Golden Week ไทยเสียแชมป์ให้ญี่ปุ่น! "ทัวร์จีน" แห่เที่ยวมากที่สุด

เทศกาลวันหยุด Golden Week ฉลองวันชาติของจีน ซึ่งยาวนานถึง 7 วัน (เริ่มตั้งแต่วันที่ 1 ต.ค.) ผ่านพ้นไปแล้ว พร้อมตัวเลขประมาณการณ์ว่า ปีนี้นักท่องเที่ยวจีนที่ออกเดินทางสู่ต่างประเทศในช่วงเทศกาลวันหยุดยาวดังกล่าวจะมีจำนวนมากถึง 7 ล้านคน หรือคิดเป็นสัดส่วน 5% ของจำนวนนักท่องเที่ยวชาวจีนที่เดินทางออกไปยังต่างประเทศในแต่ละปี นี่คือ 1 ใน 2 เทศกาลวันหยุดสำคัญของจีน (อีกหนึ่งคือ เทศกาลตรุษจีน) ที่มีการเดินทางท่องเที่ยวมากที่สุดในรอบปี

จากการสำรวจของ Ctrip.com เว็บไซต์ยอดนิยมด้านการจองตั๋วและที่พักสำหรับการท่องเที่ยวของจีน พบว่า ประเทศที่เป็นจุดหมายปลายทางการท่องเที่ยวที่ได้รับความนิยมมากที่สุดสำหรับเทศกาลวันหยุด Golden Week ในปีนี้ คือ ญี่ปุ่น ซึ่งก้าวจากอันดับ 2 ในปีที่แล้ว เบียดประเทศไทยแชมป์เก่า ขึ้นมาเป็นอันดับ 1 ได้สำเร็จ โดยไทยเองก็หล่นเพียงอันดับเดียว ตกไปเป็นที่ 2




ตามมาด้วยฮ่องกง ที่ทะยานจากอันดับ 6 ในปีที่แล้ว ขึ้นมาเป็นอันดับที่ 3 ในปีนี้ เช่นเดียวกับเกาหลีใต้ ที่พุ่งหลายขั้นจากอันดับ 17 ในปี 2560 มาเป็นอันดับ 4 ขณะที่ สิงคโปร์หล่นจากอันดับ 3 ในปีที่แล้ว สู่อันดับ 5 ในปีนี้ และอีกประเทศจุดหมายปลายทางหล่นแรง หรือ ได้รับความสนใจจากนักท่องเที่ยวชาวจีนน้อยลงมาก คือ สหรัฐอเมริกา หล่นจากอันดับ 5 ไปอยู่ที่อันดับ 11

ทั้งนี้ เป็นที่สังเกตว่า จุดหมายปลายทาง 8 ประเทศแรกในอันดับสูงสุด เป็นประเทศในแถบเอเชียทั้งสิ้น และยอดจองเที่ยวบิน-ที่พักไปยังประเทศเซเนกัลและไอซ์แลนด์ที่เพิ่มขึ้นมากในปีนี้ ยังสะท้อนให้เห็นถึงความชื่นชอบในกีฬาฟุตบอลของชาวจีน เนื่องจากนักฟุตบอลทีมชาติของ 2 ประเทศนี้ สามารถเข้ารอบและแสดงผลงานได้ดีในการแข่งขันบอลโลก (เวิลด์คัพ) ที่รัสเซียปีนี้

เว็บไซต์ Ctrip.com ระบุว่า ในการตัดสินใจเลือกจุดหมายปลายทางการท่องเที่ยว นักท่องเที่ยวจีนให้ความสำคัญกับระดับความสัมพันธ์ระหว่างประเทศของจีนกับประเทศที่เป็นจุดหมาย จึงไม่แปลกใจที่ปีนี้ สหรัฐอเมริกาที่เคยได้รับความนิยมในอันดับ 5 เมื่อปีที่แล้ว จะร่วงหล่นมาอยู่อันดับที่ 11 ในปีนี้ เนื่องจากประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐฯ เปิดศึกการค้ากับจีนอย่างเต็มรูปแบบ ตั้งแต่เดือน ก.ค. ที่ผ่านมา ส่วนเกาหลีใต้ที่เคยบาดหมางกับจีนในเรื่องที่เกาหลีใต้สั่งซื้อระบบป้องกันขีปนาวุธจากสหรัฐฯ มาติดตั้งในช่วงที่การเผชิญหน้าระหว่างเกาหลีเหนือและใต้ร้อนระอุในปีที่แล้ว มาปีนี้ความสัมพันธ์ดีขึ้น หลังจากผู้นำเกาหลีเหนือและใต้หันมาพบปะเจรจากัน ทำให้สถานการณ์ในคาบสมุทรเกาหลีลดความตึงเครียดลงไปมาก และเกาหลีใต้ก็เด้งจากอันดับ 17 ในปี 2560 มาอยู่ในอันดับที่ 4 ในปีนี้ ในฐานะประเทศยอดนิยมในสายตาของนักท่องเที่ยวจีน




ส่วนญี่ปุ่นที่ขึ้นมาโค่นแชมป์อย่างไทยได้อย่างราบคาบในปีนี้ สื่อญี่ปุ่นอย่าง "นิกเคอิ เอเชี่ยน รีวิว" ระบุว่า สาเหตุหนึ่งที่สำคัญ คือ ประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ของจีน เพิ่งเดินทางเยือนญี่ปุ่นและพบปะเจรจากระชับสัมพันธ์กับนายกรัฐมนตรีชินโซ อาเบะ เมื่อกลางเดือน ก.ย. ที่ผ่านมา นอกจากนั้น ญี่ปุ่นยังมีแหล่งท่องเที่ยวที่หลากหลาย ตอบโจทย์ความต้องการที่แตกต่างกันไปของนักท่องเที่ยว อาทิ แหล่งช็อปปิ้ง น้ำพุร้อน ออนเซ็น แหล่งกินดื่มเที่ยว ดังนั้น แม้ปีนี้ ญี่ปุ่นจะเจอพายุ น้ำท่วม และภัยธรรมชาติมากมาย แต่นักท่องเที่ยวชาวจีนก็ยังเทใจให้ โดยเริ่มมีการเดินทางจากเมืองใหญ่ อย่าง โตเกียวและโอซาก้า ไปยังเมืองรองของญี่ปุ่นมากขึ้นด้วย

สำหรับไทยที่ถูกโค่นแชมป์เป็นครั้งแรกนั้น ส่วนหนึ่งน่าจะเป็นผลจากการที่สถานทูตจีนในไทยได้ออกหนังสือแนะนำ (Travel Advisory) แก่นักท่องเที่ยวจีนที่จะมายังประเทศไทยในช่วงเทศกาล Golden Week ว่า ให้ระวังสภาวะอากาศที่แปรปรวนและคลื่นลมแรงในทะเล หากต้องการจะมาเที่ยวภูเก็ต พังงา และกระบี่ ซึ่งเป็น 3 จังหวัดทางภาคใต้ ที่เป็นจุดหมายปลายทางที่นักท่องเที่ยวจีนนิยมมากที่สุด การออกหนังสือแนะนำดังกล่าว ส่วนหนึ่งเป็นผลพวงมาจากเมื่อเดือน ก.ค. ที่ผ่านมา มีอุบัติเหตุเรือท่องเที่ยวล่มกลางพายุที่ จ.ภูเก็ต ซึ่งส่งผลให้นักท่องเที่ยวชาวจีนเสียชีวิตถึง 47 คน