้น ว่า พอใจผลการตรวจสอบ เนื่องจากเชื่อถือในคณะกรรมการที่มีความเป็นกลาง ทั้งนี้ ใน 2 ประเด็น ที่ยังไม่ข้อสรุปที่ชัดเจน ทั้งกระบวนการจัดซื้อจัดจ้างและเรื่องความขัดแย้งทางผลประโยชน์ของนาย Andy Witt นั้น ทางองค์กรต่อต้านคอร์รัปชันฯ จะมีการส่งให้คณะกรรมการความร่วมมือป้องกันการทุจริต (ค.ป.ท.) พิจารณาและดำเนินการโดยตรงต่อไป รวมถึงพิจารณาว่าจะมีการจัดส่งคณะผู้สังเกตการณ์กลับเข้ามาทำหน้าที่ต่อไปอีกหรือไม่

 

[caption id="attachment_332084" align="aligncenter" width="480"] hqdefault นายวิชัย อัศรัสกร รองประธานองค์กรต่อต้านคอร์รัปชัน (ประเทศไทย)[/caption]

"เนื่องจากโครงการนี้ยังอยู่ในข้อตกลงคุณธรรม แต่ขาดผู้สังเกตการณ์ เนื่องจากได้ลาออกไป ซึ่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีได้แจ้งแล้วว่า อยากจะขอให้ผู้สังเกตการณ์ชุดเดิมกลับเข้ามาติดตามในช่วงบริหารสัญญาจนสิ้นสุดโครงการ เพราะยังมีช่วงที่บริหารสัญญาและช่วงตรวจรับอยู่ ซึ่งในทุกขั้นตอนมันก็ยังมีความเสี่ยงอยู่ได้หมด และจะตั้งคณะกรรมการขับเคลื่อนพิเศษขึ้นมาดูแลและติดตามการดำเนินงานตามสัญญาให้โปร่งใสในทุกขั้นตอนต่อไป"


นายวิชัย กล่าวว่า โครงการดังกล่าวเป็น 1 ใน 79 โครงการที่เข้าร่วมโครงการข้อตกลงคุณธรรม มูลค่ารวมทุกโครงการกว่า 1.1 ล้านล้านบาท ส่วนเรื่องของข้อมูลสำหรับผู้สังเกตการณ์นั้น ต้องไม่มีความลับ ข้อมูลการจัดซื้อจัดจ้างทั้งหมดจะต้องให้ผู้สังเกตการณ์ เพราะได้เซ็นข้อตกลงการไม่เปิดเผยข้อมูล (Non - Disclosure Agreement) ไปแล้ว ดังนั้น ถ้ามีกรณีข้อมูลที่รั่วไหลเกิดขึ้น ผู้สังเกตการณ์ต้องรับผิดชอบ และองค์กรต่อต้านคอร์รัปชันฯ ก็จะต้องดำเนินการในส่วนนี้ด้วย

"ประเด็นที่ยังไม่มีข้อสรุป ไม่มีหลักฐานปรากฎเด่นชัด อันนี้ก็จะขึ้นอยู่กับคณะกรรมการ ค.ป.ท. ว่าจะดำเนินการอะไรอย่างไร ถ้ายังคิดว่ามีประเด็นอยู่ ก็อาจจะมีการตั้งคณะกรรมการที่จะไปแสวงหาข้อเท็จจริงเพิ่มเติม โดยเฉพาะประเด็นผลประโยชน์ทับซ้อน ทางกรรมการก็พูดชัดแล้วว่า เวลาท่านน้อย และอาจไม่ใช่หน้าที่โดยตรง แต่ต้องเป็นหน่วยงานราชการ อย่าง คณะกรรมการ ค.ป.ท. ที่จะต้องขอข้อมูล แล้วผลออกมาอย่างไรค่อยมาว่ากันอีกที ส่วนเรื่องนี้จะไปถึง ป.ป.ช. หรือไม่นั้น ก็ขึ้นอยู่กับคณะกรรมการ ค.ป.ท. เช่นกัน ส่วนของ ACT ทุกอย่างเรายืนยันว่า ทำหน้าที่ตามกฎหมาย เป็นกระบวนการตามกฎหมาย ไม่ใช่ว่าเราจะไปทำเอง อะไรเอง คงทำไม่ได้ โดยทั้งมารยาทและโดยหน้าที่" นายวิชัยกล่าว

ด้าน ดร.ธีรพล กาญจนากาศ หนึ่งในคณะผู้สังเกตการณ์ กล่าวว่า ต้องขอบคุณท่านรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ที่ไม่มองผ่านความเห็นของผู้สังเกตการณ์ ซึ่งโครงการนี้เริ่มโครงการก่อนที่จะมี พ.ร.บ.จัดซื้อจัดจ้างฯ ดังนั้น จึงมีความคลาดเคลื่อนและอาจไม่เข้าใจกันบ้างระหว่างผู้สังเกตการณ์กับจิสด้า ซึ่งไม่ใช่เป็นเรื่องที่ถึงขั้นร้ายแรง และคณะผู้สังเกตการณ์ก็มีความเห็นร่วมกันว่า ยังไม่ปรากฎอะไรที่ชี้ชัดไปในทางทุจริต ถือเป็นเรื่องที่น่ายินดี ส่วนที่ยังมีบางประเด็นยังคลุมเครือ ก็ไม่ใช่ปัญหารุนแรงถึงขั้นที่จะต้องยุติโครงการแต่อย่างใด

"อย่างที่ผมเรียนแต่ต้นว่า ยังไม่เห็นอะไรที่ทุจริต ยังไม่มีอะไรชี้ชัด เพราะฉะนั้นก็เหลืออย่างเดียวว่า ประพฤติมิชอบหรือไม่ ประพฤติมิชอบ คือ ปฏิบัติตามกฎระเบียบครบถ้วนหรือไม่ หากว่าครบถ้วนก็ไม่มีอะไร แต่ถ้าไม่ครบถ้วน มัวซั่วไปบางจุด ผมเข้าใจว่าจะมีมาตรา 89 ของ ป.ป.ช. ก็คงจะส่งที่หน่วยงานต้นสังกัดนั้นพิจารณา คือ กลับไปที่จิสด้าพิจารณาว่า จะตั้งกรรมการสอบวินัยหรือไม่ ซึ่งมีตัวอย่างหลายคดีมาแล้ว" ดร.ธีรพล กล่าว

สำหรับผลสอบกระบวนการจัดหาโครงการระบบดาวเทียมสำรวจเพื่อการพัฒนา หรือ ธีออส2 ที่กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีตั้งขึ้น มี ศ.พิเศษ หิรัญ รดีศรี เป็นประธาน สรุปว่า ยังไม่พบประเด็นการทุจริต ประเด็นการประเมินและให้คะแนนทางเทคนิค ยังอยู่ในกรอบของข้อกำหนดและหลักเกณฑ์ที่วางไว้ใน ITB ส่วนประเด็นวงโคจรของดาวเทียมขนาดเล็กนั้น ไม่ได้มีการเปลี่ยนแปลงวงโคจรของดาวเทียมขนาดเล็กที่ผิดไปจากข้อกำหนด

ประเด็นขั้นตอนการดำเนินงานของคณะกรรมการจัดหาฯ พบว่า ทุกขั้นตอนได้รับการเห็นชอบจากคณะกรรมการบริหารจิสด้า ถือว่าเป็นไปตามกฎหมายว่าด้วยการจัดตั้งองค์กรจิสด้า และก่อนการตรวจสอบมีการลงนามในสัญญาแล้ว คณะกรรมการจึงไม่มีข้อสรุปเกี่ยวกับความถูกต้อง หรือ คลาดเคลื่อนในการปฏิบัติตามระเบียบ เนื่องจากได้ผ่านพ้นขั้นตอนที่อาจพิจารณาได้

สำหรับประเด็นผลประโยชน์ร่วมกันของ Mr.Andy Witt กับ Surrey Satellite Technology (UK) นั้น คณะกรรมการฯ ได้พิจารณาเอกสารที่เกี่ยวข้องแล้ว เห็นว่า ไม่สามารถระบุความสัมพันธ์กันได้ และยังไม่มีหลักฐานปรากฎ เนื่องจากมีเวลาในการตรวจสอบน้อยไป และบริษัท Surreyฯ มีหนังสือยืนยันว่า ไม่มีความสัมพันธ์เกี่ยวข้องกัน ซึ่งทางคณะกรรมการฯ ได้มีข้อเสนอแนะให้หน่วยงานที่มีอำนาจหน้าที่ตรวจสอบตามกฎหมายโดยตรงไปดำเนินการต่อตามที่เห็นสมควรในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไปได้

595959859