ทุนระยอง-พัทยา เนรมิต 'มิกซ์ยูส' กลางเมืองหมื่นล้าน

เทศบาลระยองหัวหอกปัดฝุ่นที่ 3 แปลง 16 ไร่ เตรียมผุดมิกซ์ยูส ทั้งห้าง-โรงแรม-อาคารจอดรถ 2 หมื่นล้าน หวังปลุกเขตเมืองเก่าตามแนวถนนสุขุมวิทกลับมาคึกคัก ทุนพัทยาไม่น้อยหน้า เทหมื่นล้านขึ้นโครงการรับอีอีซี

การลงทุนโครงสร้างพื้นฐานเพื่อยกระดับโลจิสติกส์ประเทศ 3-4 ปีที่ผ่านมา โดยเฉพาะระบบราง กระตุ้นให้เกิดการพัฒนาระบบขนส่งมวลชนรองเชื่อมเข้าพื้นที่และแผนพัฒนาเมืองอย่างคึกคัก ล่าสุด ที่ประชุมคณะผู้ช่วยการวางแผนชุมชนเมืองระยอง (CPAT) ร่วมกับเทศบาลนครระยอง สำนักงานโยธาธิการและผังเมือง บริษัท ระยองพัฒนาเมืองฯ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้ข้อสรุปชัดเจนเพื่อขับเคลื่อนอย่างเป็นรูปธรรม




นายวรวิทย์ ศุภโชคชัย นายกเทศมนตรีนครระยอง เปิดเผยกับ "ฐานเศรษฐกิจ" ว่า คณะวางแผนพัฒนาเมืองมีแนวคิดจะฟื้นระยอง โดยเฉพาะอย่างยิ่งโซนเมืองเก่า ให้กลับมาคึกคัก โดยพัฒนาการใช้ประโยชน์ที่ดิน 3 แปลงของเทศบาล ให้เต็มศักยภาพ ประกอบด้วย 1.ที่ดินย่านเทศบันเทิง 8 ไร่ ปัจจุบันเป็นตลาดโต้รุ่ง 2.ที่ดินโซนเมืองเก่าฝั่งตรงข้ามย่านเทศบันเทิง ขนาด 4 ไร่ และ 3.ที่ดินสถานีขนส่งแห่งที่ 1 ขนาด 4 ไร่ มาพัฒนาเชิงพาณิชย์ให้เป็นศูนย์เศรษฐกิจขนาดใหญ่ พื้นที่ชั้นล่างเพื่อการพาณิชย์ ชั้นบนเป็นโรงแรม ในรูปแบบมิกซ์ยูส คาดจะใช้งบลงทุนประมาณ 2 หมื่นล้านบาท โดยขณะนี้ บริษัท พัฒนาเมืองระยอง จำกัด ร่วมกับสมาคมการผังเมืองไทย อยู่ระหว่างศึกษารายละเอียด โดยผู้อาศัยอยู่เดิมจะต้องได้ประโยชน์ในการพัฒนาด้วย

โดยนายฉัตรนุชัย สมบัติศรี รองปลัดเทศบาลนครระยอง กล่าวว่า เบื้องต้นใช้โมเดลตั้งบริษัทมาดำเนินการ โดยระดมทุนหลายฝ่าย ทั้งนักลงทุนท้องถิ่น ประชาชนทั่วไป หรือ กิจการใหญ่ เช่น กลุ่ม ปตท. , บีทีเอส , เครือเอสซีจี หรือ ซีพี ที่บางรายเข้ามาศึกษาข้อมูลแล้ว โดยร่วมกับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในพื้นที่ เพื่อให้เกิดขึ้นในระยองเร็ว ๆ นี้

"การพัฒนาเมืองจะต้องสอดคล้องกับแผนพัฒนาระบบขนส่งมวลชน ที่จะไปเชื่อมกับโครงการใหญ่ของรัฐ ที่ในอนาคตจะขยายเส้นทางรถไฟความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบิน จากอู่ตะเภาต่อมาถึงตัวเมืองระยอง ในระยะแรกจะพัฒนาระบบรถยนต์สมาร์ทบัสมารองรับก่อน เมื่อเต็มพิกัดแล้ว ค่อยยกระดับสู่ขนส่งมวลชน เช่น รถไฟรางเบาต่อไป"




ขณะที่ ทุนท้องถิ่นพัทยาก็ทุ่มหมื่นล้านบาท รุกโรงแรม-มิกซ์ยูสในพื้นที่อย่างคึกคัก นายสมภพ วาณิชเสนี กรรมการผู้จัดการ บริษัท เออเบิ้ล พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด กล่าวว่า ผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ของพัทยา ขยายไปลงทุนโรงแรมและมิกซ์ยูสเพิ่มขึ้น ทั้งลงทุนเอง หรือ จับมือกันเองของกลุ่มธุรกิจในพื้นที่ เพราะต้องใช้เม็ดเงินลงทุนสูง เพื่อรองรับการขยายตัวด้านการท่องเที่ยวของเมืองพัทยาที่เติบโตตามนโยบายอีอีซี

โดยในส่วนของเออเบิ้ล พร็อพเพอร์ตี้ ซึ่งทำคอนโดมิเนียมในพัทยามากว่า 11 ปี ภายใต้แบรนด์ AERAS, ACQUA, แอททิจูด ล่าสุด แตกไลน์การลงทุนโรงแรม งบราว 200 ล้านบาท (รวมที่ดิน) สร้างโรงแรมยู จอมเทียน พัทยา ภายใต้คอนเซ็ปต์ "บูทีค คอนโด" ที่เพิ่งเปิดให้บริการเมื่อเดือนที่ผ่านมา และอยู่ระหว่างลงทุนโรงแรมและคอนโดมิเนียมเพื่อการลงทุนอีกบนพื้นที่ 4 ไร่ คาดว่าจะใช้เวลาก่อสร้างราว 3 ปี และจะเปิดให้บริการได้ในปี 2564

 

[caption id="attachment_329883" align="aligncenter" width="503"] ©lethutrang101[/caption]

ปัจจุบัน คนนิยมซื้อคอนโดมิเนียมเพื่อการลงทุนเพิ่มขึ้น โดยมักนำไปปล่อยเช่าเองเป็นรายวัน ทำให้เกิดปัญหาขัดแย้งกับคนที่พักอาศัยจริง จึงพัฒนาโครงการขึ้นเป็นคอนโดฯ เพื่อการลงทุน ผู้ซื้อสามารถเข้าพักได้ 15-20 วันต่อปี ที่เหลือทางโครงการนำมาบริหารในลักษณะโรงแรมให้ทั้งอาคาร กลุ่มเป้าหมายส่วนใหญ่เป็นต่างชาติ ทั้งโครงการจะขออนุญาตทำเป็นโรงแรมระดับ 4 ดาว โดยใช้เชนโรงแรมมาบริหารจัดการดูแลให้ทั้งหมด

นอกจากนี้ ยังมีโครงการร่วมลงทุนระหว่างกลุ่มอสังหาริมทรัพย์ในพัทยา ที่กำลังอยู่ระหว่างพัฒนาโครงการมิกซ์ยูส บนพื้นที่ 8 ไร่ บริเวณวงศ์อมาตย์ มูลค่าการลงทุนราว 8 พันล้านบาท ที่จะสร้างโรงแรมขนาด 300 ห้อง และคอนโดมิเนียมสูง 50 ชั้น ซึ่งเป็นการร่วมลงทุนระหว่าง 3 กลุ่มบริษัท ได้แก่ 1.บริษัท เอปัส ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด ซึ่งเป็นผู้ลงทุนคอนโดฯ หลายแห่งในพัทยา ภายใต้แบรนด์ CETUS, DELMARE 2.กลุ่มผู้ลงทุนหมู่บ้านสิริศาในพัทยา และ 3.ทางเออเบิ้ล พร็อพเพอร์ตี้ เริ่มก่อสร้างได้ภายในปีหน้า


……………….
หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 38 ฉบับที่ 3,407 วันที่ 7 - 10 ต.ค. 2561 หน้า 01+15

ข่าวที่เกี่ยวข้อง :
● ทุนอุดรทุ่ม1พันล้านผุดมิกซ์ยูส
● ทุนเมืองชลบุกระยอง ผุดมิกซ์ยูสชนบิ๊กเนม