ธุรกิจครอบครัวสวนกระแสโลก

06 ต.ค. 2561 | 07:51 น.
บทความคอลัมน์ Business Backstage

โดยผศ.ดร.เอกชัย อภิศักดิ์กุล

คณบดีคณะวิทยพัฒน์ และผู้อำนวยการศูนย์ธุรกิจครอบครัว

มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย

              ท่ามกลางสงครามการค้าและเศรษฐกิจ โลกที่ชะลอตัว กลับพบว่าธุรกิจครอบครัวเติบโตอย่างรวดเร็วและสามารถสร้างงานได้มาก กว่าธุรกิจทั่วไป Earnst& Young สำรวจธุรกิจครอบครัวช่วง 15 มกราคม-1 มีนาคม ค.ศ. 2018 จากผู้บริหารระดับสูง 2,766 ราย ใน 21 ประเทศทั่วโลก และนอกจากนี้ยังพบว่าธุรกิจครอบครัวมีแนวโน้มที่จะมีผู้หญิงเป็นผู้นำ ให้ความสำคัญในการสรรหาบุคลากรเข้ามาร่วมงาน และมุ่งเน้นไปที่ตลาดต่างประเทศเพื่อขยายกิจการและมองหาพันธมิตรภายนอกเพื่อเร่งสร้างนวัตกรรม

ทั้งนี้จากผลการสำรวจของ Earnst&Young พบว่าธุรกิจครอบครัวให้ความสำคัญกับคนเก่งมากยิ่งขึ้นทำให้ธุรกิจสามารถเติบโตได้มากกว่าธุรกิจทั่วไป ขณะที่ในปี 2018 ธุรกิจครอบครัวเกือบครึ่ง (49%) มีแผนที่จะจ้างพนักงานเต็มเวลา เมื่อเทียบกับ 38% ของธุรกิจทั่วไปที่ไม่ใช่ธุรกิจครอบครัว ซึ่งเป็นการปรับตัวของธุรกิจครอบครัวเพื่อหาทางออกให้กับปัญหาการขาดแคลนคนเก่ง โดยการสร้างเงื่อนไขที่จูงใจพนักงานในระยะยาว

53

ในขณะเดียวกันก็หาทางดึงดูดคนรุ่นใหม่ที่มีความสามารถด้านดิจิตอลเข้ามาร่วมงานด้วย ผลการสำรวจพบว่าการสรรหาบุคลากรที่มีความพร้อมในการที่จะเรียนรู้สิ่งใหม่ การสร้างทีมงานที่มีความหลากหลายของทักษะนั้นทวีความสำคัญขึ้น โดยธุรกิจครอบครัว 40% ระบุว่าความพร้อมที่จะเรียนรู้สิ่งใหม่เป็นเรื่องสำคัญที่สุด ซึ่งเพิ่มขึ้นจาก 37% ในปี 2017 ทั้งนี้มีผลการศึกษาหลายสำนักที่พิสูจน์ว่าความพร้อมที่จะเรียนรู้สิ่งใหม่เป็นสิ่งสำคัญสำหรับประสิทธิภาพ ความสำเร็จและการตัดสินใจของ ทีมงาน ซึ่งถือเป็นเรื่องดีที่ธุรกิจ จะได้รับประโยชน์จากทีมงานที่มีความหลากหลายมากขึ้น

นอกจากนี้ธุรกิจครอบครัวดูเหมือนจะมีสภาพแวดล้อมที่เอื้อต่อการเป็นผู้นำหญิงที่ประสบความสำเร็จมากกว่าธุรกิจในกลุ่มเดียวกันที่ไม่ใช่ธุรกิจครอบครัวอีกด้วย โดยธุรกิจครอบครัว 9% มีผู้นำเป็นผู้หญิง (เทียบกับ 3% ในธุรกิจทั่วไป) และ 24% ของผู้บริหารระดับสูงเป็นผู้หญิง ผู้นำธุรกิจครอบครัวมีแนวโน้มจะยอมรับว่าการสร้างทีมงานที่มีความหลากหลายเป็นสิ่งสำคัญที่สุด (40%) รวมถึงคนเก่งที่มีทักษะเฉพาะด้านก็เพิ่มขึ้น ซึ่งมองว่าธุรกิจครอบครัวกำลังใช้ประโยชน์จากคุณลักษณะพิเศษของครอบครัวที่สามารถสร้างความภักดีและไว้วางใจในองค์กรดึงดูดคนเก่งที่หายากในปัจจุบัน

54

ทั้งนี้ผู้ถูกสำรวจชี้ว่าการมุ่งเน้นหาคนเก่งมาร่วมงานจะเป็นปัจจัยที่จะช่วยเร่งการเติบโตของธุรกิจครอบครัวได้มากที่สุด (34%) เพิ่มขึ้น 7% จากปี 2017 และสูงกว่าธุรกิจทั่วไปที่เห็นความสำคัญเรื่องนี้เพียง 5% ขณะที่ Brett Franklin ทายาทรุ่นที่ 2 ของบริษัท Franklin ซึ่งเป็นบริษัทอสังหาริมทรัพย์ของ San Antonio ที่เชี่ยวชาญในด้านการพัฒนาการก่อสร้างและการจัดการที่อยู่อาศัยมองว่า “ผมคิดว่าคนอยากทำงานกับ ธุรกิจครอบครัวมากขึ้นเพราะพวกเขาจะกลายเป็นส่วนหนึ่งของตำนาน และอยู่ในองค์กรที่มีลักษณะเฉพาะ ซึ่งเจ้าของธุรกิจทำงานเคียงบ่าเคียงไหล่ไปกับพวกเขาด้วย”

          โดยการสำรวจพบว่าการมุ่งเน้นในระยะยาวช่วยให้ธุรกิจครอบครัวมีกลยุทธ์มากกว่าในการลงทุนในระยะยาวทั้งในด้านเทคโนโลยีและเพื่อตอบสนองต่อการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว ดังนั้นธุรกิจครอบครัวจึงเติบโตอย่างรวดเร็วกว่าและจ้างงานมากกว่าธุรกิจทั่วไป สวนกระแสเศรษฐกิจ โลกที่กำลังผันผวน

..............................................................................................

คอลัมน์ | หน้า 35 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ | ฉบับ 3,407 ระหว่างวันที่ 7-10 ตุลาคม 2561

595959859