บิ๊กไบค์ประกอบไทยชนสนั่นฮาร์ลีย์ลด5แสน-ไทรอัมพ์ส่งรุ่นใหม่สู้ลด4หมื่น

06 ต.ค. 2561 | 10:00 น.
 

ค่ายบิ๊กไบค์หรูเตรียมรับน้อง “ฮาร์ลีย์-เดวิดสัน” ที่เปิดตัวรุ่นประกอบในประเทศและทำราคาลงมาหลายแสนบาท “ไทรอัมพ์” เล็งส่งรุ่นใหม่ประกบ และอัดแคมเปญแรงด้วยส่วนลด 4 หมื่นบาท ฟรีประกันภัยชั้น 1 ดาวน์ตํ่า ผ่อนนาน ด้าน “ดูคาติ”ทำใจปีนี้ยอดขายหด
ตลาดบิ๊กไบค์พรีเมียมอุณหภูมิร้อนแรงขึ้นมาอีกครั้ง หลังจากค่ายฮาร์ลีย์-เดวิดสัน ได้ฤกษ์คลอดโมเดล 2019 ในตระกูลซอฟเทล และ ตระกูลสปอร์ตสเตอร์ จำนวน 12 รุ่นย่อยที่ประกอบขึ้นมาจากฐานการผลิตในประเทศไทย จังหวัดระยอง ส่งผลให้ราคาขายลดลงตั้งแต่ 1.5-5 แสนบาท ซึ่งรุ่นที่ลดสูงสุดนั้นคือ เบรกเอาท์ 114 จาก 1.629 ล้านบาท ลดลง 5 แสนบาท เหลือ 1.129 ล้านบาท

Model Year 2019 GAP Photography.

“ราคาที่ออกมาถือว่าสมเหตุสมผล ส่วนตัวที่ลดลงสูงสุดนั้น เป็นเพราะเราอยากให้มีช่องว่างของราคาที่ห่างกันระหว่างตัวเบรกเอาต์ 114 และแฟตบอย 114  เพื่อที่ลูกค้าจะได้ตัดสินใจได้ง่าย ส่วนอีกรุ่น เฮอริเทจ คลาสสิก 114 ปกติดีมานด์ยังน้อย ดังนั้นการปรับราคาก็น่าจะช่วยขยับความต้องการของรถรุ่นนี้ขึ้นมาบ้าง ขณะที่ความนิยมของลูกค้าหลังจากมีการปรับราคานั้น เราประเมินว่าเบื้องต้นน่าจะยังเหมือนเดิม โดยรุ่น Forty-Eight ยังมียอดขายในกลุ่มผู้นำของตระกูลสปอร์ตสเตอร์ ส่วนตระกูลซอฟเทล ก็จะเป็นตัวFat Boy” นายธนบดี กุลทล ผู้จัดการประจำประเทศฮาร์ลีย์-เดวิดสันประเทศไทย กล่าวและว่า

“การปรับกลยุทธ์ราคาในครั้งนี้ กลุ่มลูกค้าอาจจะปรับเปลี่ยนไป หรือมีกลุ่มลูกค้าใหม่ๆเข้ามา ซึ่งทางฮาร์ลีย์-เดวิดสันต้องรอดูการตอบรับของตลาดอีกสักระยะหนึ่ง”

นายธนบดี กล่าวเพิ่มเติมว่า รถในโมเดล 2019 ได้ส่งตรงเข้าสู่โชว์รูมฮาร์ลีย์- เดวิดสันทั้ง 9 แห่งในวันศุกร์ที่ 5 ตุลาคมนี้  ซึ่งการเตรียมงานของดีลเลอร์ในตอนนี้ก็ถือว่าพร้อมทั้งโมเดลใหม่- อุปกรณ์ตกแต่ง-บริการหลังการขายที่ปรับเพื่อแข่งขันกับผู้เล่นรายอื่นๆในตลาดได้

ส่วนสต๊อกของปี 2018 ก็ยังคงมีอยู่บ้างเล็กน้อย ซึ่งบริษัทแม่และดีลเลอร์ก็ได้ทำงานร่วมกัน รวมไปถึงการวางแผนรองรับราคาขายต่อ เพื่อไม่ให้กระทบกับลูกค้าที่ซื้อไปก่อนหน้านั้น

MP32-3407-A

“หลังจากเราเปิดราคาขายใหม่ออกไป ก็มีเสียงตอบรับค่อนข้างดี ออร์เดอร์มีเข้ามาต่อเนื่อง อย่างไรก็ดีเรายังมีสต๊อกของปี 2018 ที่เมด อิน ยูเอสเอ ยังเหลืออยู่ แต่ไม่มากเท่าไร ซึ่งเรามีการทำโปรแกรมลอยัลตี แคมเปญเพื่อให้ลูกค้าตัดสินใจซื้อง่ายขึ้นผ่านข้อเสนอพิเศษอาทิส่วนลด, ดอกเบี้ย”

เรียกว่าจัดหนักจัดเต็มสำหรับค่ายใหญ่จากแดนมะกัน แม้จะมีเสียงตัดพ้อต่อว่าจากประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ หลังจากตัดสินใจปักธงตั้งโรงงานใหม่ที่จังหวัดระยอง แต่ก็ยังเดินหน้าลุยต่อ งานนี้คงต้องลุ้นกันดูว่าราคาใหม่ที่ออกมาจะสร้างยอดขายให้ค่ายฮาร์ลีย์-เดวิดสันในประเทศไทยได้มากน้อยแค่ไหน

ขณะที่ผู้เล่นในตลาดเจ้าอื่นๆก็งัดกลยุทธ์ออกมาสวนหมัดกันอย่างทันควัน อาทิ ค่ายผู้นำในตลาดพรีเมียมบิ๊กไบค์อย่าง ไทร อัมพ์ ที่เตรียมเปิดตัวโมเดลใหม่ในช่วงปลายปี โดยจะตอบโจทย์ลูกค้ากลุ่มใหม่ๆในตลาดประเทศไทย นอกจากนั้นแล้วยังมีการจัดกิจกรรมกับกลุ่มลูกค้าต่อเนื่อง และมีการทำโปรโมชันออกมา อาทิ ซื้อรุ่นสตรีท สแครมเบลอร์ รับกิฟต์เวาเชอร์มูลค่า  4 หมื่นบาท ฟรีประกันภัยชั้น 1 ฟรีค่าพ.ร.บ. ค่าจดทะเบียน ดอกเบี้ยพิเศษ ดาวน์ตํ่า ผ่อนนาน และบริการช่วยเหลือฉุกเฉินบนท้องถนนตลอด 24 ชั่วโมง เป็นระยะเวล 24 เดือน และรับประกันคุณภาพของรถ 24 เดือนไม่จำกัดระยะทาง

“การปรับลดราคาของผู้เล่นในตลาดบิ๊กไบค์ เบื้องต้นเราประเมินว่าไม่ได้ส่งผลกระทบ เพราะเป็นสิ่งที่เราได้คาดการณ์มาก่อนหน้านั้นแล้ว และราคาที่ออกมาก็ไม่ได้เหนือกว่าที่ได้คาดไว้ ประกอบกับไทรอัมพ์เองก็มีประสบการณ์ในการทำตลาดมาก่อน ดังนั้นเราจึงมีการเตรียมแผนงานรองรับไว้อยู่แล้ว โดยเร็วๆนี้เราจะเปิดตัวรถจักรยานยนต์ในรุ่นใหม่ ที่เจาะเซ็กเมนต์ใหม่เลย”  นายจักรพงษ์ ศานติรัตน์ ผู้จัดการทั่วไป บริษัท ไทรอัมพ์ มอเตอร์ไซเคิลส์ (ไทยแลนด์) จำกัด กล่าวและว่า

Model Year 2019 GAP Photography

อย่างไรก็ตาม การเปิดราคาใหม่ในครั้งนี้ นายจักรพงษ์ กล่าวเพิ่มเติมว่า จะส่งผลดีกับภาพรวมตลาดบิ๊กไบค์พรีเมียม ให้กลับมาคึกคัก เพราะในช่วงที่ผ่านมาตลาดทรงตัว คาดว่าทั้งปีตลาดนี้จะมียอดขายประมาณ 6,500 คัน เพิ่มขึ้นเล็กน้อยเมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมาที่มีประมาณ 6,434 คัน ด้านไทรอัมพ์ปีนี้มีส่วนแบ่งการตลาดที่ขยับขึ้นเล็กน้อย จาก 44% เป็น 45%

ขณะที่ผู้เล่นอีกหนึ่งรายในตลาดอย่างดูคาติซึ่งถือเป็นแบรนด์ยุโรปรายแรกในตลาดบิ๊กไบค์ที่เข้ามาประกอบในไทย ก็มีการจัดกิจกรรมพร้อมทั้งโปรโมชัน อาทิ  ส่วนลดสินค้าแอกเซสซอรี 20-70% ,จัดงานรถมือสองหลายรุ่น อาทิ มอนสเตอร์ 1200 ราคาเริ่มต้น 4.99 แสนบาท

อย่างไรก็ดีดูคาติที่นำโดยนายอภิชาติ ลีนุตพงษ์ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท ดูคาทิสติ จำกัด หรือดูคาติไทยแลนด์ กล่าวว่า “เป้าหมายในปีนี้อาจจะตํ่ากว่าที่ได้คาดการณ์ไว้ จาก 1,500 คัน ลดลงเหลือ 1,000 คัน เนื่องจากปัจจัยอื่นๆไม่ว่าจะเป็น โมเดลที่เจาะกลุ่มสปอร์ต ซึ่งอาจจะไม่รองรับความต้องการของลูกค้าในกลุ่มเอเชียที่เน้นรถคลาสสิก ด้านอะไหล่และการบริการเราก็ปรับลดลงกว่า 45% แล้ว อย่างไรก็ดีคอส ออฟ โอนเนอร์ชิพของเราก็ยังสูงกว่า ซึ่งหลังจากนี้ก็ต้องรอดูกลยุทธ์ของบริษัทแม่ว่าจะมีอะไรออกมารองรับกับตลาดเอเชียหรือไม่”

ถือเป็นความเคลื่อน ไหวของรถบิ๊กไบค์ในกลุ่มพรีเมียมที่ตั้งแต่ต้นปีจนจบไตรมาส 3 สถานการณ์ตลาดไม่หวือหวาไม่เติบโตเท่าที่ควร ซึ่งหลังจากค่ายมะกันอย่างฮาร์ลีย์-เดวิดสันปล่อยหมัดเด็ดด้วยราคาใหม่ก็คาดว่าจะช่วยให้ตลาดกลับมาคึกคักและทำให้กระแสบิ๊กไบค์บูมขึ้นมาอีกระลอก

หน้า 32-33 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ฉบับที่ 3,407 วันที่ 7 - 10 ตุลาคม พ.ศ. 2561

ดาวน์โหลดอีบุ๊กแทรกข่าว