อุ้ม 'ดีเซล' 2 บาท! เพดาน 30/ลิตร
กบง. เล็งเคาะชดเชยราคาน้ำมันดีเซล 2 บาทต่อลิตร พยุงขายปลีกไม่ให้เกิน 30 บาทต่อลิตร เงินกองทุนน้ำมันฯ ไหลออกเดือนละ 3 พันล้าน สหพันธ์การขนส่งทางบก ฮึ่ม!! ยื่นหนังสือ 'ศิริ' ขออุดหนุนไบโอดีเซล บี20 ลิตรละ 5 บาท
จากสถานการณ์ราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกมีแนวโน้มปรับตัวสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยล่าสุด น้ำมันดิบดูไบ ที่ใช้อ้างอิงราคาน้ำมันสำเร็จรูปของไทย ได้ปรับตัวมาอยู่ระดับ 81-82 ดอลลาร์สหรัฐฯ ต่อบาร์เรล ส่งผลให้ในการประชุมคณะกรรมการบริหารนโยบายพลังงาน (กบง.) มี นายศิริ จิระพงษ์พันธ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน เมื่อวันที่ 5 ต.ค. ที่ผ่านมา สั่งให้จับตาสถานการณ์ราคาน้ำมันอย่างใกล้ชิด เนื่องจากปัจจุบัน การนำเงินจากกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง ที่ กบง. เคยให้กรอบไว้ในการอุดหนุนราคาน้ำมันดีเซลที่ 1 บาทต่อลิตร เพื่อไม่ให้ราคาน้ำมันดีเซลทะลุลิตรละ 30 บาทนั้น เต็มเพดานแล้ว โดยได้มอบหมายให้ที่ประชุมพิจารณาว่า หากราคาน้ำมันดิบยังปรับต่อเพิ่มขึ้นอีก จะมีมาตรการ หรือ วิธีในการพยุงราคาน้ำมันดีเซลไม่เกิน 30 บาทต่อลิตร ได้อย่างไร จากปัจจุบันอยู่ที่ 29.89 บาทต่อลิตร
แหล่งข่าวจากกระทรวงพลังงาน เปิดเผยกับ "ฐานเศรษฐกิจ" ว่า ในการประชุม กบง. ที่จะเกิดขึ้นในสัปดาห์นี้ คาดว่าจะมีการเห็นชอบกรอบเพดานการอุดหนุนราคาน้ำมันดีเซลเพิ่มขึ้นไปที่ 2 บาทต่อลิตร จากปัจจุบันที่ใช้เงินกองทุนน้ำมันฯ อุดหนุนราคาอยู่ที่ 1 บาทต่อลิตร จึงส่งผลให้ราคาขายปลีกน้ำมันดีเซล ยังไม่เกิน 30 บาทต่อลิตร ซึ่งการใช้วิธีดังกล่าว เพราะเห็นว่าราคาน้ำมันในตลาดโลกมีแนวโน้มปรับเพิ่มขึ้นอีกได้ หากมีมาตรการมารองรับจะช่วยแบ่งเบาภาระของผู้บริโภคได้ และไม่ต้องการให้กระทบต่อค่าขนส่งที่ปรับตัวสูงขึ้น
"การประชุม กบง. เมื่อวันที่ 5 ต.ค. ที่ผ่านมา ได้ปรับเพิ่มอัตราการชดเชยน้ำมันดีเซลหมุนเร็ว จากเดิม 90 สตางค์ต่อลิตร เป็น 1 บาทต่อลิตร หรือคิดเป็นกรอบการอุดหนุนราว 6 พันล้านบาท แต่เมื่อแนวโน้มราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกปรับตัวสูงขึ้น จึงจำเป็นต้องขยายกรอบเพดานในการอุดหนุนราคาน้ำมันดีเซลเพิ่มขึ้น ซึ่งจะส่งผลให้กรอบวงเงินที่ให้ไว้หมดลงเร็วด้วย เพราะต้องใช้เงินอุดหนุนเกือบ 2 พันล้านบาทต่อเดือน จากปริมาณการใช้เฉลี่ยอยู่ที่ราว 63 ล้านลิตรต่อวัน"
แหล่งข่าวกล่าวอีกว่า นอกจากนี้ ในส่วนของราคาก๊าซปิโตรเลียมเหลว (แอลพีจี) ในช่วงเดือน ต.ค. ถึง พ.ย. นี้ ยังเป็นช่วงขาขึ้น ล่าสุด ราคาแอลพีจีตลาดโลกอยู่ที่ 655 ดอลลาร์สหรัฐฯ ต่อตัน เทียบเดือนก่อนอยู่ที่ 617 ดอลลาร์สหรัฐฯ ต่อตัน ซึ่งปัจจุบัน ใช้เงินกองทุนแอลพีจีอุดหนุนราคาขายปลีกไว้อยู่ที่ 363 บาทต่อถัง 15 กิโลกรัม ซึ่งยังอยู่ในกรอบที่ขออนุมัติ กบง. ไว้ที่ 7 พันล้านบาท โดยปัจจุบัน มีเงินกองทุนแอลพีจีไหลออก 1.1 พันล้านบาทต่อเดือน ล่าสุด ฐานะกองทุนแอลพีจี เมื่อวันที่ 7 ต.ค. 2561 ติดลบ 4.3 พันล้านบาท ซึ่งยังเหลืออีกประมาณ 3 พันล้านบาท ใช้อุดหนุนราคาแอลพีจีได้อีก 3 เดือน ซึ่งคาดว่าหลังจากสิ้นปีนี้ไปแล้ว ราคาแอลพีจีน่าจะปรับตัวลดลงในช่วงต้นปีหน้า ซึ่งปัจจุบัน สถานะกองทุนน้ำมันฯ มีเงินฐานสุทธิที่ 2.45 หมื่นล้านบาท
"ถ้าสถานการณ์ราคาน้ำมันในตลาดโลกยังทรงตัวอยู่ในระดับนี้และมีแนวโน้มปรับตัวสูงขึ้นได้อีก จะทำให้สถานะกองทุนน้ำมันฯ ร่อยหรอลงเรื่อย ๆ เพราะจะมีเงินไหลออกจากการอุดหนุนราคาดีเซลและแอลพีจีไม่ต่ำกว่าเดือนละ 3 พันล้านบาท และจะหมดลงในระยะเวลาไม่ถึง 8 เดือน"
นายทองอยู่ คงขันธ์ สหพันธ์การขนส่งทางบกแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า สหพันธ์ฯ เตรียมประชุมเพื่อหาแนวทางรับมือกับราคาน้ำมันที่ปรับเพิ่มขึ้นในวันที่ 11 ต.ค. นี้ ว่า จะหาทางประหยัดต้นทุนค่าขนส่งได้อย่างไร แม้ว่าทางกระทรวงพลังงานจะยังใช้เงินจากกองทุนน้ำมันฯ อุดหนุนราคาดีเซลไม่เกิน 30 บาทต่อลิตรก็ตาม โดยกำลังจะพิจารณาว่าจะกลับไปใช้ก๊าซธรรมชาติสำหรับรถยนต์ (เอ็นจีวี) หรือไม่ เพราะเอ็นจีวีก็มีราคาสูงที่ 15 บาทต่อกิโลกรัมแล้ว
ดังนั้น แนวทางที่เป็นไปได้ สหพันธ์ฯ จะยื่นหนังสือไปยังรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน เพื่อขอปรับเพิ่มเงินอุดหนุนราคาไบโอดีเซล บี20 จาก 3 บาทต่อลิตร เป็น 5 บาทต่อลิตร เนื่องจากค่าซ่อมบำรุงสูง ประกอบกับภาครัฐควรเข้ามาควบคุมราคายางรถยนต์ แบตเตอรี่ น้ำมันหล่อลื่น เนื่องจากราคาต่างจากประเทศเพื่อนบ้านมาก ทำให้ขีดความสามารถในการแข่งขันของไทยน้อยลง ซึ่งสหพันธ์ฯ จะสรุปมาตรการอีกครั้งหลังประชุมเสร็จแล้ว
"ราคาน้ำมันดีเซลจะปรับขึ้นเกิน 30 บาทต่อลิตร ไม่ได้ เพราะจะกระทบต่อค่าขนส่งอย่างมาก ตอนนี้ 29.89 บาทต่อลิตร ก็ไม่มีกำไรแล้ว เชื่อว่ากระทรวงพลังงานจะยังคงใช้เงินกองทุนน้ำมันฯ อุดหนุนราคาดีเซลไว้ เพื่อไม่ให้กระทบต่อค่าขนส่ง ยังมีเงินช่วยเหลืออีกระยะหนึ่ง แต่หากราคาน้ำมันขยับขึ้นอีก และกระทรวงพลังงานเตรียมขยับราคาดีเซลเกิน 30 บาทต่อลิตร ทางสหพันธ์ฯ เตรียมประชุมเพื่อหามาตรการรองรับเช่นกัน ในวันที่ 11 ต.ค. นี้ ซึ่งการปรับขึ้นค่าขนส่งจะเป็นมาตรการขั้นสุดท้าย" นายทองอยู่ กล่าว
……………….
หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 38 ฉบับที่ 3,408 วันที่ 11 - 13 ต.ค. 2561 หน้า 01-02
ข่าวที่เกี่ยวข้อง :
● "ศิริ" รับมือราคาน้ำมันพุ่งเกิน 90 ดอลลาร์ เล็งลดภาษีน้ำมันดีเซลช่วย 50 ส.ต./ลิตร
● เฮ! ปตท. ปรับราคาน้ำมันลง 50 สตางค์/ลิตร เว้น E85 ลง 30 สตางค์ ดีเซลคงเดิม มีผลพรุ่งนี้ (10 ต.ค.)
จากสถานการณ์ราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกมีแนวโน้มปรับตัวสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยล่าสุด น้ำมันดิบดูไบ ที่ใช้อ้างอิงราคาน้ำมันสำเร็จรูปของไทย ได้ปรับตัวมาอยู่ระดับ 81-82 ดอลลาร์สหรัฐฯ ต่อบาร์เรล ส่งผลให้ในการประชุมคณะกรรมการบริหารนโยบายพลังงาน (กบง.) มี นายศิริ จิระพงษ์พันธ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน เมื่อวันที่ 5 ต.ค. ที่ผ่านมา สั่งให้จับตาสถานการณ์ราคาน้ำมันอย่างใกล้ชิด เนื่องจากปัจจุบัน การนำเงินจากกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง ที่ กบง. เคยให้กรอบไว้ในการอุดหนุนราคาน้ำมันดีเซลที่ 1 บาทต่อลิตร เพื่อไม่ให้ราคาน้ำมันดีเซลทะลุลิตรละ 30 บาทนั้น เต็มเพดานแล้ว โดยได้มอบหมายให้ที่ประชุมพิจารณาว่า หากราคาน้ำมันดิบยังปรับต่อเพิ่มขึ้นอีก จะมีมาตรการ หรือ วิธีในการพยุงราคาน้ำมันดีเซลไม่เกิน 30 บาทต่อลิตร ได้อย่างไร จากปัจจุบันอยู่ที่ 29.89 บาทต่อลิตร
แหล่งข่าวจากกระทรวงพลังงาน เปิดเผยกับ "ฐานเศรษฐกิจ" ว่า ในการประชุม กบง. ที่จะเกิดขึ้นในสัปดาห์นี้ คาดว่าจะมีการเห็นชอบกรอบเพดานการอุดหนุนราคาน้ำมันดีเซลเพิ่มขึ้นไปที่ 2 บาทต่อลิตร จากปัจจุบันที่ใช้เงินกองทุนน้ำมันฯ อุดหนุนราคาอยู่ที่ 1 บาทต่อลิตร จึงส่งผลให้ราคาขายปลีกน้ำมันดีเซล ยังไม่เกิน 30 บาทต่อลิตร ซึ่งการใช้วิธีดังกล่าว เพราะเห็นว่าราคาน้ำมันในตลาดโลกมีแนวโน้มปรับเพิ่มขึ้นอีกได้ หากมีมาตรการมารองรับจะช่วยแบ่งเบาภาระของผู้บริโภคได้ และไม่ต้องการให้กระทบต่อค่าขนส่งที่ปรับตัวสูงขึ้น
"การประชุม กบง. เมื่อวันที่ 5 ต.ค. ที่ผ่านมา ได้ปรับเพิ่มอัตราการชดเชยน้ำมันดีเซลหมุนเร็ว จากเดิม 90 สตางค์ต่อลิตร เป็น 1 บาทต่อลิตร หรือคิดเป็นกรอบการอุดหนุนราว 6 พันล้านบาท แต่เมื่อแนวโน้มราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกปรับตัวสูงขึ้น จึงจำเป็นต้องขยายกรอบเพดานในการอุดหนุนราคาน้ำมันดีเซลเพิ่มขึ้น ซึ่งจะส่งผลให้กรอบวงเงินที่ให้ไว้หมดลงเร็วด้วย เพราะต้องใช้เงินอุดหนุนเกือบ 2 พันล้านบาทต่อเดือน จากปริมาณการใช้เฉลี่ยอยู่ที่ราว 63 ล้านลิตรต่อวัน"
แหล่งข่าวกล่าวอีกว่า นอกจากนี้ ในส่วนของราคาก๊าซปิโตรเลียมเหลว (แอลพีจี) ในช่วงเดือน ต.ค. ถึง พ.ย. นี้ ยังเป็นช่วงขาขึ้น ล่าสุด ราคาแอลพีจีตลาดโลกอยู่ที่ 655 ดอลลาร์สหรัฐฯ ต่อตัน เทียบเดือนก่อนอยู่ที่ 617 ดอลลาร์สหรัฐฯ ต่อตัน ซึ่งปัจจุบัน ใช้เงินกองทุนแอลพีจีอุดหนุนราคาขายปลีกไว้อยู่ที่ 363 บาทต่อถัง 15 กิโลกรัม ซึ่งยังอยู่ในกรอบที่ขออนุมัติ กบง. ไว้ที่ 7 พันล้านบาท โดยปัจจุบัน มีเงินกองทุนแอลพีจีไหลออก 1.1 พันล้านบาทต่อเดือน ล่าสุด ฐานะกองทุนแอลพีจี เมื่อวันที่ 7 ต.ค. 2561 ติดลบ 4.3 พันล้านบาท ซึ่งยังเหลืออีกประมาณ 3 พันล้านบาท ใช้อุดหนุนราคาแอลพีจีได้อีก 3 เดือน ซึ่งคาดว่าหลังจากสิ้นปีนี้ไปแล้ว ราคาแอลพีจีน่าจะปรับตัวลดลงในช่วงต้นปีหน้า ซึ่งปัจจุบัน สถานะกองทุนน้ำมันฯ มีเงินฐานสุทธิที่ 2.45 หมื่นล้านบาท
"ถ้าสถานการณ์ราคาน้ำมันในตลาดโลกยังทรงตัวอยู่ในระดับนี้และมีแนวโน้มปรับตัวสูงขึ้นได้อีก จะทำให้สถานะกองทุนน้ำมันฯ ร่อยหรอลงเรื่อย ๆ เพราะจะมีเงินไหลออกจากการอุดหนุนราคาดีเซลและแอลพีจีไม่ต่ำกว่าเดือนละ 3 พันล้านบาท และจะหมดลงในระยะเวลาไม่ถึง 8 เดือน"
นายทองอยู่ คงขันธ์ สหพันธ์การขนส่งทางบกแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า สหพันธ์ฯ เตรียมประชุมเพื่อหาแนวทางรับมือกับราคาน้ำมันที่ปรับเพิ่มขึ้นในวันที่ 11 ต.ค. นี้ ว่า จะหาทางประหยัดต้นทุนค่าขนส่งได้อย่างไร แม้ว่าทางกระทรวงพลังงานจะยังใช้เงินจากกองทุนน้ำมันฯ อุดหนุนราคาดีเซลไม่เกิน 30 บาทต่อลิตรก็ตาม โดยกำลังจะพิจารณาว่าจะกลับไปใช้ก๊าซธรรมชาติสำหรับรถยนต์ (เอ็นจีวี) หรือไม่ เพราะเอ็นจีวีก็มีราคาสูงที่ 15 บาทต่อกิโลกรัมแล้ว
ดังนั้น แนวทางที่เป็นไปได้ สหพันธ์ฯ จะยื่นหนังสือไปยังรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน เพื่อขอปรับเพิ่มเงินอุดหนุนราคาไบโอดีเซล บี20 จาก 3 บาทต่อลิตร เป็น 5 บาทต่อลิตร เนื่องจากค่าซ่อมบำรุงสูง ประกอบกับภาครัฐควรเข้ามาควบคุมราคายางรถยนต์ แบตเตอรี่ น้ำมันหล่อลื่น เนื่องจากราคาต่างจากประเทศเพื่อนบ้านมาก ทำให้ขีดความสามารถในการแข่งขันของไทยน้อยลง ซึ่งสหพันธ์ฯ จะสรุปมาตรการอีกครั้งหลังประชุมเสร็จแล้ว
"ราคาน้ำมันดีเซลจะปรับขึ้นเกิน 30 บาทต่อลิตร ไม่ได้ เพราะจะกระทบต่อค่าขนส่งอย่างมาก ตอนนี้ 29.89 บาทต่อลิตร ก็ไม่มีกำไรแล้ว เชื่อว่ากระทรวงพลังงานจะยังคงใช้เงินกองทุนน้ำมันฯ อุดหนุนราคาดีเซลไว้ เพื่อไม่ให้กระทบต่อค่าขนส่ง ยังมีเงินช่วยเหลืออีกระยะหนึ่ง แต่หากราคาน้ำมันขยับขึ้นอีก และกระทรวงพลังงานเตรียมขยับราคาดีเซลเกิน 30 บาทต่อลิตร ทางสหพันธ์ฯ เตรียมประชุมเพื่อหามาตรการรองรับเช่นกัน ในวันที่ 11 ต.ค. นี้ ซึ่งการปรับขึ้นค่าขนส่งจะเป็นมาตรการขั้นสุดท้าย" นายทองอยู่ กล่าว
……………….
หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 38 ฉบับที่ 3,408 วันที่ 11 - 13 ต.ค. 2561 หน้า 01-02
ข่าวที่เกี่ยวข้อง :
● "ศิริ" รับมือราคาน้ำมันพุ่งเกิน 90 ดอลลาร์ เล็งลดภาษีน้ำมันดีเซลช่วย 50 ส.ต./ลิตร
● เฮ! ปตท. ปรับราคาน้ำมันลง 50 สตางค์/ลิตร เว้น E85 ลง 30 สตางค์ ดีเซลคงเดิม มีผลพรุ่งนี้ (10 ต.ค.)
