ลุ้นตลาดบอนด์ทะลุล้านล้าน

04 ต.ค. 2561 | 06:19 น.
กสิกรไทย ประเมินตลาดบอนด์คึกคัก ต่างชาติแห่ลงทุน คาดสิ้นปีทะลุ 1 ล้านล้านบาท สูงสุดเป็นประวัติการณ์ จากปัจจุบันแตะ 9.5 แสนล้านบาท อานิสงส์ดุลบัญชีเดินสะพัดเกินดุล ทุนสำรองปึ้ก ชี้นักลงทุนโยกเงินในตลาดเกิดใหม่พักในไทย เหตุมองขาดทุนน้อยกว่าประเทศอื่น

นายธิติ ตันติกุลานันท์ ผู้บริหารสายงานธุรกิจตลาดทุน ธนาคาร กสิกรไทย จำกัด(มหาชน) เปิดเผยว่า แนวโน้มตลาดพันธบัตรปีนี้ จะเห็นนักลงทุนต่างชาติเข้ามาลงทุนถือครองพันธบัตรไทยแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ โดยคาดว่าสิ้นปีจะมียอดสูงถึง 1 ล้านล้านบาท จากอดีตเคยสูงสุดที่ 6.6 แสนล้านบาท ซึ่งหากดูตัวเลขปัจจุบัน มียอดถือครองสะสมอยู่ที่ 9.45-9.5 แสนล้านบาท และหากดูตั้งแต่ต้นปีจนถึงปัจจุบันมียอดเข้ามาแล้ว 4.5 หมื่นล้านบาท เทียบกับปี 2560 ที่ 5-5.1 หมื่นล้านบาทและปี 2559 อยู่ที่ 4.8 หมื่นล้านบาท

[caption id="attachment_327174" align="aligncenter" width="334"] ธิติ ตันติกุลานันท์ ธิติ ตันติกุลานันท์[/caption]

ทั้งนี้เนื่องจาก ประเทศไทยมีพื้นฐานเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งเมื่อเทียบกับประเทศในภูมิภาค ทั้งดุลบัญชีเดินสะพัดเกินดุล ดุลบริการ และเงินสำรองระหว่างประเทศค่อนข้างสูง ปัจจุบันตัวเลขเงินไหลออกอยู่ที่ 9,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ จากปีก่อนที่ 1.7 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐฯ แม้ว่า ตลาดจะมองว่าเป็นผลจากธนาคารกลางสหรัฐฯ(เฟด)ปรับดอกเบี้ยขึ้นในปีนี้ 1 ครั้ง และอีก 2-3 ครั้งในปี 2562 ทำให้อัตราดอกเบี้ยสหรัฐฯมีโอกาสแตะ 3% จึงมีโอกาสที่เงินจะไหลออกจากไทย แต่โอกาสที่ค่าเงินบาทจะอ่อนค่าคงน้อย

อย่างไรก็ตาม แม้เงินจะไหลออกจากไทย และไทยไม่ได้เป็นหลุมหลบภัย(Safe Haven) แต่ไทยยังเป็นประเทศที่นักลงทุนต่างชาติให้ความสนใจและลงทุน เพราะน่าจะเป็นที่ปลอดภัยและขาดทุนน้อยที่สุดเมื่อเทียบกับตลาดเกิดใหม่ เนื่องจากนักลงทุนมองตลาดอัตราแลกเปลี่ยนเป็นภูมิภาค (Regional Currency) ดังนั้น เมื่อนำเงินออกจากตลาดเกิดใหม่ จะต้องมองหาที่ลงทุนใหม่ ซึ่งไทยแม้มีโอกาสเงินบาทอ่อนและแข็งค่าได้ แต่เป็นตลาดที่ปลอดภัยที่สุด ทำให้เงินไหลเข้าไทย และโยกไปลงทุนในตลาดพันธบัตรไทยแทน

สำหรับตลาดหุ้นกู้(Corporate Bond) ช่วงไตรมาส 3-4 คาดว่า จะทยอยออกมาให้เห็นเยอะขึ้น เนื่องจากแนวโน้มดอกเบี้ยขาขึ้นเริ่มชัดเจน ขณะที่การออกหุ้นกู้มีต้นทุนตํ่ากว่าสินเชื่อธนาคาร โดยหุ้นกู้ที่ออกมีระยะเวลายาวขึ้นเฉลี่ย 4-5 ปี จากเดิมที่ 4 ปี ส่วนหนึ่งเพื่อล็อกต้นทุนก่อนดอกเบี้ยจะปรับขึ้น ปีนี้คาดว่า ตลาดน่าจะเติบโต 10% หรือมูลค่า 8.8 แสนล้านบาท จากปีก่อนอยู่ที่ 7.3 แสนล้านบาท โดยช่วง 8 เดือนแรกอยู่ที่ 5.68 แสนล้านบาท

“เราคาดว่า ทั้งปีจะมีส่วนแบ่งตลาด(มาร์เก็ตแชร์) 20-22% ขึ้นเป็นอันดับ 1 ของตลาดหุ้นกู้ จากปีก่อนมีมาร์เก็ตแชร์ที่ 14-15% และปัจจุบันอยู่ที่ 20% ซึ่งจะวัดจากจำนวนหุ้นกู้ที่ออกและธนาคารได้เป็นผู้จัดจำหน่าย (Underwriter)ในสัดส่วนเท่าไร”

หน้า 23-24 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 38 ฉบับที่ 3,406 วันที่ 4 - 6 ตุลาคม พ.ศ. 2561

ดาวน์โหลดอีบุ๊กแทรกข่าว