"รปช." ยัน! เก็บวันละบาท เป็นเงินค่าสมาชิกพรรค
รปช. ยัน! ไม่มีการเรี่ยไรเงิน เหตุยังไม่มีสถานะเป็นพรรคการเมือง ไม่สามารถเทียบเคียงกับพรรคอนาคตใหม่ได้ ส่วนการเก็บเงินวันละ 1 บาท ให้ครบ 1 ปี เป็นการเปรียบเทียบกับการกำหนดค่าสมัคร 365 บาทต่อปี ชี้! เป็นเงินที่สมาชิกต้องจ่ายตามกฎหมายอยู่แล้ว
ที่อาคารทู แปซิฟิคเพลส นายทวีศักดิ์ ณ ตะกั่วทุ่ง ว่าที่เลขาธิการ พรรครวมพลังประชาชาติไทย (รปช.) และ ร.ต.อ.ดร.จอมเดช ตรีเมฆ, นายเขตรัฐ เหล่าธรรมทัศน์ และนางสาว เพชรชมพู กิจบูรณะ ทีมงานโฆษกพรรครวมพลังประชาชาติไทย แถลงข่าวถึงกรณีเงินค่าสมาชิกพรรคกับเงินบริจาค
นายทวีศักดิ์ ณ ตะกั่วทุ่ง ว่าที่เลขาธิการ พรรครวมพลังประชาชาติไทย (รปช.) กล่าวถึงกรณีเทียบเคียงที่คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ห้ามพรรคอนาคตใหม่ (อนค.) เรี่ยไรเงิน กับพรรครวมพลังประชาชาติไทย (รปช.) ที่ เดินสายขอเงินวันละ 1 บาท อาจส่อให้เห็นความไม่เที่ยงธรรมของ กกต. ว่า พรรคกำหนดค่าสมัครสมาชิก 365 บาท ก็คือ การเก็บเงินวันละ 1 บาท ซึ่งอาจจะแพงกว่าที่กฎหมายกำหนด หรือ อาจแพงสำหรับประชาชนไปหน่อย แต่เพื่อให้สมาชิกแสดงความเป็นเจ้าของพรรค ดังนั้น การเปรียบเทียบกับพรรคอนาคตใหม่อาจทำให้เข้าใจผิด เพราะค่าบำรุงพรรคที่สมาชิกต้องจ่าย เป็นเงินที่สมาชิกต้องจ่ายตามกฎหมายอยู่แล้ว ส่วนเรื่องเงินบริจาคตามกฎหมายพรรคการเมือง ก็มีการแยกแยะไว้ ที่ต้องมีการจัดทำบัญชี แสดงจำนวนเงินอย่างเด่นชัด ไม่ให้มีการปิดบังอำพรางไม่โปร่งใส และรายได้จากการจัดกิจกรรมระดมทุน ซึ่งพรรครวมพลังประชาชาติไทยยังไม่สามารถรับบริจาคได้ เพราะยังไม่มีสถานะเป็นพรรคการเมือง ดังนั้น ที่นายสุเทพ เทือกสุบรรณ แกนนำผู้จัดตั้งพรรค บอกว่า ให้เก็บเงินวันละ 1 บาท เมื่อครบแล้วก็ค่อยสมัครสมาชิก และหากบุคคลใดยังไม่พร้อม ก็สามารถแสดงความจำนงมากรอกเอกสารเพื่อเป็นสมาชิกสมทบก่อนได้ โดยมีสิทธิ์แสดงความเห็นและรับข้อมูลข่าวสารตามเสรีภาพภายใต้รัฐธรรมนูญ
นายทวีศักดิ์ กล่าวต่อ ถึงเงินทุนประเดิมพรรคที่ต้องมีไม่น้อยกว่า 1 ล้านบาท จากการรวมกันของผู้ก่อตั้งพรรคนั้น ผู้ก่อตั้งพรรครวมพลังประชาชาติไทยมีการจ่ายคนละ 5 หมื่นบาท เต็มเพดานสูงสุดที่กฎหมายกำหนด จากแกนนำก่อตั้งพรรคทั้งหมด 600 กว่าคน จึงมีเงินทุนประเดิมขณะนี้กว่า 30 ล้านบาท
ส่วนการประชุมสมัชชาใหญ่เพื่อเลือกคณะกรรมการบริหารพรรคชุดถาวร นายทวีศักดิ์ บอกว่า เบื้องต้นต้องรอให้ กกต. รับรองความเป็นพรรคการเมืองก่อน แล้วจะเร่งหาสมาชิกให้ได้มากที่สุด ซึ่งต้องพิจารณาเรื่องจำนวนสมาชิกที่เหมาะสมอีกครั้ง แต่เบื้องต้น ความรู้สึกของคณะผู้บริหารพรรคอยากให้มีสมาชิกจำนวนมาก เพื่อแสดงออกถึงความมีส่วนร่วม แต่ยืนยันว่า จะมีการประชุมสมัชชาใหญ่และได้คณะกรรมการบริหารพรรคชุดถาวรก่อนส่งผู้สมัครรับเลือกตั้งแน่นอน
ที่อาคารทู แปซิฟิคเพลส นายทวีศักดิ์ ณ ตะกั่วทุ่ง ว่าที่เลขาธิการ พรรครวมพลังประชาชาติไทย (รปช.) และ ร.ต.อ.ดร.จอมเดช ตรีเมฆ, นายเขตรัฐ เหล่าธรรมทัศน์ และนางสาว เพชรชมพู กิจบูรณะ ทีมงานโฆษกพรรครวมพลังประชาชาติไทย แถลงข่าวถึงกรณีเงินค่าสมาชิกพรรคกับเงินบริจาค
นายทวีศักดิ์ ณ ตะกั่วทุ่ง ว่าที่เลขาธิการ พรรครวมพลังประชาชาติไทย (รปช.) กล่าวถึงกรณีเทียบเคียงที่คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ห้ามพรรคอนาคตใหม่ (อนค.) เรี่ยไรเงิน กับพรรครวมพลังประชาชาติไทย (รปช.) ที่ เดินสายขอเงินวันละ 1 บาท อาจส่อให้เห็นความไม่เที่ยงธรรมของ กกต. ว่า พรรคกำหนดค่าสมัครสมาชิก 365 บาท ก็คือ การเก็บเงินวันละ 1 บาท ซึ่งอาจจะแพงกว่าที่กฎหมายกำหนด หรือ อาจแพงสำหรับประชาชนไปหน่อย แต่เพื่อให้สมาชิกแสดงความเป็นเจ้าของพรรค ดังนั้น การเปรียบเทียบกับพรรคอนาคตใหม่อาจทำให้เข้าใจผิด เพราะค่าบำรุงพรรคที่สมาชิกต้องจ่าย เป็นเงินที่สมาชิกต้องจ่ายตามกฎหมายอยู่แล้ว ส่วนเรื่องเงินบริจาคตามกฎหมายพรรคการเมือง ก็มีการแยกแยะไว้ ที่ต้องมีการจัดทำบัญชี แสดงจำนวนเงินอย่างเด่นชัด ไม่ให้มีการปิดบังอำพรางไม่โปร่งใส และรายได้จากการจัดกิจกรรมระดมทุน ซึ่งพรรครวมพลังประชาชาติไทยยังไม่สามารถรับบริจาคได้ เพราะยังไม่มีสถานะเป็นพรรคการเมือง ดังนั้น ที่นายสุเทพ เทือกสุบรรณ แกนนำผู้จัดตั้งพรรค บอกว่า ให้เก็บเงินวันละ 1 บาท เมื่อครบแล้วก็ค่อยสมัครสมาชิก และหากบุคคลใดยังไม่พร้อม ก็สามารถแสดงความจำนงมากรอกเอกสารเพื่อเป็นสมาชิกสมทบก่อนได้ โดยมีสิทธิ์แสดงความเห็นและรับข้อมูลข่าวสารตามเสรีภาพภายใต้รัฐธรรมนูญ
นายทวีศักดิ์ กล่าวต่อ ถึงเงินทุนประเดิมพรรคที่ต้องมีไม่น้อยกว่า 1 ล้านบาท จากการรวมกันของผู้ก่อตั้งพรรคนั้น ผู้ก่อตั้งพรรครวมพลังประชาชาติไทยมีการจ่ายคนละ 5 หมื่นบาท เต็มเพดานสูงสุดที่กฎหมายกำหนด จากแกนนำก่อตั้งพรรคทั้งหมด 600 กว่าคน จึงมีเงินทุนประเดิมขณะนี้กว่า 30 ล้านบาท
ส่วนการประชุมสมัชชาใหญ่เพื่อเลือกคณะกรรมการบริหารพรรคชุดถาวร นายทวีศักดิ์ บอกว่า เบื้องต้นต้องรอให้ กกต. รับรองความเป็นพรรคการเมืองก่อน แล้วจะเร่งหาสมาชิกให้ได้มากที่สุด ซึ่งต้องพิจารณาเรื่องจำนวนสมาชิกที่เหมาะสมอีกครั้ง แต่เบื้องต้น ความรู้สึกของคณะผู้บริหารพรรคอยากให้มีสมาชิกจำนวนมาก เพื่อแสดงออกถึงความมีส่วนร่วม แต่ยืนยันว่า จะมีการประชุมสมัชชาใหญ่และได้คณะกรรมการบริหารพรรคชุดถาวรก่อนส่งผู้สมัครรับเลือกตั้งแน่นอน
