'อเมซอน' ยึดเอเชีย! ปูพรม 2 หมื่นแห่งทั่วโลก ก้าวสู่โกลบัลแบรนด์

04 ต.ค. 2561 | 11:30 น.
041061-1830

เผยตัวเลข! คนไทยซดกาแฟพุ่ง ปลุกธุรกิจร้านกาแฟแข่งเดือด "คาเฟ่อเมซอน" ประกาศแผนเดินหน้าเสริมแกร่งไทย ก่อนวางรากเอเชีย และปูพรม 2 หมื่นแห่งทั่วโลก ใน 5-10 ปี

ตัวเลขจาก "ยูโรมอนิเตอร์" ระบุว่า ธุรกิจเชนร้านกาแฟและร้านกาแฟอินดี้ที่มีเอกลักษณ์ มีมูลค่าตลาดรวม 1.7 หมื่นล้านบาท มีการเติบโต 15.7% ซึ่งถือว่าเป็นตัวเลขที่ดีเมื่อเทียบกับการเติบโตในเซ็กเมนต์อื่น ๆ ทั้งนี้ เป็นผลมาจากพฤติกรรมของกลุ่มคนรุ่นใหม่ที่นิยมดื่มกาแฟ พร้อมไลฟ์สไตล์ใหม่ ๆ ดังนั้น ปีนี้จึงได้เห็นเชนร้านกาแฟยักษ์ใหญ่ของเมืองไทยออกมาประกาศแผนงานต่าง ๆ พร้อมทั้งเข็นแคมเปญต่าง ๆ ออกมาเพื่อรุกตลาด ไม่ว่าจะเป็น สตาร์บัคส์ ที่ฉลองครบรอบ 20 ปีในไทย พร้อมเปิดตัวเครื่องดื่มใหม่ ๆ มากมาย , อินทนิล ที่มาพร้อมโมเดลที่หลากหลายในการเจาะกลุ่มลูกค้า ตั้งแต่ตลาดแมสไปจนถึงกลุ่มคนรักสุขภาพในตลาดพรีเมียม และอเมซอน หลังออกมาชี้แจงถึงกรณีปรับราคาขึ้น 5 บาท เป็นครั้งแรกในรอบ 6 ปี หลังต้องทนแบกต้นทุนมาสักพัก ซึ่งราคาที่ปรับขึ้นมา ก็ถือเป็นการลดภาระให้กับแฟรนไชส์เป็นหลัก พร้อมย้ำชัดจุดยืนสู่โกลบัลแบรนด์อย่างแน่วแน่

นายสุชาติ ระมาศ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่การตลาดขายปลีก บริษัท ปตท.น้ำมันและการค้าปลีก จำกัด (มหาชน) ผู้บริหารร้านกาแฟ "คาเฟ่อเมซอน" เปิดเผยกับ "ฐานเศรษฐกิจ" ว่า ทิศทางการแข่งขันในธุรกิจเชนร้านกาแฟเมืองไทย มีการเติบโตที่สูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยคาดว่า ปีนี้น่าจะเติบโต 15-20% จากผู้บริโภคกาแฟในไทยมีความต้องการบริโภคมากขึ้นอย่างต่อเนื่อง สังเกตได้จากอัตราการบริโภคกาแฟของคนไทยในช่วง 3 ปีก่อน ที่มีการบริโภคกาแฟเพียง 1.1 กก. ต่อคนต่อปี แต่ปัจจุบัน กลับเพิ่ม 1.9 กก. ต่อคนต่อปี ส่งผลให้ผู้ประกอบการธุรกิจร้านกาแฟ ทั้งแบรนด์ไทยและแบรนด์ต่างชาติ มองเห็นโอกาสทางการเติบโตในประเทศไทยและเข้ามาทำตลาดเพิ่มมากขึ้นในช่วงที่ผ่านมา ซึ่งมองว่า การแข่งขันดังกล่าวถือเป็นเรื่องที่ดี เพราะจากภาพรวมตลาดที่มีการเติบโตสูง ทำให้มีหลายแบรนด์เข้ามา ถือว่าเป็นการสร้างทางเลือกให้ลูกค้า เนื่องจากแต่ละแบรนด์จะมีเอกลักษณ์ รสชาติ การตกแต่งร้านที่แตกต่างกัน


mp36-3406-a

"แน่นอนว่า จากตัวเลขการบริโภคกาแฟของคนไทย เมื่อเทียบกับญี่ปุ่นที่บริโภคกาแฟอยู่ที่ 3.4 กก. ต่อคนต่อปี , ยุโรปอยู่ที่ 6-7 กก. ต่อคนต่อปี ซึ่งหากเปรียบเทียบกับไทยมองว่า ยังมีช่องว่างทางการเติบโตอีกมากกว่าจะไปถึงตัวเลขดังกล่าว"

ขณะที่ ทิศทางของร้านกาแฟอเมซอนนับจากนี้ จะเติบโต 2 ทาง คือ 1.เติบโตตามการขยายสาขาของสถานีบริการน้ำมัน ปตท. ที่เกิดขึ้นใหม่ และ 2.การเติบโตนอกพื้นที่บริการน้ำมันเข้าไปยังพื้นที่ต่าง ๆ โดยปัจจุบัน ร้านกาแฟอเมซอนมีจำนวน 2,260 แห่ง กว่า 80% เป็นสาขารูปแบบแฟรนไชส์ ซึ่งแนวทางนับจากนี้ บริษัทจะยังคงเน้นการเติบโต ทั้งในปั๊มและนอกปั๊ม ผ่านรูปแบบแฟรนไชส์เป็นหลัก โดยสัดส่วนแฟรนไชส์ต้องอยู่ที่ 80% ขึ้นไป ซึ่งในปี 2562 บริษัทมีแผนขยายสาขาทั้งรูปแบบลงทุนเองและแฟรนไชส์อยู่ที่ 350-400 แห่ง ทั้งในและนอกปั๊ม

ด้านแผนการทำตลาดมีการเปิดเมนูสุขภาพสำหรับผู้บริโภค 3 เมนู 1.แบล็กคอฟฟี่ฮันนี่ (กาแฟดำผสมน้ำผึ้ง) 2.แบล็กทีฮันนี่ (ชาดำเย็นผสมน้ำผึ้ง) 3.มัจฉะฮันนี่ (ชาเขียวผสมน้ำผึ้ง) เนื่องจากคนไทยมองเรื่องสุขภาพมากขึ้น ปัจจุบัน ได้ตราฉลากทางเลือกเมนูสุขภาพรายแรกในธุรกิจร้านกาแฟเมืองไทย ขณะที่ ตัวอเมซอนเอง มีบัตร Blue Card 3.8 ล้านราย มีผู้ใช้แอกทีฟ 60% ซึ่งกลุ่มดังกล่าวถือเป็นลูกค้าร้านกาแฟที่บริษัทจะทำการสื่อสารไปเพิ่มเติมด้วย

ขณะที่ ในต่างประเทศนั้น หลังจากได้เข้าไปทำตลาดในกัมพูชา สปป.ลาว ญี่ปุ่น ฟิลิปปินส์ จีน สิงคโปร์ เวียดนาม มาเลเซียแล้ว ล่าสุด ได้ขยายสาขาในจีน ญี่ปุ่น และโอมาน ซึ่งมีความเป็นไปได้ทั้งในรูปแบบของแฟรนไชส์ การร่วมทุน และบริษัทเข้าไปลงทุนเอง ล่าสุด บริษัทได้ร่วมกับ บริษัท โอมานออยล์ จำกัด ในการขยายสาขาร้านกาแฟอเมซอน (มาสเตอร์แฟรนไชส์) ไปยังประเทศโอมานภายในเดือนนี้ ทั้งนี้ การขยายสาขาเข้าไปในโอมานถือเป็นก้าวสำคัญในการใช้ประเทศดังกล่าวเป็นฮับขยายร้านกาแฟอเมซอนไปยังกลุ่มประเทศตะวันออกกลาง เพื่อให้บรรลุเป้าหมายในการเป็นรีจินัลแบรนด์ช่วง 3-5 ปี ก่อนจะขยายตลาดไปยังกลุ่มประเทศในแถบยุโรปตามแผนงานในอนาคต

สำหรับการทำตลาดต่างประเทศ ในส่วนของกลุ่มประเทศเพื่อนบ้าน ถือว่ามีความได้เปรียบเรื่องแบรนด์อยู่แล้ว เพราะมีความคุ้นเคยกับแบรนด์และมีความชื่นชอบด้านรสชาติที่คล้ายคลึงกัน

อย่างไรก็ตาม เป้าหมายของบริษัท คือ การก้าวสู่การเป็นโกลบัลแบรนด์ใน 5-10 ปี โดยมีจำนวนสาขาทั่วโลกราว 2 หมื่นแห่ง หรือ คิดเป็น 1 ใน 3 ของจำนวนร้านกาแฟระดับโลก อย่าง สตาร์บัคส์ ที่ปัจจุบันมีจำนวนสาขาอยู่ราว 2 หมื่นแห่งทั่วโลก โดยประเมินว่า การเติบโตของธุรกิจเชนร้านกาแฟปีนี้ น่าจะมีการเติบโตราว 15-20% ขณะที่ อีก 3-5 ปี แนวโน้มเติบโตได้ 2 หลัก หรือ ราว 10% ต่อเนื่อง จากการแข่งขันหลากหลาย ทั้งแบรนด์ไทยและเทศ และกลุ่มกาแฟอินดี้ใหม่ ๆ ที่เข้ามาอย่างต่อเนื่อง


……………….
หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 38 ฉบับที่ 3,406 วันที่ 4 - 6 ต.ค. 2561 หน้า 36+35

ข่าวที่เกี่ยวข้อง :
อเมซอนเตรียมเปิดร้านค้าอัจฉริยะ “ไร้แคชเชียร์”   Amazon Go เพิ่มอีก 3 พันแห่งใน 3 ปีข้างหน้า
คาเฟ่ อเมซอน ปรับราคาขึ้น เมนูละ 5 บาท


เพิ่มเพื่อน


ดาวน์โหลดอีบุ๊กแทรกข่าว