ผู้ตรวจฯ จี้ กกพ. แจงปม "เครือ ปตท." ซื้อหุ้น "โกลว์" ผูกขาด-ขัด รธน. หรือไม่
ผู้ตรวจการแผ่นดินขีดเส้น 30 วัน จี้ กกพ. แจง 3 ข้อสงสัย บริษัทลูก ปตท. ซื้อหุ้น "โกลว์" เข้าข่ายผูกขาดทางการค้า-มีปัญหาขัดรัฐธรรมนูญและกฎหมายที่เกี่ยวข้องหรือไม่
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สํานักงานผู้ตรวจการแผ่นดิน โดยนายรักษเกชา แฉ่ฉาย เลขาธิการสํานักงานผู้ตรวจการแผ่นดิน ได้ทำหนังสือถึงเลขาธิการสํานักงานคณะกรรมการกํากับกิจการพลังงาน เมื่อวันที่ 28 ก.ย. ที่ผ่านมา เพื่อขอให้ชี้แจงข้อเท็จจริงและส่งเอกสารหลักฐาน เพื่อประกอบการพิจารณาเรื่องร้องเรียน
กรณีมีผู้ร้องเรียนต่อผู้ตรวจการแผ่นดิน ขอให้พิจารณาเสนอเรื่องพร้อมด้วยความเห็นต่อศาลปกครองเพื่อพิจารณาวินิจฉัย กรณี บริษัท ปตท. จํากัด (มหาชน) โดยบริษัทในเครือ คือ บริษัท โกลบอล เพาเวอร์ ซินเนอร์ยี่ จํากัด (มหาชน) ซื้อหุ้นของ บริษัท โกลว์ พลังงาน จํากัด (มหาชน) เป็นการกระทําที่ก่อให้เกิดการผูกขาดทางการค้า มีปัญหาเกี่ยวกับความชอบด้วยรัฐธรรมนูญ 2560 มาตรา 75 และกฎหมายที่เกี่ยวข้องหรือไม่
สํานักงานผู้ตรวจการแผ่นดินได้รับมอบหมายจากผู้ตรวจการแผ่นดินพิจารณาแล้ว เห็นว่า เพื่อประโยชน์ในการพิจารณาและให้เกิดความเป็นธรรมกับทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง จึงอาศัยอํานาจตามความในมาตรา 25 (1) แห่ง พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยผู้ตรวจการแผ่นดิน พ.ศ. 2560 ขอให้สํานักงานคณะกรรมการกํากับกิจการพลังงาน (กกพ.) ชี้แจงข้อเท็จจริง เพื่อประกอบการพิจารณาเรื่องร้องเรียนในประเด็น ดังต่อไปนี้
1.บริษัท ปตท. จํากัด (มหาชน) โดยบริษัทในเครือ คือ บริษัท โกลบอล เพาเวอร์ ซินเนอร์ยี่ จํากัด (มหาชน) ได้ดําเนินการซื้อหุ้นของ บริษัท โกลว์ พลังงาน จํากัด (มหาชน) ตามที่ผู้ร้องเรียนกล่าวอ้างหรือไม่ ซื้อในสัดส่วนเท่าใด ขณะนี้อยู่ในขั้นตอนใด
2.การซื้อหุ้นดังกล่าวจะมีผลทําให้ บริษัท ปตท. จํากัด (มหาชน) และบริษัทในเครือ เป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่ของ บริษัท โกลว์ พลังงาน จํากัด (มหาชน) หรือไม่ และจะมีผลผูกขาดทางการค้า ลดการแข่งขัน หรือ จํากัดการแข่งขันในการให้บริการด้านพลังงานไฟฟ้าหรือไม่
3.การซื้อหุ้นดังกล่าวได้กระทําภายใต้กรอบวัตถุประสงค์ของ บริษัท ปตท. จํากัด (มหาชน) และบริษัทในเครือหรือไม่ มีผลดีหรือผลเสียต่อการประกอบกิจการด้านพลังงานไฟฟ้าอย่างไร เป็นการกระทําที่ชอบด้วยรัฐธรรมนูญ 2560 มาตรา 75 และ พ.ร.บ.การประกอบกิจการพลังงาน พ.ศ. 2550 มาตรา 7 (3) และมาตรา 60 ประกอบระเบียบคณะกรรมการกํากับกิจการพลังงาน ว่าด้วยการกําหนดหลักเกณฑ์เพื่อมิให้มีการรวมกิจการอันก่อให้เกิดการผูกขาด ลดการแข่งขัน หรือ จํากัดการแข่งขัน ในการให้บริการพลังงาน พ.ศ. 2552 ข้อ 3 ข้อ 4 และข้อ 5 หรือไม่ อย่างไร
ทั้งนี้ หากมีเอกสารหลักฐานที่เกี่ยวข้อง ขอให้ส่งไปยังสํานักงานผู้ตรวจการแผ่นดิน เพื่อประกอบการพิจารณาต่อไป และขอให้แจ้งให้สํานักงานผู้ตรวจการแผ่นดินทราบภายใน 30 วัน นับแต่วันที่ได้รับหนังสือฉบับนี้
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สํานักงานผู้ตรวจการแผ่นดิน โดยนายรักษเกชา แฉ่ฉาย เลขาธิการสํานักงานผู้ตรวจการแผ่นดิน ได้ทำหนังสือถึงเลขาธิการสํานักงานคณะกรรมการกํากับกิจการพลังงาน เมื่อวันที่ 28 ก.ย. ที่ผ่านมา เพื่อขอให้ชี้แจงข้อเท็จจริงและส่งเอกสารหลักฐาน เพื่อประกอบการพิจารณาเรื่องร้องเรียน
กรณีมีผู้ร้องเรียนต่อผู้ตรวจการแผ่นดิน ขอให้พิจารณาเสนอเรื่องพร้อมด้วยความเห็นต่อศาลปกครองเพื่อพิจารณาวินิจฉัย กรณี บริษัท ปตท. จํากัด (มหาชน) โดยบริษัทในเครือ คือ บริษัท โกลบอล เพาเวอร์ ซินเนอร์ยี่ จํากัด (มหาชน) ซื้อหุ้นของ บริษัท โกลว์ พลังงาน จํากัด (มหาชน) เป็นการกระทําที่ก่อให้เกิดการผูกขาดทางการค้า มีปัญหาเกี่ยวกับความชอบด้วยรัฐธรรมนูญ 2560 มาตรา 75 และกฎหมายที่เกี่ยวข้องหรือไม่
สํานักงานผู้ตรวจการแผ่นดินได้รับมอบหมายจากผู้ตรวจการแผ่นดินพิจารณาแล้ว เห็นว่า เพื่อประโยชน์ในการพิจารณาและให้เกิดความเป็นธรรมกับทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง จึงอาศัยอํานาจตามความในมาตรา 25 (1) แห่ง พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยผู้ตรวจการแผ่นดิน พ.ศ. 2560 ขอให้สํานักงานคณะกรรมการกํากับกิจการพลังงาน (กกพ.) ชี้แจงข้อเท็จจริง เพื่อประกอบการพิจารณาเรื่องร้องเรียนในประเด็น ดังต่อไปนี้
1.บริษัท ปตท. จํากัด (มหาชน) โดยบริษัทในเครือ คือ บริษัท โกลบอล เพาเวอร์ ซินเนอร์ยี่ จํากัด (มหาชน) ได้ดําเนินการซื้อหุ้นของ บริษัท โกลว์ พลังงาน จํากัด (มหาชน) ตามที่ผู้ร้องเรียนกล่าวอ้างหรือไม่ ซื้อในสัดส่วนเท่าใด ขณะนี้อยู่ในขั้นตอนใด
2.การซื้อหุ้นดังกล่าวจะมีผลทําให้ บริษัท ปตท. จํากัด (มหาชน) และบริษัทในเครือ เป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่ของ บริษัท โกลว์ พลังงาน จํากัด (มหาชน) หรือไม่ และจะมีผลผูกขาดทางการค้า ลดการแข่งขัน หรือ จํากัดการแข่งขันในการให้บริการด้านพลังงานไฟฟ้าหรือไม่
3.การซื้อหุ้นดังกล่าวได้กระทําภายใต้กรอบวัตถุประสงค์ของ บริษัท ปตท. จํากัด (มหาชน) และบริษัทในเครือหรือไม่ มีผลดีหรือผลเสียต่อการประกอบกิจการด้านพลังงานไฟฟ้าอย่างไร เป็นการกระทําที่ชอบด้วยรัฐธรรมนูญ 2560 มาตรา 75 และ พ.ร.บ.การประกอบกิจการพลังงาน พ.ศ. 2550 มาตรา 7 (3) และมาตรา 60 ประกอบระเบียบคณะกรรมการกํากับกิจการพลังงาน ว่าด้วยการกําหนดหลักเกณฑ์เพื่อมิให้มีการรวมกิจการอันก่อให้เกิดการผูกขาด ลดการแข่งขัน หรือ จํากัดการแข่งขัน ในการให้บริการพลังงาน พ.ศ. 2552 ข้อ 3 ข้อ 4 และข้อ 5 หรือไม่ อย่างไร
ทั้งนี้ หากมีเอกสารหลักฐานที่เกี่ยวข้อง ขอให้ส่งไปยังสํานักงานผู้ตรวจการแผ่นดิน เพื่อประกอบการพิจารณาต่อไป และขอให้แจ้งให้สํานักงานผู้ตรวจการแผ่นดินทราบภายใน 30 วัน นับแต่วันที่ได้รับหนังสือฉบับนี้
