Now or Never SELVEDGEWORK สร้างแบรนด์จากจิตวิญญาณ
ความกลัว บนโลกใบนี้นอกจากสอนให้เรารู้ ยังสอนให้เรากลัว ไม่ว่าจะเป็น กลัวว่าสิ่งที่เราทำจะไม่มีคนชื่นชอบ กลัวว่าแบรนด์ที่เราสร้างขึ้นจะไม่ได้รับการยอมรับแต่ทั้งหมดถูกสลัดออกคล้ายกับผ้าที่ต้องสลับด้านเพื่อเย็บให้เกิดความสวยงามและตรงตามความต้องการของลูกค้า ด้วยการ “ออกมาลอง”
หนึ่งมุมมองที่แสดงออกถึงความเรียบง่ายและการเข้าถึงความเข้าใจในตัวเองว่า อะไรคือสิ่งที่เราต้องการ และเมื่อเราต้องการแล้ว ต้องทำอย่างไร จากผู้บริหารหนุ่มผู้ถักทอความเชื่อและตั้งใจอย่างใส่ใจในการสร้างแบรนด์ของตัวเองขึ้นมาด้วยสองมือ คุณบูม-วิชพงษ์ หัตถสุวรรณ ผู้ก่อตั้งแบรนด์กางเกงยีนส์แบบเทเลอร์เมดอันดับหนึ่งของเมืองไทย SELVEDGEWORK
กลิ่นสาบของผ้ายีนส์ที่ลอยฟุ้งอยู่ในทุกอณูอากาศของห้องแถวย่านบางบอนที่เป็นทั้งบ้าน เป็นทั้งโรงงานรับตัดเย็บกางเกงยีนส์ให้กับแบรนด์ดังระดับโลกหลายแบรนด์ เสียงของจักรเย็บผ้าที่สลับกันในจังหวะราวกับวงดนตรีที่ไม่เคยหยุดเล่น ภาพที่เห็นช่างแต่ละคนนั่งทำงานตัดเย็บชิ้นส่วนแต่ละชิ้นให้ได้มาตรฐานคือความทรงจำแรกที่คุณบูมมีต่อสิ่งที่เรียกว่า “กางเกงยีนส์” แต่เส้นทางกว่า SELVEDGEWORK จะเป็นที่รู้จัก เป็นแบรนด์ที่นอกจากจะมีหน้าร้านเป็นของตัวเองที่สยามสแควร์ ซอย 2 ยังมีพื้นที่ร้านในห้างสรรพสินค้ายักษ์ใหญ่ใจกลางกรุง ไล่ตั้งแต่ ศูนย์การค้าสยามพารากอน เกษรวิลเลจ และเอ็มควอเทียร์ คุณบูมเริ่มต้นจากการเป็นเพียงวัยรุ่นคนหนึ่ง ที่หารายได้เล็กๆ น้อยๆ ด้วยการทำแบรนด์เสื้อยืด ทำสติกเกอร์ขาย รับถ่ายรูป เล่นดนตรีจนรวมตัวและมีวงเล็กๆ ของตัวเองที่ชื่อ Secret Tea Party
แต่การไม่หยุดค้นหาตัวเองเพื่อตอบโจทย์ความฝันที่ต้องการมีร้านเล็กๆ สลัดภาพการเป็นธุรกิจรับผลิตของธุรกิจครอบครัว เป็นการสร้าง แบรนด์ของตนเอง สามารถทำธุรกิจที่ตนเองรักและรวมคนที่รักในสิ่งเดียวกันมาไว้ด้วยกันได้ ซึ่งการซื้อกางเกงยีนส์ริมแดงตัวแรกให้กับตัวเอง ก็เปลี่ยนยีนส์ซึ่งแต่ก่อนเป็นเพียงแค่กลิ่นที่คุ้นเคยให้กลายเป็นกลิ่นที่เขาหลงรักโดยไม่รู้ตัว และนำพาสิ่งที่คุณบูมเรียกว่า “ความบ้า” เข้ามาในชีวิต การเริ่มต้นธุรกิจในวัย 20 เริ่มต้นจากการซื้อกางเกงยีนส์เพื่อสะสม สืบค้นข้อมูลและศึกษาเพื่อซื้อกางเกงยีนส์ในรุ่นที่ดีที่สุด กลายเป็นหน่อความคิดของความตั้งใจที่จะผลิต “กางเกงยีนส์ที่ดีที่สุดในโลก” ด้วยมือของตัวเอง
“เราเรียนแต่ทฤษฎีอย่างเดียว การไม่เจอของจริงทำให้เราหลงทาง ผมเปลี่ยนจากความไม่รู้ ให้เป็นคำว่า “รู้” ด้วยการไม่หยุดแค่ในห้องเรียน ในตำรา หรือในกระดาษที่จดไว้หรือคิดไว้ ผมลุยและเริ่มทำทุกอย่างตั้งแต่ในมหาวิทยาลัย แบรนด์ของผมจึงไม่ได้มีแค่ความเชื่อ แต่ความบ้าความคลั่งไคล้หลงใหลในสิ่งที่ผมอยากจะทำ ทำให้ผมเริ่มลงมือทำ”
คุณบูมเริ่มวาง Business Plan ของแบรนด์ SELVEDGEWORK ตั้งแต่อยู่ในมหาวิทยาลัย เขาค่อยๆ วางรายละเอียดจัดทำแคตตาล็อกผลิตภัณฑ์ พิถีพิถันกับการวางกรอบและเรื่องราวของแบรนด์ ความบ้าของคุณบูมไม่ได้อยู่แค่ในห้องของความคิด แต่ยังถ่ายทอดผ่านตัวตน ผ่านคำพูดที่เพื่อนๆ หรือคนใกล้ชิดได้สัมผัสอยู่ตลอดเวลา นักศึกษาคนหนึ่งที่เพื่อนหลายคนสนุกกับการเดินทางเพื่อท่องเที่ยว เพื่อเสพจินตนาการ แต่คุณบูมเริ่มเดินทางเพื่อคัดสรรวัตถุดิบ เคาะประตูออฟฟิศตามหาโรงงานทอผ้า พยายามจนได้ผ้ายีนส์ริมแดงชุดแรกๆ จากประเทศญี่ปุ่น มาเติมความคิดและสร้างธุรกิจที่เป็นโปรเจ็กต์ลับของเขาให้ชัดเจนยิ่งขึ้น
“ความรู้สึกว่าเดินมาถูกทางของผมเริ่มชัดตั้งแต่ออร์เดอร์แรกจากรุ่นน้องในมหาลัย” เส้นทางที่สับสน ธุรกิจที่ครอบครัวไม่เชื่อว่าคุณบูมจะทำได้ เพราะไม่ใช่แค่ไม่มีความรู้ แต่ยังไม่เคยทำงานแบบนี้ และขายกางเกงยีนส์ในราคาเกือบหนึ่งหมื่นบาทในตลาดที่นิยมแบรนด์อย่างเมืองไทย
คุณบูมบอกกับเราว่า ระหว่างทางกว่าจะมีวันนี้เขาทั้งเหนื่อย ท้อ และอยากจะเลิกในหลายครั้ง แต่มีเพลงหนึ่งที่ฉุดเขาขึ้นมาจากความเจ็บปวด และทุ่มเทเดินหน้าต่อ ก็คือเพลง If Not Now, When? ของ วง Incubus ที่สื่อข้อความสำคัญมาถึงคุณบูมว่า หากเราไม่เลือกที่จะทำในวันนี้แล้ว เมื่อไหร่จะเป็นของเราอย่างแท้จริง ปักหมุดความเชื่อจนเป็นคำที่เขาสามารถพูดได้อย่างเต็มปากว่า “หากทุกคนมีจุด “โฟกัส” จุดใดสักจุดหนึ่ง ไม่ว่าจะเรื่องอะไร จะยากแค่ไหนทุกคนสามารถทำได้ทุกอย่าง แค่คุณศรัทธากับสิ่งนั้นและทุ่มเทด้วยจิตวิญญาณของคุณจริงๆ”
ลูกค้าคนแรก ไม่ใช่แค่การสร้างรายได้ แต่คือกำลังใจสูงสุดของคนที่ทำทุกอย่างด้วยตนเอง คือสิ่งที่บอกว่าการทุ่มเทตลอดเวลาที่ผ่านมานั้นไม่สูญเปล่า พร้อมกับการทำให้กระบวนการคิดของเขาเปลี่ยนไปด้วยเช่นกัน จากการสร้างกางเกงยีนส์ที่ดีที่สุดในโลกเป็น ความตั้งใจสร้าง “กางเกงยีนส์ที่ดีที่สุดสำหรับลูกค้าของแบรนด์” ความคิดที่เปลี่ยนจากการทำจริง เห็นจริง ไม่ใช่เพื่อยอดขายหรือคำติชม แต่เป็นรอยยิ้มจากลูกค้าของแบรนด์เลือกสวมกางเกงยีนส์ของ SELVEDGEWORK อย่างภูมิใจในทุกๆ วัน ความคิดที่เป็นหัวใจของการตัดเย็บกางเกงยีนส์ตั้งแต่ตัวแรก จนมาเป็นกางเกงยีนส์นับหมื่นตัวในอีกหลายปีต่อมา
“ผ้ายีนส์มีเสน่ห์ตรงเป็นเหมือนงานศิลปะ การถักทอของเส้นด้ายจนแน่นและหนาพอดี การย้อมสีที่สามารถไล่เฉดให้แตกต่างกันในแต่ละผืน ช่างฝีมือเป็นเหมือนกับศิลปินที่เข้ามาแต่งสี ออกแบบลวดลาย สร้างมิติให้น่าสนใจผ่านรอยขาด ผ่านแนวเส้นที่ไม่ซ้ำกัน โดยมีผู้ที่เป็นเจ้าของยีนส์ตัวนั้นร่วมบรรเลงงานศิลปะผ่านการเลือกองค์ประกอบต่างๆ บนยีนส์ตัวนั้นด้วยตัวของเขาเอง”
SELVEDGEWORK คือแบรนด์ที่เล่าเรื่องราวชีวิตของผม ถ่ายทอดความคิด บันทึกเหตุการณ์และการต่อสู้ทุกอย่างกว่าจะเป็นงานที่พิถีพิถัน เป็นกางเกงยีนส์ที่เป็นของคุณเท่านั้น ไม่เหมือนใครเลยบนโลกใบนี้ ความศรัทธาในสิ่งที่ทำทำให้ทุกขั้นตอนมีความหมาย ตั้งแต่การคัดสรรเลือกผ้า ขั้นตอนการเย็บ การเลือกผู้เชี่ยวชาญ ไปจนถึงการเลือกวัตถุดิบที่เป็นองค์ประกอบในส่วนต่างๆ ของกางเกงยีนส์ ตั้งแต่ สีของเส้นด้าย ตัวซิป กระดุม หมุดยึด ป้ายหนัง ตลอดจนการขัดลายด้วยมือบนกางเกงยีนส์แต่ละตัว เพื่อทำให้ทุกกระบวนการนำคำว่า “ดีที่สุด” ส่งต่อให้ผู้สวมใส่ซึ่งเป็นลูกค้าของแบรนด์เรา ถ่ายทอดศรัทธาของผมลงบนผ้ายีนส์ริมแดงแต่ละผืน แสดงถึงตัวตนของ “SELVEDGEWORK” ได้อย่างแท้จริง
“สำหรับผมแล้ว คำว่า แบรนด์ คือ ชื่อหนึ่งที่เริ่มต้นจากไม่มีมูลค่า แต่จะมีคุณค่าสำหรับคนอื่นก็ต่อเมื่อมีเหตุผลหรือสิ่งยึดโยงบางอย่างทำให้ทุกคนเห็นและสามารถสัมผัสได้ถึงคุณค่าของแบรนด์นั้นๆได้จริง การสร้างแบรนด์ของ SELVEDGEWORK คือ เราทุกคนคือ SELVEDGEWORK และ SELVEDGEWORK คือลูกของเราที่เราต้องเลี้ยงดูอย่างดีที่สุดไม่ใช่แค่มุมมองของเรา แต่คือมุมที่ดีที่สุดในสายตาของคนอื่นด้วยเช่นกัน”
จากความตั้งใจอย่างแรงกล้า จากความบ้าของนักศึกษาคนหนึ่ง วันนี้ SELVEDGEWORK ไม่หยุดการเติบโตในฐานะแบรนด์ยีนส์ยอดนิยมที่ต่อขยายธุรกิจจากกางเกงยีนส์ ไปสู่เสื้อยีนส์ จนถึงผลิตภัณฑ์อื่นๆ และเตรียมสร้างแบรนด์เสริมเรื่องราวให้ความเป็นยีนส์ทรงเสน่ห์ยิ่งขึ้นในเร็ววันนี้ แต่สิ่งที่ SELVEDGEWORK ได้สร้างไว้อีกประการหนึ่งคือ ทีมงานที่เข้าใจการรังสรรค์ยีนส์ให้ตอบโจทย์การเป็น “สินค้าที่ดีที่สุด” ผลงานรังสรรค์จากช่างฝีมือชาวไทยที่อวดโฉมในระดับสากลได้อย่างสง่างาม ผลผลิตจากจิตวิญญาณของผู้ชายที่ชื่อ “วิชพงษ์ หัตถสุวรรณ”
หน้า 25 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 38 ฉบับที่ 3,407 (860) วันที่ 7 - 10 ตุลาคม พ.ศ. 2561
หนึ่งมุมมองที่แสดงออกถึงความเรียบง่ายและการเข้าถึงความเข้าใจในตัวเองว่า อะไรคือสิ่งที่เราต้องการ และเมื่อเราต้องการแล้ว ต้องทำอย่างไร จากผู้บริหารหนุ่มผู้ถักทอความเชื่อและตั้งใจอย่างใส่ใจในการสร้างแบรนด์ของตัวเองขึ้นมาด้วยสองมือ คุณบูม-วิชพงษ์ หัตถสุวรรณ ผู้ก่อตั้งแบรนด์กางเกงยีนส์แบบเทเลอร์เมดอันดับหนึ่งของเมืองไทย SELVEDGEWORK
กลิ่นสาบของผ้ายีนส์ที่ลอยฟุ้งอยู่ในทุกอณูอากาศของห้องแถวย่านบางบอนที่เป็นทั้งบ้าน เป็นทั้งโรงงานรับตัดเย็บกางเกงยีนส์ให้กับแบรนด์ดังระดับโลกหลายแบรนด์ เสียงของจักรเย็บผ้าที่สลับกันในจังหวะราวกับวงดนตรีที่ไม่เคยหยุดเล่น ภาพที่เห็นช่างแต่ละคนนั่งทำงานตัดเย็บชิ้นส่วนแต่ละชิ้นให้ได้มาตรฐานคือความทรงจำแรกที่คุณบูมมีต่อสิ่งที่เรียกว่า “กางเกงยีนส์” แต่เส้นทางกว่า SELVEDGEWORK จะเป็นที่รู้จัก เป็นแบรนด์ที่นอกจากจะมีหน้าร้านเป็นของตัวเองที่สยามสแควร์ ซอย 2 ยังมีพื้นที่ร้านในห้างสรรพสินค้ายักษ์ใหญ่ใจกลางกรุง ไล่ตั้งแต่ ศูนย์การค้าสยามพารากอน เกษรวิลเลจ และเอ็มควอเทียร์ คุณบูมเริ่มต้นจากการเป็นเพียงวัยรุ่นคนหนึ่ง ที่หารายได้เล็กๆ น้อยๆ ด้วยการทำแบรนด์เสื้อยืด ทำสติกเกอร์ขาย รับถ่ายรูป เล่นดนตรีจนรวมตัวและมีวงเล็กๆ ของตัวเองที่ชื่อ Secret Tea Party
แต่การไม่หยุดค้นหาตัวเองเพื่อตอบโจทย์ความฝันที่ต้องการมีร้านเล็กๆ สลัดภาพการเป็นธุรกิจรับผลิตของธุรกิจครอบครัว เป็นการสร้าง แบรนด์ของตนเอง สามารถทำธุรกิจที่ตนเองรักและรวมคนที่รักในสิ่งเดียวกันมาไว้ด้วยกันได้ ซึ่งการซื้อกางเกงยีนส์ริมแดงตัวแรกให้กับตัวเอง ก็เปลี่ยนยีนส์ซึ่งแต่ก่อนเป็นเพียงแค่กลิ่นที่คุ้นเคยให้กลายเป็นกลิ่นที่เขาหลงรักโดยไม่รู้ตัว และนำพาสิ่งที่คุณบูมเรียกว่า “ความบ้า” เข้ามาในชีวิต การเริ่มต้นธุรกิจในวัย 20 เริ่มต้นจากการซื้อกางเกงยีนส์เพื่อสะสม สืบค้นข้อมูลและศึกษาเพื่อซื้อกางเกงยีนส์ในรุ่นที่ดีที่สุด กลายเป็นหน่อความคิดของความตั้งใจที่จะผลิต “กางเกงยีนส์ที่ดีที่สุดในโลก” ด้วยมือของตัวเอง
“เราเรียนแต่ทฤษฎีอย่างเดียว การไม่เจอของจริงทำให้เราหลงทาง ผมเปลี่ยนจากความไม่รู้ ให้เป็นคำว่า “รู้” ด้วยการไม่หยุดแค่ในห้องเรียน ในตำรา หรือในกระดาษที่จดไว้หรือคิดไว้ ผมลุยและเริ่มทำทุกอย่างตั้งแต่ในมหาวิทยาลัย แบรนด์ของผมจึงไม่ได้มีแค่ความเชื่อ แต่ความบ้าความคลั่งไคล้หลงใหลในสิ่งที่ผมอยากจะทำ ทำให้ผมเริ่มลงมือทำ”
คุณบูมเริ่มวาง Business Plan ของแบรนด์ SELVEDGEWORK ตั้งแต่อยู่ในมหาวิทยาลัย เขาค่อยๆ วางรายละเอียดจัดทำแคตตาล็อกผลิตภัณฑ์ พิถีพิถันกับการวางกรอบและเรื่องราวของแบรนด์ ความบ้าของคุณบูมไม่ได้อยู่แค่ในห้องของความคิด แต่ยังถ่ายทอดผ่านตัวตน ผ่านคำพูดที่เพื่อนๆ หรือคนใกล้ชิดได้สัมผัสอยู่ตลอดเวลา นักศึกษาคนหนึ่งที่เพื่อนหลายคนสนุกกับการเดินทางเพื่อท่องเที่ยว เพื่อเสพจินตนาการ แต่คุณบูมเริ่มเดินทางเพื่อคัดสรรวัตถุดิบ เคาะประตูออฟฟิศตามหาโรงงานทอผ้า พยายามจนได้ผ้ายีนส์ริมแดงชุดแรกๆ จากประเทศญี่ปุ่น มาเติมความคิดและสร้างธุรกิจที่เป็นโปรเจ็กต์ลับของเขาให้ชัดเจนยิ่งขึ้น
“ความรู้สึกว่าเดินมาถูกทางของผมเริ่มชัดตั้งแต่ออร์เดอร์แรกจากรุ่นน้องในมหาลัย” เส้นทางที่สับสน ธุรกิจที่ครอบครัวไม่เชื่อว่าคุณบูมจะทำได้ เพราะไม่ใช่แค่ไม่มีความรู้ แต่ยังไม่เคยทำงานแบบนี้ และขายกางเกงยีนส์ในราคาเกือบหนึ่งหมื่นบาทในตลาดที่นิยมแบรนด์อย่างเมืองไทย
คุณบูมบอกกับเราว่า ระหว่างทางกว่าจะมีวันนี้เขาทั้งเหนื่อย ท้อ และอยากจะเลิกในหลายครั้ง แต่มีเพลงหนึ่งที่ฉุดเขาขึ้นมาจากความเจ็บปวด และทุ่มเทเดินหน้าต่อ ก็คือเพลง If Not Now, When? ของ วง Incubus ที่สื่อข้อความสำคัญมาถึงคุณบูมว่า หากเราไม่เลือกที่จะทำในวันนี้แล้ว เมื่อไหร่จะเป็นของเราอย่างแท้จริง ปักหมุดความเชื่อจนเป็นคำที่เขาสามารถพูดได้อย่างเต็มปากว่า “หากทุกคนมีจุด “โฟกัส” จุดใดสักจุดหนึ่ง ไม่ว่าจะเรื่องอะไร จะยากแค่ไหนทุกคนสามารถทำได้ทุกอย่าง แค่คุณศรัทธากับสิ่งนั้นและทุ่มเทด้วยจิตวิญญาณของคุณจริงๆ”
ลูกค้าคนแรก ไม่ใช่แค่การสร้างรายได้ แต่คือกำลังใจสูงสุดของคนที่ทำทุกอย่างด้วยตนเอง คือสิ่งที่บอกว่าการทุ่มเทตลอดเวลาที่ผ่านมานั้นไม่สูญเปล่า พร้อมกับการทำให้กระบวนการคิดของเขาเปลี่ยนไปด้วยเช่นกัน จากการสร้างกางเกงยีนส์ที่ดีที่สุดในโลกเป็น ความตั้งใจสร้าง “กางเกงยีนส์ที่ดีที่สุดสำหรับลูกค้าของแบรนด์” ความคิดที่เปลี่ยนจากการทำจริง เห็นจริง ไม่ใช่เพื่อยอดขายหรือคำติชม แต่เป็นรอยยิ้มจากลูกค้าของแบรนด์เลือกสวมกางเกงยีนส์ของ SELVEDGEWORK อย่างภูมิใจในทุกๆ วัน ความคิดที่เป็นหัวใจของการตัดเย็บกางเกงยีนส์ตั้งแต่ตัวแรก จนมาเป็นกางเกงยีนส์นับหมื่นตัวในอีกหลายปีต่อมา
“ผ้ายีนส์มีเสน่ห์ตรงเป็นเหมือนงานศิลปะ การถักทอของเส้นด้ายจนแน่นและหนาพอดี การย้อมสีที่สามารถไล่เฉดให้แตกต่างกันในแต่ละผืน ช่างฝีมือเป็นเหมือนกับศิลปินที่เข้ามาแต่งสี ออกแบบลวดลาย สร้างมิติให้น่าสนใจผ่านรอยขาด ผ่านแนวเส้นที่ไม่ซ้ำกัน โดยมีผู้ที่เป็นเจ้าของยีนส์ตัวนั้นร่วมบรรเลงงานศิลปะผ่านการเลือกองค์ประกอบต่างๆ บนยีนส์ตัวนั้นด้วยตัวของเขาเอง”
SELVEDGEWORK คือแบรนด์ที่เล่าเรื่องราวชีวิตของผม ถ่ายทอดความคิด บันทึกเหตุการณ์และการต่อสู้ทุกอย่างกว่าจะเป็นงานที่พิถีพิถัน เป็นกางเกงยีนส์ที่เป็นของคุณเท่านั้น ไม่เหมือนใครเลยบนโลกใบนี้ ความศรัทธาในสิ่งที่ทำทำให้ทุกขั้นตอนมีความหมาย ตั้งแต่การคัดสรรเลือกผ้า ขั้นตอนการเย็บ การเลือกผู้เชี่ยวชาญ ไปจนถึงการเลือกวัตถุดิบที่เป็นองค์ประกอบในส่วนต่างๆ ของกางเกงยีนส์ ตั้งแต่ สีของเส้นด้าย ตัวซิป กระดุม หมุดยึด ป้ายหนัง ตลอดจนการขัดลายด้วยมือบนกางเกงยีนส์แต่ละตัว เพื่อทำให้ทุกกระบวนการนำคำว่า “ดีที่สุด” ส่งต่อให้ผู้สวมใส่ซึ่งเป็นลูกค้าของแบรนด์เรา ถ่ายทอดศรัทธาของผมลงบนผ้ายีนส์ริมแดงแต่ละผืน แสดงถึงตัวตนของ “SELVEDGEWORK” ได้อย่างแท้จริง
“สำหรับผมแล้ว คำว่า แบรนด์ คือ ชื่อหนึ่งที่เริ่มต้นจากไม่มีมูลค่า แต่จะมีคุณค่าสำหรับคนอื่นก็ต่อเมื่อมีเหตุผลหรือสิ่งยึดโยงบางอย่างทำให้ทุกคนเห็นและสามารถสัมผัสได้ถึงคุณค่าของแบรนด์นั้นๆได้จริง การสร้างแบรนด์ของ SELVEDGEWORK คือ เราทุกคนคือ SELVEDGEWORK และ SELVEDGEWORK คือลูกของเราที่เราต้องเลี้ยงดูอย่างดีที่สุดไม่ใช่แค่มุมมองของเรา แต่คือมุมที่ดีที่สุดในสายตาของคนอื่นด้วยเช่นกัน”
จากความตั้งใจอย่างแรงกล้า จากความบ้าของนักศึกษาคนหนึ่ง วันนี้ SELVEDGEWORK ไม่หยุดการเติบโตในฐานะแบรนด์ยีนส์ยอดนิยมที่ต่อขยายธุรกิจจากกางเกงยีนส์ ไปสู่เสื้อยีนส์ จนถึงผลิตภัณฑ์อื่นๆ และเตรียมสร้างแบรนด์เสริมเรื่องราวให้ความเป็นยีนส์ทรงเสน่ห์ยิ่งขึ้นในเร็ววันนี้ แต่สิ่งที่ SELVEDGEWORK ได้สร้างไว้อีกประการหนึ่งคือ ทีมงานที่เข้าใจการรังสรรค์ยีนส์ให้ตอบโจทย์การเป็น “สินค้าที่ดีที่สุด” ผลงานรังสรรค์จากช่างฝีมือชาวไทยที่อวดโฉมในระดับสากลได้อย่างสง่างาม ผลผลิตจากจิตวิญญาณของผู้ชายที่ชื่อ “วิชพงษ์ หัตถสุวรรณ”
หน้า 25 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 38 ฉบับที่ 3,407 (860) วันที่ 7 - 10 ตุลาคม พ.ศ. 2561
