สถานกงสุลผนึก ททท.ฟุกุโอกะ บูม 'ญี่ปุ่น' 1.75 ล้านคน เที่ยวไทย

สถานทูตไทยจับมือ ททท. ดันทัวริสต์ญี่ปุ่นด้านใต้เที่ยวไทย รับการกลับมาเปิดสถานกงสุล-สำนักงานท่องเที่ยวเมืองฟุกุโอกะ เผย ทุนญี่ปุ่นแห่สร้าง "ไทย วิลเลจ" ในแหล่งท่องเที่ยวใหม่ ททท. รุกกลุ่มเฟิสต์วิสิต จับมือเอเยนต์เปิดเช่าเหมาลำ 3 แอร์ไลน์ บินตรงเข้าไทย

 

[caption id="attachment_330234" align="aligncenter" width="349"] บรรสาน บุนนาค[/caption]

นายบรรสาน บุนนาค เอกอัครราชทูต ณ กรุงโตเกียว เปิดเผยกับ "ฐานเศรษฐกิจ" ว่า ปีที่ผ่านมา มีคนญี่ปุ่นมาเที่ยวไทย 1.5 ล้านคน ซึ่งเป็นอันดับ 5 รองจากไปเที่ยวเกาหลีใต้, ไต้หวัน, ฮ่องกง, มาเก๋า และมีคนไทยไปเที่ยวญี่ปุ่นในปีนี้ราว 1 ล้านคน จากการที่ญี่ปุ่นขยายเวลายกเว้นวีซ่าให้สำหรับท่องเที่ยวออกไปอีก 3 ปี (จากปี 2559-2562) ก็มีแนวโน้มที่คนไทยจะเที่ยวญี่ปุ่นมากกว่า 1 ล้านคน

แผนส่งเสริมการท่องเที่ยวระหว่าง 2 ประเทศ ในปีนี้นอกจากทางสถานทูตจะจัดเทศกาลไทย (ไทย เฟสติวัล) ที่กรุงโตเกียวแล้ว ยังจะเน้นขยายการจัดเทศกาลไทยไปยังเมืองต่าง ๆ ในญี่ปุ่นเพิ่มขึ้น อาทิ โอซากา เชนได อีกทั้งเมื่อไม่นานมานี้ ไทยเพิ่งจะกลับมาเปิดสถานกงสุลใหญ่ ณ เมืองฟุกุโอกะ รวมถึงการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ก็เพิ่งจะกลับมาเปิดสำนักงานที่ฟุกุโอกะ เมื่อวันที่ 1 ส.ค. ที่ผ่านมา จากที่ปิดไป 2 ปี ก็จะทำให้มีการทำงานที่เชื่อมโยงกันในการส่งเสริมการท่องเที่ยว

การจัดเทศกาลไทยวันนี้ ไม่ใช่มีแค่อาหารไทย แต่จะเน้นนำเสนอจุดเด่นของไทยอันเป็นที่น่าสนใจสำหรับตลาดญี่ปุ่น ไม่ว่าจะเป็น โครงการอีอีซี, โครงการหลวง อสังหาริมทรัพย์ที่คนญี่ปุ่นชอบไปซื้อ ซึ่งเริ่มเห็นว่า คนญี่ปุ่นเริ่มมองที่จะเข้าไปซื้อที่พักอาศัยใน จ.ชุมพร ที่เป็นพื้นที่ในโครงการไทยแลนด์ริเวียร่า และเน้นนำเสนอเมืองรองท่องเที่ยว การนำเสนอจุดขายทัวร์ริมโขง เป็นต้น

ทั้งยังพบว่า คนญี่ปุ่นให้ความสนใจเรื่องของอาหารและวัฒนธรรมไทยเป็นอย่างมาก เห็นได้จากขณะนี้นักลงทุนญี่ปุ่น มีการสร้าง "ไทย วิลเลจ" เข้าไปอยู่ในโครงการต่าง ๆ ซึ่งเป็นแหล่งท่องเที่ยวของญี่ปุ่นเพิ่มขึ้น อาทิ เมืองลิตเติล เวิลด์ (เมืองจำลองของญี่ปุ่น) ที่ จ.ไอจิ นาโกยา และทางโทบุ เวิลด์ สแควร์ ก็เพิ่งมาติดต่อสถานทูต ที่จะสร้างไทยวิลเลจเป็นส่วนหนึ่งในโครงการที่จะลงทุนด้วย ซึ่งก็ถือเป็นการสร้างการรับรู้ของไทยในญี่ปุ่น

นางสาวรุ่งทิพย์ ว่องปฏิการ คิมูระ ผู้อำนวยการ สำนักงานฟุกุโอกะ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เปิดเผยว่า การกลับมาเปิดสำนักงานของ ททท. ที่เมืองฟุกุโอกะอีกครั้ง จะทำให้การทำตลาดในพื้นที่ภาคใต้ของญี่ปุ่นมีความเข้มข้นมากขึ้น หลังจากปิดสำนักงานไปเมื่อช่วงปี 2559-2560 และปัจจุบัน ทางสำนักงานก็ได้ดึงงานที่ไปฝากไว้กับสำนักงานโอซากากลับมาดำเนินการตามแผนที่วางไว้ และเน้นร่วมมือกับสถานกงสุลของไทยที่ได้กลับมาเปิดใหม่ ในการจัดเทศกาลเมืองไทย (ไทยเฟสติวัล) ซึ่งเมืองฟุกุโอกะลงทุนจัดยิ่งใหญ่ต้อนรับการกลับมาของฝ่ายไทย




การทำตลาดของสำนักงานฟุกุโอกะจะดูแลพื้นที่ครอบคลุมไปถึงคิวชู, ฮิโรชิมา, ชิโกกุ ซึ่งกลุ่มเป้าหมายจะเน้นกลุ่มเฟิสต์วิสิต เพราะตลาดญี่ปุ่นกว่า 80% เป็นกลุ่มนักท่องเที่ยวมาซํ้าและเป็นคนสูงอายุ เราจึงมองการขยายฐานนักท่องเที่ยวกลุ่มใหม่ ซึ่งเมืองคิวชูมีศักยภาพในการเจาะตลาดนี้ เนื่องจากมีความโดดเด่นเรื่องอัตราการเกิดของเด็กมีสูงมาก ททท. จึงจะจัดทำโครงการ MY First Stamp เพื่อกระตุ้นให้คนญี่ปุ่นสแตมป์พาสปอร์ตครั้งแรกในไทย โดยคนญี่ปุ่นส่วนใหญ่จะเดินทางเที่ยวในประเทศ แต่มีจำนวน 20% จากประชากรทั้งประเทศ 120 ล้านคน ที่มีหนังสือเดินทาง

ส่วนจุดอ่อนของสำนักงานฟุกุโอกะ คือ จำนวนเที่ยวบินตรงเข้าไทยจากโอกินาวา เพียงวันละ 1 เที่ยวบินเท่านั้น โดยสายการบินพีช แอร์ ที่เป็นโลว์คอสต์ แอร์ไลน์ ซึ่งน้อยมากเมื่อเทียบกับโตเกียวและโอซากา ที่มีเที่ยวบินตรงเข้าไทยต่อวันเป็นจำนวนมาก ทำให้สัดส่วนการเดินทางเข้าไปจึงไปอยู่โตเกียวกว่า 50% โอซากา 40% และฟุกุโอกะ อยู่ที่ 10%

ทำให้ทางสำนักงานจึงจะร่วมมือกับบริษัทนำเที่ยวของญี่ปุ่น จัดชาร์เตอร์ไฟลต์นำนักท่องเที่ยวมาไทยที่จะเริ่มปลายปีนี้ โดยใช้บริการหลายสายการบิน ได้แก่ ไทยสมายล์, การบินไทย, นิวเจน แอร์ ที่จะบินจากจุดต่าง ๆ อาทิ ฮิโรชิมา, ฟุกุโอกะ และเชื่อว่าการผลักดันตลาดที่จะเกิดขึ้น จะทำให้สายการบินต่าง ๆ ของไทย มองโอกาสที่จะปรับการให้บริการจากเที่ยวบินเช่าเหมาลำมาให้ทำการบินแบบประจำต่อไป

อนึ่ง เป้าหมายการดึงคนญี่ปุ่นมาเที่ยวไทยในปี 2562 อยู่ที่ราว 1.75 ล้านคน มีการเติบโตของรายได้อยู่ที่ 10%


หน้า 22 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ฉบับ 3408 ระหว่างวันที่ 11 - 13 ตุลาคม 2561