อุตสาหกรรมจีนกำลังผลิตล้น กระทบคู่ค้า ปริมาณผลิตเหล็กพุ่งเกิน 4 ประเทศรวมกัน

28 ก.พ. 2559 | 00:00 น.
หอการค้าสหภาพยุโรป หรืออียูซีซี (European Union Chamber of Commerce: EUCC) ในประเทศจีนได้จัดทำรายงานเกี่ยวกับสภาวะเศรษฐกิจของจีนว่ากำลังเผชิญกับอุปสรรคใหญ่ที่จะเหนี่ยวรั้งการขยายตัวทางเศรษฐกิจของจีนเองและส่งผลกระทบต่อตลาดโลกในขณะเดียวกัน นั่นก็คือภาวะกำลังการผลิตล้นเกินในภาคอุตสาหกรรม

รายงานของอียูซีซีที่เผยแพร่เมื่อต้นสัปดาห์นี้ (22 ก.พ.) เตือนว่า สภาวะดังกล่าวสามารถส่งผลกระทบเชิงลบมากขึ้นเรื่อยๆ โดยรายงานใช้คำว่า สามารถสร้างความเสียหายมากขึ้น อันเป็นผลมาจากนโยบายของรัฐบาลจีนเองและการทำงานของเจ้าหน้าที่รัฐที่ทำงานไม่สอดประสานกันระหว่างภาคอุตสาหกรรมสำคัญๆ อย่างอุตสาหกรรมเหล็กกล้า ซีเมนต์ และเคมีภัณฑ์

"หากไม่มีความพยายามอย่างจริงจังที่จะลงมือจัดการเรื่องนี้ในเวลานี้ ปัญหากำลังผลิตล้นเกินก็จะกลายมาเป็นอุปสรรคสำคัญขัดขวางการปฏิรูปเศรษฐกิจของจีนเอง" เยอร์ก วุทเก้ ประธานหอการค้าสหภาพยุโรปในจีนกล่าว และเพิ่มเติมว่า นโยบายที่ไร้ประสิทธิภาพผนวกกับเจ้าหน้าที่รัฐในระดับท้องถิ่นที่มีวิสัยทัศน์คับแคบเป็นปัจจัยที่ซ้ำเติมให้ปัญหาดังกล่าวรุนแรงยิ่งขึ้น

ทั้งนี้ เป็นเวลาหลายทศวรรษแล้วที่จีนต้องเผชิญกับภาวะกำลังผลิตในภาคอุตสาหกรรมล้นเกิน ซึ่งหมายถึงภาวะที่อุปสงค์ หรือความต้องการสินค้าชนิดหนึ่งลดลงต่ำกว่าความสามารถในการผลิตสินค้านั้นๆ แต่ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา ปัญหาดังกล่าวทรุดตัวแย่ลงกว่าเดิมมากเมื่อรัฐบาลจีนใช้นโยบายอัดฉีดงบสนับสนุนอุตสาหกรรมหลักๆ อย่างเช่น อุตสาหกรรมต่อเรือและอุตสาหกรรมกระจก ทั้งๆ ที่ความต้องการหรืออุปสงค์ของตลาดโลกที่มีต่อสินค้าเหล่านี้ปรับลดลง

ยกตัวอย่าง อุปสงค์เหล็กกล้า ซึ่งลดลงในช่วงหลายปีที่ผ่านมา แต่กำลังผลิตเหล็กกล้าในจีนก็ยังคงเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ สวนกระแสตลาด โดยกำลังผลิตเหล็กกล้าในจีนได้พุ่งแซงหน้ากำลังผลิตเหล็กกล้าของ 4 ประเทศรวมกัน คือ อินเดีย ญี่ปุ่น รัสเซีย และสหรัฐอเมริกา

กำลังผลิตล้นตลาดของจีนส่งผลกระฉอกออกไปกระทบประเทศคู่ค้าและก่อให้เกิดความตึงเครียดทางการค้า เนื่องจากผู้ผลิตของจีนพยายามเทขายผลิตภัณฑ์ส่วนเกินออกสู่ตลาดส่งออกหลายประเทศ เช่น สหรัฐฯ ได้ตั้งกำแพงภาษีขึ้นสกัดกั้นผลิตภัณฑ์เหล็กกล้าบางชนิดที่นำเข้ามาจากประเทศจีน ขณะเดียวกัน ผู้ใช้แรงงานในอุตสาหกรรมเหล็กกล้าของยุโรปก็ได้ร่วมกันประท้วงเหล็กกล้านำเข้าราคาถูกจากประเทศจีน "ข้อพิพาททางการค้าส่งผลกระทบต่อซัพพลายเชน สิ่งนี้เป็นภัยคุกคามที่สำคัญต่อกระบวนการโลกาภิวัตน์"

ปฏิกริยาของเจ้าหน้าที่ภาครัฐของจีนไม่ได้ช่วยให้สถานการณ์ดีขึ้นเพราะจีนเองก็ได้วิพากษ์วิจารณ์ยุโรปเช่นกัน และตอบโต้ว่าสภาวะกำลังการผลิตล้นเกินนั้นเป็นปัญหาระดับโลก และรัฐบาลจีนเองก็กำลังปฏิรูปโครงสร้างอุตสาหกรรมเหล็กกล้า อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่ของจีนรับปากว่าจะค่อยๆ ลดกำลังการผลิตของหลากหลายอุตสาหกรรมที่กำลังประสบภาวะปริมาณการผลิตล้นตลาด เพื่อให้เป็นไปตามนโยบายปฏิรูปเศรษฐกิจ ที่หันมาส่งเสริมการขยายตัวของอุตสาหกรรมในภาคบริการให้มากขึ้น ส่งเสริมการจับจ่ายใช้สอยภายในประเทศ และกระจายการใช้ทรัพยากรการผลิตให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น แต่รายงานของอียูซีซีระบุว่า เป้าหมายดังกล่าวถูกสกัดกั้นด้วยการใช้มาตรการปกป้องผลประโยชน์ตนเองของเจ้าหน้าที่รัฐระดับท้องถิ่นที่ไม่ยอมปิดโรงงานและรัฐวิสาหกิจที่ขาดทุนและปล่อยให้ผลิตกันต่อไป เพียงเพราะเกรงว่าถ้าปิดโรงงานไปแล้ว รัฐบาลท้องถิ่นจะสูญเสียรายได้ในรูปภาษีที่เรียกเก็บจากผู้ประกอบการเหล่านี้

รายงานของอียูซีซีภายใต้หัวข้อ“กำลังผลิตส่วนเกินในจีน : อุปสรรคต่อการปฏิรูปของพรรคคอมมิวนิสต์” ได้นำเสนอทางออกจากปัญหาดังกล่าวด้วย โดยแนะให้รัฐบาลจีนลดการอัดฉีดงบสนับสนุนอุตสาหกรรมบางสาขา และเสนอให้นำภาษีมูลค่าเพิ่มมาใช้เป็นแหล่งรายได้เสริมให้แก่รัฐบาลท้องถิ่นเพื่อชดเชยรายได้รัฐที่สูญเสียไปหากมีบางโรงงานต้องถูกปิดเป็นต้น

จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 36 ฉบับที่ 3,134 วันที่ 25 - 27 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2559