ชวนสวมเสื้อเหลืองร่วมน้อมรำลึกวันคล้ายวันสวรรคต ร.9

08 ต.ค. 2561 | 09:38 น.
คสช.ชวนสวมเสื้อเหลืองร่วมน้อมรำลึกวันคล้ายวันสวรรคต ร.9 พร้อมเดินหน้าช่วยแก้ไขปัญหาหนี้สินเกษตรกร รักษาบรรยากาศการเมืองให้อยู่ในแนวทางที่เหมาะสม เผย เหตุการณ์จังหวัดชายแดนใต้ต้องแยกระหว่างคดีทั่วไปและก่อความไม่สงบ

พ.อ.หญิง ศิริจันทร์ งาทอง รองโฆษกกองทัพบก เปิดเผยว่า ในการประชุมสำนักเลขาธิการคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ในวันนี้ พล.อ.อภิรัชต์ คงสมพงษ์ เลขาธิการคณะรักษาความสงบแห่งชาติ เป็นประธานได้ให้ความสำคัญกับการจัดงานเนื่องในโอกาสวันคล้ายวันสวรรคตพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร ซึ่งรัฐบาลและทุกภาคส่วนได้จัดกิจกรรมเพื่อร่วมแสดงความจงรักภักดี และน้อมรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณ ในวันที่ 13 ตุลาคม 2561

ทั้งนี้ เลขาธิการ คสช.มอบหมายให้ทุกหน่วยงานสนับสนุนการจัดกิจกรรมบำเพ็ญกุศลอุทิศถวายทั้งในเรื่องการเตรียมงาน การประชาสัมพันธ์ การอำนวยความสะดวกให้กับพสกนิกรที่จะเข้าร่วมกิจกรรมในทุกพื้นที่โดยเฉพาะการเดินทาง โดยการประสานงานกับส่วนราชการประจำจังหวัด ในโอกาสนี้ขอเชิญชวนประชาชนสวมใส่เสื้อสีเหลืองในวันดังกล่าวด้วย

การประชุมในวันนี้ เลขาธิการคสช.ได้ขอบคุณหน่วยงานต่างๆทั้งฝ่ายปกครอง ตำรวจ และกองกำลังรักษาความสงบเรียบร้อยที่ร่วมกันแก้ไขปัญหาหนี้สินของเกษตรกร รวมถึงการแก้ไขปัญหาหนี้สินภาคประชาชน ตามนโยบายของรัฐบาลอย่างต่อเนื่องสามารถบรรเทาความเดือดร้อนให้ประชาชนได้ในระดับหนึ่ง ซึ่งทุกส่วนจะดำรงการช่วยแก้ไขปัญหาดังกล่าวต่อไป

รวมถึงจะสนับสนุนโครงการล่าสุดที่คณะรัฐมนตรี (ครม.) มีมติเห็นชอบ คือ โครงการแก้ไขปัญหาหนี้สินเกษตรกรสมาชิกกองทุนฟื้นฟูและพัฒนาเกษตรกรโดยการปรับโครงสร้างหนี้ให้กับสมาชิกโดยให้กองกำลังรักษาความสงบเรียบร้อยไปสำรวจและรวบรวมข้อมูลเชิงลึกถึงสาเหตุสำคัญที่ทำให้เกษตรกรมีปัญหาหนี้สินเพื่อเป็นข้อมูลให้ภาครัฐนำไปพิจารณาป้องกันและแก้ไขปัญหาหนี้สินในลักษณะดังกล่าวให้หมดไปอย่างแท้จริง

สำหรับการทำงานในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ โดยเฉพาะการคลี่คลายเหตุการณ์ก่อความไม่สงบนั้น เลขาธิการคณะรักษาความสงบแห่งชาติกำชับให้หน่วยในพื้นที่ให้ความสำคัญกับการประเมินพร้อมคัดแยกเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นระหว่างการก่อความไม่สงบและคดีอาชญากรรมทั่วไป เพื่อทำให้สังคมเห็นภาพรวมที่แท้จริงของสถานการณ์ชัดเจนยิ่งขึ้น

ขณะเดียวกันการที่หน่วยงานด้านความมั่นคงและกองทัพภาคที่ 4 มีความสัมพันธ์อันดีกับประเทศเพื่อนบ้าน โดยเฉพาะมาเลเซีย ถือเป็นเรื่องที่ดีจะทำให้เกิดความมั่นคงและการพัฒนาร่วมกันในพื้นที่ชายแดนอันจะส่งผลเชิงบวกต่อการแก้ไขปัญหาจังหวัดชายแดนภาคใต้ต่อไป

ส่วนการดูแลความสงบเรียบร้อยในภาพรวมของประเทศในขณะนี้ซึ่งเป็นช่วงที่อยู่ในระหว่างการเตรียมการเพื่อเข้าสู่การเลือกตั้งนั้น กองกำลังรักษาความสงบเรียบร้อยจะยังคงรักษาบรรยากาศในการเดินหน้าของแต่ละส่วนให้อยู่ในแนวทางที่เหมาะสม มีการประเมินข้อมูลที่เกิดขึ้นอย่างรอบด้านเพื่อให้ทุกฝ่ายสามารถดำเนินงานตามแนวทางและระยะเวลาที่มีอยู่ได้อย่างราบรื่นต่อไป

ดาวน์โหลดอีบุ๊กแทรกข่าว