ฐานโซไซตี : กลุ่มสามมิตร "นั่งร้าน" พลังประชารัฐ มิตรกับทุกพรรค

เดินหน้าลุยไม่มีถอย สำหรับ “พรรคพลังประชารัฐ” เพราะเมื่อวันที่ 4 ตุลาคมที่ผ่านมา “อุตตม สาวนายน” ว่าที่หัวหน้าพรรค พร้อมคณะ ได้เข้ายื่นเอกสารหลักฐานเพิ่มเติมขอจัดตั้งพรรคต่อ กกต.เป็นที่เรียบร้อยแล้ว ซึ่งเจ้าตัวออกมายืนยันว่าพร้อมส่งผู้สมัครลงรับเลือกตั้งได้ทันตามกรอบเวลาที่จะมีการเลือกตั้งในวันที่ 24 กุมภาพันธ์ 2562 ซึ่งไม่คิดว่าจะมีการเลื่อนการเลือกตั้งออกไปอีก และมั่นใจว่าจะไม่มีปัญหาการส่งผู้สมัครไม่ทันเนื่องจากเป็นสมาชิกพรรคไม่ครบ 90 วัน เพราะจะมีการประสานกับ กกต.อย่างใกล้ชิด จึงเชื่อว่ากกต.จะสามารถรับรองเป็นพรรคการเมืองได้ตามกรอบเวลา

อุตตม บอกว่าหลังจากได้รับการรับรองเป็นพรรคการเมืองแล้ว จะเดินหน้าคัดสรรผู้สมัคร โดยส่งครบทั้ง 350 เขตทั่วประเทศ ส่วน “กลุ่มสามมิตร” จะมาสังกัดกับพรรคนั้น ต้องรอให้กกต.รับรองความเป็นพรรคก่อนจึงจะเข้าสู่กระบวนการจะพูดคุยกับกลุ่มไหนอย่างไร ไม่ว่าใครก็ตามที่สนใจพรรคพลังประชารัฐเป็นสิ่งที่ดี เนื่องจากเราเปิดกว้าง และข้อครหาที่ว่าพรรคพลังประชารัฐตั้งขึ้นมาเพื่อสืบทอดอำนาจ “คสช.” นั้น ไม่เป็นความจริง เพราะเป็นการรวมกันของกลุ่มที่ต้องการเห็นการเปลี่ยนแปลงของประเทศ เพื่อก้าวไปสู่ของใหม่ที่เป็นประโยชน์กับประชาชนให้ประเทศโตอย่างยั่งยืน ไม่ได้เป็นตัวแทนของใครและไม่มีใครเป็นเจ้าของคนเดียว ขอให้รอดูพฤติกรรม “พลังประชารัฐไม่ตั้งสมมติฐานอยู่บนคณิตศาสตร์การเมือง เพื่อให้ได้อดีตส.ส.มากที่สุด”
นั่นเป็นท่าทีและทิศทางของ “ว่าที่หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ” แต่ตอนท้ายที่บอกว่าพรรคพลังประชารัฐ ไม่ได้ตั้งเป้าให้ได้อดีตส.ส.มากที่สุด แต่ในทางการเมือง ในสนามการแข่งขันเลือกตั้ง หากต้องการจะเข้ามาเป็นฝ่ายบริหาร เป็นรัฐบาล กุมอำนาจรัฐเพื่อผลักดันนโยบายที่อยากจะ “สานต่อ” ก็ต้องให้ได้ที่นั่ง ส.ส.ในสภาให้มากพอสมควรแม้ “คสช.” จะมี “250 ส.ว.” อยู่ในมือ อาจจะหาส.ส.อีกแค่ “126 ที่นั่ง” 2 สภา เสียงรวมกัน 376 เสียง ก็สามารถยึดกุม “เก้าอี้นายกฯ” ไว้ได้แล้ว แต่อย่าลืมว่าการทำงานในสภา ฝ่ายบริหารต้องพึ่งเสียงส.ส.ส่วนใหญ่ เวลาลงมติโหวตเรื่องสำคัญๆ โดยที่ ส.ว.ไม่สามารถมาลงคะแนนร่วมด้วยได้ เพราะฉะนั้นเสียงส.ส.ในสภา จึงมีความสำคัญมาก หากอยากเป็นรัฐบาลแล้วอยู่ในวาระได้ยาวนานพอสมควร

เป็นข่าวให้ดูวูบวาบๆ อยู่เป็นระยะๆ สำหรับ “กลุ่มสามมิตร” ว่าจะเข้าสังกัด “พรรคพลังประชารัฐ” หรือไม่เข้า ล่าสุดก็มีข่าวว่ามีปัญหาภายในทำให้เข้าพรรคพลังประชารัฐไม่ได้ เพราะเกิดปัญหาพื้นที่ลงส.ส.เขต ทับซ้อนกัน แต่เรื่องจะเข้า-ไม่เข้าพรรคพลังประชารัฐ “จบไปแล้ว” เมื่อแกนนำกลุ่มคนสำคัญอย่าง สุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ ออกมาสยบข่าวดังกล่าว โดยยืนยันว่า “กลุ่มสามมิตร” จะเข้าร่วมพรรคพลังประชารัฐอย่างแน่นอน เนื่องจาก ดร.สมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี ได้ขอให้ช่วย โดยจะทำพรรคการเมืองที่เป็นมิตรกับทุกพรรค

เปลี่ยนจากเรื่องการเมืองหันไปดูเรื่องภายใน “การบินไทย” ยิ่งเห็นบทบาทและหน้าที่ของคณะกรรมการบริษัท ชุดปัจจุบันซึ่งเป็นผู้มีความรู้ความสามารถ มีทักษะและประสบการณ์หลากหลาย ร่วมกันทำหน้าที่กำหนดกลยุทธ์ ทิศทางนโยบายเพื่อให้ผู้บริหารและพนักงานมีจุดมุ่งหมาย ในการดำเนินงานไปในทิศทางเดียวกัน ต้องบอกว่า“มีความหวัง” ยิ่งเห็น ดร.สมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกฯ รับเป็นประธานงานเสวนา “สานพลังพันธมิตร เพื่อไทย (การบินไทย) ก้าวไกลอย่างยั่งยืน” โดยมีผู้บริหารสูงสุดของ 4 รัฐวิสาหกิจ ร่วมวงเสวนาด้วย ยิ่งเห็นถึงความร่วมมือกันทางธุรกิจระหว่างองค์กรของรัฐ ก็ต้องชื่นชม ดร.เอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ ประธานบอร์ดเจ้าจำปี และ สุเมธ ดำรงชัยธรรม กรรมการ ผอ.ใหญ่ (ดีดี) ผู้นำองค์กรคนใหม่ ที่พร้อมทุ่มเทงานบริหารให้เป็นไปตามนโยบาย เห็นความตั้งใจของคนหนุ่มที่มีโปรไฟล์ดีๆ ทั้ง 2 ท่านแล้ว เห็นว่าพนักงานทั้งองค์กรก็พร้อมที่จะทุ่มเทสุดสุดเช่นกัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งงานบริการบนเครื่องบินของเหล่าแอร์ สจวร์ต หรือแม้แต่อาหารที่เสิร์ฟบนเครื่องบินให้สมกับที่เป็นพรีเมียมแอร์ไลน์...