เกาหลีหนีสงครามการค้า ยึดไทย-อาเซียนฐานผลิตใหม่

06 ต.ค. 2561 | 09:15 น.
 

สัมภาษณ์
5 ต.ค.61-ในโอกาสที่สำนักงานส่งเสริมการค้าและการลงทุนแห่งสาธารณรัฐเกาหลี หรือ KOTRA ในฐานะตัวแทนของรัฐบาลเกาหลีใต้ที่ทำหน้าที่ส่งเสริมการค้าและการลงทุนของเกาหลีในต่างประเทศได้นำบริษัทเกาหลีกว่า 105 บริษัท มาจัดงานแสดงสินค้า “KOREA EXPO 2018, BANGKOK”ระหว่างวันที่ 3-5 ตุลาคม 2561 ณ ไบเทค บางนา การจัดงานครั้งนี้มีเป้าหมายหรือมีนัยอะไรนั้น “ฐานเศรษฐกิจ” สัมภาษณ์พิเศษ นายควอน พยอง โอ ประธานและซีอีโอ KOTRA ดังนี้

ประธานควอน(1)
รุกทางใต้มุ่งไทย-อาเซียน

นายควอน พยอง โอ กล่าวว่า การจัดงานครั้งนี้ มีเป้าหมายหลัก 2 ประการ คือ 1.เพื่อขยายความร่วมมือและแลก เปลี่ยนทางการค้าระหว่างไทยและเกาหลี รวมทั้งเพื่อเฉลิมฉลอง 60 ปี การสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตไทย-เกาหลี ครั้งนี้มีสินค้าหลากหลายอุตสาหกรรมมาจัดแสดง และจับคู่เจรจาธุรกิจภายในงาน อาทิ สินค้าอิเล็กทรอนิกส์ ไอที สินค้าอุตสาหกรรม ผลิตภัณฑ์ด้านความงาม สินค้าอุปโภคบริโภคและอาหาร เป็นต้น 2.เพื่อส่งเสริม และยกระดับความร่วมมือของทั้ง 2 ประเทศในด้านต่างๆ

korea

“การจัดงานครั้งนี้ยังเป็นส่วนหนึ่งของนโยบายรัฐบาลเกาหลีใต้ที่ได้ริเริ่มนโยบายสู่ทางใต้แบบใหม่ (New Southern Policy) ที่จะขยายการค้าการลงทุน และความร่วมมือกับหลายประเทศในอาเซียน ซึ่งรวมทั้งไทยให้มากขึ้น ซึ่งผลจากความตึงเครียดจากสงครามการค้าสหรัฐอเมริกา-จีน ทำให้นักลงทุนจากเกาหลีใต้สนใจประเทศในอาเซียนที่เศรษฐกิจกำลังขยายตัวมากขึ้น ขณะที่เวลานี้สหรัฐฯและจีนเป็นตลาดการค้าของเกาหลีสัดส่วนเกือบ 40% ดังนั้นเพื่อลดความเสี่ยงจากสงครามการค้า และลดการพึ่งพาสหรัฐฯและจีนมากเกินไป ทางเกาหลีจึงอยากทำการค้ากับหลากหลายประเทศให้มากขึ้น ซึ่งรัฐบาลเกาหลีก็มีทั้งนโยบายสู่ทางใต้ และทางเหนือควบคู่กันไป”

ลดเสี่ยงสงครามการค้า

ประธานและซีอีโอ KOTRA กล่าวอีกว่า เรื่องสงครามการค้าสหรัฐฯ-จีน ที่ขึ้นภาษีสินค้าตอบโต้กันในเวลานี้ ทุกประเทศมีความเป็นห่วง รวมทั้งเกาหลีด้วย เพราะปัจจุบันบริษัทจากเกาหลีใต้มีการลงทุนอยู่ในสหรัฐฯคิดเป็นมูลค่ากว่า 100 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ(1 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐฯ) และลงทุนอยู่ในจีนกว่า 60 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ (6 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐฯ) ถือมีมูลค่าที่สูง ซึ่งผู้ประกอบการของเกาหลีใต้ในจีนมีรายได้หลักจากการใช้ฐานผลิตในจีนส่งออกสินค้าไปสหรัฐฯ แต่เมื่อสหรัฐฯปรับขึ้นภาษีสินค้าจากจีนในอัตราสูงจะมีผลทำให้ส่งออกได้ลดลง และงานก็จะน้อยลง ดังนั้นจึงต้องกระจายความเสี่ยงในการหาที่ลงทุนในประเทศอื่นเพิ่มขึ้น ซึ่งไทยเป็นหนึ่งในตัวเลือกที่มีโอกาสมาก

th-ko2

ในส่วนของประเทศไทย เกาหลีถือเป็นนักลงทุนที่ใหญ่เป็นอันดับ 9 ของไทย ปัจจุบันมีบริษัทจากเกาหลีมาลงทุน หรือมีสาขาธุรกิจอยู่ในไทยกว่า 400 บริษัท ในอุตสาหกรรมที่หลากหลาย อาทิ อุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์ เหล็กกล้า ชิ้นส่วนรถยนต์ และโฮม ช็อปปิ้ง นับเป็นอันดับ 3 ของเกาหลีที่ลงทุนในอาเซียน รองจากเวียดนามที่มีบริษัทเกาหลี 7,000 บริษัท และในอินโดนีเซียประมาณ 600 บริษัท

“ในการลงทุนของเกาหลีในอาเซียนไม่ได้ให้ความสำคัญกับประเทศใดเป็นพิเศษ แต่จะพิจารณาว่ามีความต้องการหรือมีความตั้งใจจะร่วมมือกับทางเกาหลี รวมทั้งพิจารณาจากสาขาธุรกิจที่เกาหลีมีศักยภาพและหุ้นส่วนที่มีศักยภาพ ซึ่งในอนาคตนักธุรกิจเกาหลีจะมาลงทุนในไทยเพิ่มขึ้นมากน้อยเพียงใด ขึ้นอยู่กับ 2 ประเด็นคือ 1.นโยบายของรัฐบาลไทยว่าส่งเสริมบริษัทหรือนักธุรกิจเกาหลีมากน้อยเพียงใด 2.บริษัทจากเกาหลีที่ลงทุนและทำธุรกิจอยู่ในไทย รวมถึงรายใหม่ก็ต้องพิจารณาว่าธุรกิจทางด้านใดมีความเหมาะสมกับลักษณะของบริษัทเกาหลี และขึ้นกับ พาร์ตเนอร์ (หุ้นส่วน) คนไทยว่าจะได้พาร์ตเนอร์ที่ดี และมีศักยภาพมากน้อยเพียงใด ตรงนี้เป็นประเด็นสำคัญ”

เล็งอุตฯบริการ-อุตฯ4.0

th-ko

อย่างไรก็ดีถ้าดูตามลักษณะธุรกิจอุตสาหกรรมของไทยแล้วมี 2 อุตสาหกรรมที่มีโอกาสขยายตัว ได้แก่ 1.อุตสาหกรรมบริการ เพราะเวลานี้อุตสาหกรรมการผลิตแบบเดิมๆ เริ่มอิ่มตัวแล้ว หลายประเทศก็มาลงทุนแล้ว ในอนาคตถ้าเป็นอุตสาหกรรมบริการซึ่งเป็นอุตสาหกรรมที่เกาหลีเจริญเติบโตอย่างมาก และรวดเร็ว อาจจะมาร่วมทุนกับอุตสาหกรรมบริการของไทยได้ ตรงนี้มีโอกาสแน่นอน

2.อุตสาหกรรมยุค 4.0 ที่เวลานี้ไทยมีนโยบายส่งเสริมการลงทุนในพื้นที่ระเบียงเศรษฐกิจภาคตะวันออกหรืออีอีซี ตรงนี้มองว่ามีโอกาส และมีศักยภาพมาก โดยเวลานี้บริษัทเกาหลีหลายรายก็สนใจที่จะมาลงทุนในอีอีซี และในอุตสาหกรรม 4.0 เพื่อ 2 ประเทศเติบโตไปด้วยกัน

ส่วนทางด้านการค้า เกาหลีถือเป็น 1 ใน 10 คู่ค้าสำคัญของไทย จากปีที่ผ่านมาทั้ง 2 ประเทศมีมูลค่าการค้ารวม 12,700 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ปีนี้คาดจะเพิ่มขึ้นเป็น 14,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ซึ่งจะสูงที่สุดเมื่อเทียบกับปี 2554 ที่มีมูลค่า 13,900 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ

นอกจากนี้ในการแลกเปลี่ยนด้านวัฒนธรรมและบุคคลก็มีมาอย่างต่อเนื่อง โดยปีที่ผ่านมามีชาวเกาหลีกว่า 1.7 ล้านคน เดินทางมาเยือนประเทศไทย  ถือเป็นประเทศที่ชาวเกาหลีนิยมมาเยือนมากที่สุด ขณะที่ปีที่ผ่านมามีคนไทยกว่า 5 แสนคนเดินทางไปเยือนเกาหลี โดยเกาหลีเป็นประเทศที่คนไทยไปเยือนมากที่สุดเป็นอันดับ 5 จากทุกประเทศทั่วโลก

“จากการแลกเปลี่ยนทางวัฒนธรรมและบุคลากรที่เพิ่มขึ้น กระแสเกาหลี หรือ Korean wave ก็แพร่กระจายในประเทศไทย ในทางกลับกันวัฒนธรรมไทย ก็แผ่กระจายเข้าไปในเกาหลี ซึ่งเวลานี้วัฒนธรรมและความเป็นไทยได้รับความนิยมอย่างมากในกรุงโซล”

หน้า 9 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 38 ฉบับที่ 3,40 วันที่ 7-10 ตุลาคม 2561

ดาวน์โหลดอีบุ๊กแทรกข่าว