เงินบาทต่อดอลลาร์สหรัฐฯ แข็งค่าแตะ 32.28
ธนาคารกรุงไทย ระบุ เงินบาทต่อดอลลาร์สหรัฐฯ เปิดตลาดเช้าวันนี้ (2 ต.ค. 2561) ที่ระดับ 32.28 บาท แข็งค่าขึ้นจาก 32.23 บาท ช่วงปิดสิ้นวันทำการก่อน
ในคืนที่ผ่านมา ตลาดเปิดรับความเสี่ยงมากขึ้น หลังสหรัฐฯ บรรลุสนธิสัญญาการค้ากับแคนาดาได้ในที่สุด ส่งผลให้หุ้นสหรัฐฯ อย่าง S&P500 ปรับตัวขึ้น 0.36% ขณะที่ เงินดอลลาร์แคนาดาดีดตัวขึ้น 0.77%
นอกจากเรื่องการค้า จุดที่น่าสนใจ คือ ราคาน้ำมันที่ปรับตัวขึ้นต่อเนื่อง ล่าสุด น้ำมันดิบเบรนท์แตะระดับ 85 เหรียญต่อบาร์เรล สูงที่สุดในรอบ 4 ปี จากความกังวลเรื่องการแซงชั่นอิหร่าน และปริมาณความต้องการน้ำมันที่คาดว่าจะสูงขึ้นในช่วงหน้าหนาว
ภาพรวมตลาดส่งผลให้อัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐอเมริกา (บอนด์ยิลด์สหรัฐฯ) อายุ 10 ปี ปรับตัวขึ้นต่อเนื่องไปที่ระดับ 3.08% ขณะที่ ในฝั่งยุโรป นอกจากต้นทุนการเงินที่สูงขึ้นแล้ว นักลงทุนส่วนใหญ่ยังคงมีความกังวลกับปัญหาการเมืองในยุโรป ล่าสุด ยิลด์อิตาลีอายุ 10 ปี ปรับตัวสูงขึ้นไปที่ระดับ 3.29% แม้ยิลด์เยอรมันต่ำเพียง 0.47%
ภาพยิลด์ที่สูงขึ้นพร้อมกับราคาน้ำมันไม่เป็นบวกกับค่าเงินบาท และเชื่อว่าจะส่งผลให้เกิดแรงขายทำกำไรเงินบาทที่แข็งค่ามากกว่าภูมิภาคในวันนี้
แม้ในช่วงที่ผ่านมา จะมีแรงขายดอลลาร์จากผู้ส่งออกและแรงซื้อสินทรัพย์เสี่ยงในไทย กดให้เงินบาทแข็งค่า แต่เชื่อว่า ตลาดจะทยอยย่อยข่าว ทั้งเรื่องราคาน้ำมันที่สูงขึ้นและเงินเฟ้อในประเทศที่กลับมาเป็นขาขึ้นในไม่ช้า อนาคตจะส่งผลให้เกิดการลดการถือตราสารหนี้ระยะยาวของไทย ซึ่งปัจจุบัน ให้บอนด์ยิลด์อายุ 10 ปี อยู่ในระดับต่ำเพียง 2.83% ระหว่างวันนี้กรอบค่าเงินบาทต่อดอลลาร์สหรัฐฯ อยู่ที่ 32.25-32.35 บาท
ในคืนที่ผ่านมา ตลาดเปิดรับความเสี่ยงมากขึ้น หลังสหรัฐฯ บรรลุสนธิสัญญาการค้ากับแคนาดาได้ในที่สุด ส่งผลให้หุ้นสหรัฐฯ อย่าง S&P500 ปรับตัวขึ้น 0.36% ขณะที่ เงินดอลลาร์แคนาดาดีดตัวขึ้น 0.77%
นอกจากเรื่องการค้า จุดที่น่าสนใจ คือ ราคาน้ำมันที่ปรับตัวขึ้นต่อเนื่อง ล่าสุด น้ำมันดิบเบรนท์แตะระดับ 85 เหรียญต่อบาร์เรล สูงที่สุดในรอบ 4 ปี จากความกังวลเรื่องการแซงชั่นอิหร่าน และปริมาณความต้องการน้ำมันที่คาดว่าจะสูงขึ้นในช่วงหน้าหนาว
ภาพรวมตลาดส่งผลให้อัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐอเมริกา (บอนด์ยิลด์สหรัฐฯ) อายุ 10 ปี ปรับตัวขึ้นต่อเนื่องไปที่ระดับ 3.08% ขณะที่ ในฝั่งยุโรป นอกจากต้นทุนการเงินที่สูงขึ้นแล้ว นักลงทุนส่วนใหญ่ยังคงมีความกังวลกับปัญหาการเมืองในยุโรป ล่าสุด ยิลด์อิตาลีอายุ 10 ปี ปรับตัวสูงขึ้นไปที่ระดับ 3.29% แม้ยิลด์เยอรมันต่ำเพียง 0.47%
ภาพยิลด์ที่สูงขึ้นพร้อมกับราคาน้ำมันไม่เป็นบวกกับค่าเงินบาท และเชื่อว่าจะส่งผลให้เกิดแรงขายทำกำไรเงินบาทที่แข็งค่ามากกว่าภูมิภาคในวันนี้
แม้ในช่วงที่ผ่านมา จะมีแรงขายดอลลาร์จากผู้ส่งออกและแรงซื้อสินทรัพย์เสี่ยงในไทย กดให้เงินบาทแข็งค่า แต่เชื่อว่า ตลาดจะทยอยย่อยข่าว ทั้งเรื่องราคาน้ำมันที่สูงขึ้นและเงินเฟ้อในประเทศที่กลับมาเป็นขาขึ้นในไม่ช้า อนาคตจะส่งผลให้เกิดการลดการถือตราสารหนี้ระยะยาวของไทย ซึ่งปัจจุบัน ให้บอนด์ยิลด์อายุ 10 ปี อยู่ในระดับต่ำเพียง 2.83% ระหว่างวันนี้กรอบค่าเงินบาทต่อดอลลาร์สหรัฐฯ อยู่ที่ 32.25-32.35 บาท
