กรมนำเข้า-ส่งออกลาวลดขั้นตอนดำเนินการ หวังกระตุ้นธุรกิจการค้าระหว่างประเทศ

17 ต.ค. 2561 | 08:54 น.
นายสุลิยน พิลาวง หัวหน้ากรมการนำเข้าและส่งออก กระทรวงอุตสาหกรรมและการค้าแห่งสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว เผยว่า กรมการนำเข้าและส่งออกได้

ออกแจ้งการเลขที่ 4186/กขอ. ลงวันที่ 12 กันยายน 2561 เรื่อง การดำเนินการตามมาตรการการบริการ Service Charter ของกรมการนำเข้าและส่งออก เพื่อเป็นแบบอย่างในการปรับปรุงและยกระดับประสิทธิภาพการบริการของกรม และสานต่อคำสั่งนายกรัฐมนตรี เลขที่ 02/นย. ลงวันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2561 และให้สอดคล้องกับแผนการดำเนินงานการอำนวยความสะดวกทางการค้า ปี 2560-2565 ซึ่งจะเริ่มลดขั้นตอนดังกล่าวตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2561 เป็นต้นไป และจะลดขั้นตอน อย่างเต็มรูปแบบในปี 2562 โดยหวังจะลดต้นทุนของภาคธุรกิจลงและกระตุ้นมูลค่าการค้ารวมให้เพิ่มขึ้น 3 เท่า ภายในปี 2568

การดำเนินการดังกล่าวมีวัตถุประสงค์เพื่อ

(1) ลดขั้นตอน เวลา และเอกสารในการขออนุญาตนำเข้าและส่งออกสินค้าของภาคธุรกิจให้ได้อย่างน้อย 50% ภายในปี 2563 และ

(2) ยกระดับการบริการของกรมการนำเข้าและส่งออกให้เป็นระบบอิเล็กทรอนิกส์อย่างเต็มรูปแบบ

ขั้นตอนการให้บริการของกรมการนำเข้าและส่งออก ภายในปี 2562 ประกอบด้วย

LAOS-Trade การขออนุญาตนำเข้าและส่งออกยานพาหนะ นํ้ามันเชื้อเพลิง และเพชร หากดำเนินการด้วยตนเองจะลดเวลาดำเนินการเหลือเพียง 1 วัน และหากดำเนินการขออนุญาตผ่านระบบอิเล็ก ทรอนิกส์และแจ้งภาษีผ่านระบบประตูเดียวแห่งชาติจะลดเวลาดำเนินการให้เหลือเพียงครึ่งวัน

การขอใบรับรองแหล่งกำเนิดสินค้า หากดำเนินการด้วยตนเองจะลดเวลาดำเนินการเหลือเพียง 1 ชั่วโมง และถ้าดำเนินการขออนุญาตผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์จะลดเวลาดำเนินการเหลือ 30 นาที

การขอใบรับรองสินค้าผ่านแดน จะใช้เวลาดำเนินการขออนุญาตเหลือ 1 วัน

การขอใบรับรองนำเข้าเพื่อส่งออกต่อไปยังประเทศที่ 3 จะลดเวลาดำเนินการเหลือ 1 วัน

การอัพโหลดข้อมูลข่าวสารทางด้านการค้าของ สปป. ลาว อาทิ กฎหมาย บทความ จะประกาศหลังจากได้รับข้อมูลอย่างเป็นทางการภายใน 3 วัน

การแสดงข้อคิดเห็นต่อการให้บริการของกรมการนำเข้าและส่งออก จะลดเวลาดำเนินการเหลือ 3 วัน

ทั้งนี้ การดำเนินการดังกล่าวจะต้องอยู่ในวันและเวลาราชการ รวมไปถึงการยื่นเอกสารถูกต้องและครบถ้วน นายสุลิยง กล่าวเพิ่มเติมว่า ในอนาคตกรมการนำเข้าและส่งออก ยังได้ค้นคว้านโยบายทางการค้าสำหรับ 3 รายการสินค้าที่แผนกอุตสาหกรรมและการค้าแขวงหรือนครหลวงรับผิดชอบในการออกใบอนุญาตนำเข้าและส่งออก อาทิ ปูนซีเมนต์ ข้าวสาร และเหล็ก โดยได้พิจารณา
ตัดเอกสารการขออนุญาตนำเข้าและส่งออกให้เหลือเพียงการตรวจสอบด้านเทคนิคที่ด่าน ซึ่งเป็นไปตามการเป็นภาคีขององค์การการค้าโลก ทั้งนี้ เพื่ออำนวยความสะดวกทางการค้า ลดขั้นตอนการขออนุญาต และลดต้นทุนของภาคธุรกิจลง

พบกับอัพเดตความเคลื่อนไหวและโอกาสในตลาดต่างประเทศที่สถานทูตไทยทั่วโลกตั้งใจติดตามมาให้ภาคเอกชนไทยได้ที่เว็บไซต์ www.globthailand.com หากมีข้อคิดเห็นหรือข้อเสนอแนะเพิ่มเติม สามารถเขียนมาคุยกันได้ที่ [email protected]

..............................................................................................

คอลัมน์ | หน้า 10 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ | ฉบับ 3,409 ระหว่างวันที่ 14-17 ตุลาคม 2561