สวนกระแส "คุมสินเชื่อบ้าน" !! ความเชื่อมั่นผู้ประกอบการอสังหาฯ ยังเพิ่มขึ้น
ผู้ประกอบการอสังหาฯ ยังเชื่อมั่น ผลสำรวจไตรมาส 3 ยังเพิ่มขึ้น สวนกระแสออกกฎเข้าสินเชื่อที่อยู่อาศัย เหตุเชื่อมั่นภาวะเศรษฐกิจประเทศ
ศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ ได้สำรวจดัชนีความเชื่อมั่นของผู้ประกอบการธุรกิจพัฒนาที่อยู่อาศัยในกรุงเทพฯ และปริมณฑล 5 จังหวัด (นนทบุรี ปทุมธานี สมุทรปราการ สมุทรสาคร และนครปฐม) ในภาพรวมของไตรมาส 3 ปี 2561 ซึ่งเริ่มมีกระแสเรื่อง "ธนาคารแห่งประเทศไทยให้ความสนใจต่อภาวะฟองสบู่สินเชื่อที่อยู่อาศัยเป็นพิเศษ" แต่ผลสำรวจพบว่า ดัชนีความเชื่อมั่นยังอยู่ที่ 51.7 จุด เพิ่มขึ้นจากไตรมาสก่อนหน้า ซึ่งอยู่ในระดับ 50.9 จุด
ทั้งนี้ เนื่องจากผู้ประกอบการเชื่อมั่นต่อภาวะเศรษฐกิจของประเทศ ซึ่งคาดว่า GDP ในครึ่งแรกปี 2561 จะขยายตัว 4.8% และคาดว่า GDP ปี 2561 จะขยายตัว 4.2-4.7% จากการขยายตัวของการบริโภค การลงทุนภาคเอกชน และการใช้จ่ายของรัฐบาล
เมื่อจำแนกดัชนีความเชื่อมั่นในแต่ละด้าน พบว่า ความเชื่อมั่นด้านยอดขายและการลงทุน และด้านต้นทุนการประกอบการ มีค่าดัชนีเพิ่มขึ้น เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อนหน้า ส่วนด้านผลประกอบการ การจ้างงาน และการขึ้นโครงการใหม่/ยูนิต ลดลงจากไตรมาสก่อนหน้า แต่ค่าดัชนียังสูงกว่าค่ากลางที่ระดับ 50 จุด
นอกจากนั้น หากพิจารณาค่าดัชนีความเชื่อมั่น จำแนกตามกลุ่มผู้ประกอบการ พบว่า ผู้ประกอบการกลุ่ม Listed Companies มีค่าดัชนีเท่ากับ 56.1 จุด เพิ่มขึ้นจากไตรมาสก่อนหน้า ที่ค่าดัชนีอยู่ที่ 53.2 จุด แสดงว่า ผู้ประกอบการกลุ่ม Listed Companies ยังเชื่อมั่นในการดำเนินธุรกิจด้านอสังหาริมทรัพย์ปัจจุบัน ส่วนผู้ประกอบการกลุ่ม Non-Listed Companies มีค่าดัชนีเท่ากับ 45.2 จุด ต่ำกว่าค่ากลางที่ระดับ 50 จุด และลดลงจากไตรมาสก่อนหน้า ที่ระดับ 47.6 จุด แสดงว่า ผู้ประกอบการกลุ่ม Non-Listed Companies ยังไม่มีความเชื่อมั่นในการดำเนินธุรกิจในปัจจุบันและลดลงจากไตรมาสก่อนอีกด้วย
ส่วนดัชนีความเชื่อมั่นในอีก 6 เดือนข้างหน้า (Expectations Index) ในภาพรวมไตรมาส 3 ปี 2561 มีค่าเท่ากับ 57.5 ลดลงจากไตรมาสก่อนหน้า ซึ่งอยู่ที่ 62.0 จุด และเมื่อจำแนกดัชนีความเชื่อมั่นในอีก 6 เดือนข้างหน้าแต่ละด้านพบว่า ความเชื่อมั่นลดลงในทุกด้าน แต่ค่าดัชนียังสูงกว่าค่ากลางที่ระดับ 50 จุด ยกเว้น ต้นทุนประกอบการเท่านั้น ที่ค่าดัชนีต่ำกว่าค่ากลางที่ระดับ 50 จุด ซึ่งเป็นผลมาจากความกังวลต่อแนวโน้มราคาน้ำมันในตลาดโลกที่เพิ่มขึ้น ราคาวัสดุก่อสร้าง ราคาที่ดินที่ปรับเพิ่มขึ้น และความกังวลต่อการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในอนาคต รวมถึงอาจเป็นผลมาจากความกังวลเรื่องมาตรการควบคุมสินเชื่อที่อยู่อาศัยของธนาคารแห่งประเทศไทยอีกส่วนหนึ่งด้วย
อย่างไรก็ตาม หากพิจารณาจำแนกตามกลุ่มผู้ประกอบการ พบว่า ผู้ประกอบการกลุ่ม Listed Companies มีค่าดัชนีความเชื่อมั่นในอีก 6 เดือนข้างหน้า เท่ากับ 59.2 จุด ค่าดัชนีลดลงจากไตรมาสก่อนหน้า ซึ่งอยู่ที่ระดับ 67.5 จุด แต่ผู้ประกอบการกลุ่ม Non-Listed Companies มีค่าดัชนีความเชื่อมั่นในอีก 6 เดือนข้างหน้า เท่ากับ 54.9 จุด เพิ่มขึ้นจากไตรมาสก่อนหน้า 53.9 จุด สะท้อนให้เห็นว่า ผู้ประกอบการทั้ง 2 กลุ่ม มีความเชื่อมั่นต่อทิศทางการดำเนินธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ในอีก 6 เดือนข้างหน้า แต่ภาพรวมลดลงจากการสำรวจในไตรมาสก่อนหน้า โดยเป็นผลจากความกังวลด้านผลประกอบการ ยอดขาย ซึ่งส่งผลให้ความเชื่อมั่นในการเปิดโครงการใหม่และการลงทุนในอีก 6 เดือนข้างหน้า ที่มีผลที่ลดลงจากการสำรวจไตรมาสก่อน ทั้งนี้ อาจเป็นผลจากความกังวลต่อผลกระทบที่จะเกิดจากมาตรการด้านนโยบาย Macroprudential สำหรับสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัยของธนาคารแห่งประเทศไทย ที่กำลังจะบังคับใช้ในช่วงต้นปี 2562
ศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ ได้สำรวจดัชนีความเชื่อมั่นของผู้ประกอบการธุรกิจพัฒนาที่อยู่อาศัยในกรุงเทพฯ และปริมณฑล 5 จังหวัด (นนทบุรี ปทุมธานี สมุทรปราการ สมุทรสาคร และนครปฐม) ในภาพรวมของไตรมาส 3 ปี 2561 ซึ่งเริ่มมีกระแสเรื่อง "ธนาคารแห่งประเทศไทยให้ความสนใจต่อภาวะฟองสบู่สินเชื่อที่อยู่อาศัยเป็นพิเศษ" แต่ผลสำรวจพบว่า ดัชนีความเชื่อมั่นยังอยู่ที่ 51.7 จุด เพิ่มขึ้นจากไตรมาสก่อนหน้า ซึ่งอยู่ในระดับ 50.9 จุด
ทั้งนี้ เนื่องจากผู้ประกอบการเชื่อมั่นต่อภาวะเศรษฐกิจของประเทศ ซึ่งคาดว่า GDP ในครึ่งแรกปี 2561 จะขยายตัว 4.8% และคาดว่า GDP ปี 2561 จะขยายตัว 4.2-4.7% จากการขยายตัวของการบริโภค การลงทุนภาคเอกชน และการใช้จ่ายของรัฐบาล
เมื่อจำแนกดัชนีความเชื่อมั่นในแต่ละด้าน พบว่า ความเชื่อมั่นด้านยอดขายและการลงทุน และด้านต้นทุนการประกอบการ มีค่าดัชนีเพิ่มขึ้น เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อนหน้า ส่วนด้านผลประกอบการ การจ้างงาน และการขึ้นโครงการใหม่/ยูนิต ลดลงจากไตรมาสก่อนหน้า แต่ค่าดัชนียังสูงกว่าค่ากลางที่ระดับ 50 จุด
นอกจากนั้น หากพิจารณาค่าดัชนีความเชื่อมั่น จำแนกตามกลุ่มผู้ประกอบการ พบว่า ผู้ประกอบการกลุ่ม Listed Companies มีค่าดัชนีเท่ากับ 56.1 จุด เพิ่มขึ้นจากไตรมาสก่อนหน้า ที่ค่าดัชนีอยู่ที่ 53.2 จุด แสดงว่า ผู้ประกอบการกลุ่ม Listed Companies ยังเชื่อมั่นในการดำเนินธุรกิจด้านอสังหาริมทรัพย์ปัจจุบัน ส่วนผู้ประกอบการกลุ่ม Non-Listed Companies มีค่าดัชนีเท่ากับ 45.2 จุด ต่ำกว่าค่ากลางที่ระดับ 50 จุด และลดลงจากไตรมาสก่อนหน้า ที่ระดับ 47.6 จุด แสดงว่า ผู้ประกอบการกลุ่ม Non-Listed Companies ยังไม่มีความเชื่อมั่นในการดำเนินธุรกิจในปัจจุบันและลดลงจากไตรมาสก่อนอีกด้วย
ส่วนดัชนีความเชื่อมั่นในอีก 6 เดือนข้างหน้า (Expectations Index) ในภาพรวมไตรมาส 3 ปี 2561 มีค่าเท่ากับ 57.5 ลดลงจากไตรมาสก่อนหน้า ซึ่งอยู่ที่ 62.0 จุด และเมื่อจำแนกดัชนีความเชื่อมั่นในอีก 6 เดือนข้างหน้าแต่ละด้านพบว่า ความเชื่อมั่นลดลงในทุกด้าน แต่ค่าดัชนียังสูงกว่าค่ากลางที่ระดับ 50 จุด ยกเว้น ต้นทุนประกอบการเท่านั้น ที่ค่าดัชนีต่ำกว่าค่ากลางที่ระดับ 50 จุด ซึ่งเป็นผลมาจากความกังวลต่อแนวโน้มราคาน้ำมันในตลาดโลกที่เพิ่มขึ้น ราคาวัสดุก่อสร้าง ราคาที่ดินที่ปรับเพิ่มขึ้น และความกังวลต่อการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในอนาคต รวมถึงอาจเป็นผลมาจากความกังวลเรื่องมาตรการควบคุมสินเชื่อที่อยู่อาศัยของธนาคารแห่งประเทศไทยอีกส่วนหนึ่งด้วย
อย่างไรก็ตาม หากพิจารณาจำแนกตามกลุ่มผู้ประกอบการ พบว่า ผู้ประกอบการกลุ่ม Listed Companies มีค่าดัชนีความเชื่อมั่นในอีก 6 เดือนข้างหน้า เท่ากับ 59.2 จุด ค่าดัชนีลดลงจากไตรมาสก่อนหน้า ซึ่งอยู่ที่ระดับ 67.5 จุด แต่ผู้ประกอบการกลุ่ม Non-Listed Companies มีค่าดัชนีความเชื่อมั่นในอีก 6 เดือนข้างหน้า เท่ากับ 54.9 จุด เพิ่มขึ้นจากไตรมาสก่อนหน้า 53.9 จุด สะท้อนให้เห็นว่า ผู้ประกอบการทั้ง 2 กลุ่ม มีความเชื่อมั่นต่อทิศทางการดำเนินธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ในอีก 6 เดือนข้างหน้า แต่ภาพรวมลดลงจากการสำรวจในไตรมาสก่อนหน้า โดยเป็นผลจากความกังวลด้านผลประกอบการ ยอดขาย ซึ่งส่งผลให้ความเชื่อมั่นในการเปิดโครงการใหม่และการลงทุนในอีก 6 เดือนข้างหน้า ที่มีผลที่ลดลงจากการสำรวจไตรมาสก่อน ทั้งนี้ อาจเป็นผลจากความกังวลต่อผลกระทบที่จะเกิดจากมาตรการด้านนโยบาย Macroprudential สำหรับสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัยของธนาคารแห่งประเทศไทย ที่กำลังจะบังคับใช้ในช่วงต้นปี 2562
