บทวิเคราะห์สถานการณ์ราคาทองคำแท่ง ประจำวันที่ 1 ตุลาคม 2561 โดยบริษัท วายแอลจี บูลเลี่ยน อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด
คำแนะนำ
เน้นหากำไรฝั่งซื้อโดยมีแนวรับบริเวณ 1,180 ดอลลาร์ต่อออนซ์ และหากราคาขยับขึ้นควรแบ่งขายทำกำไรบางส่วนหากราคาทองคำไม่ผ่านโซน 1,200-1,204 ดอลลาร์ต่อออนซ์ แต่ถ้าผ่านได้สามารถถือต่อ
ราคาทองคำทดสอบแนวต้านที่ 1,200-1,204 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หากยังไม่สามารถผ่านได้ นักลงทุนยังคงต้องระมัดระวังแรงขายทำกำไรเนื่องจากช่วงที่ผ่านมาเมื่อราคาทองคำมีการปรับตัวขึ้นยังคงมีแรงขายออกมาเช่นกัน อย่างไรก็ตามหากการอ่อนตัวลงของราคาไม่หลุดโซนแนวรับระยะสั้นอยู่ที่ 1,180 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ประเมินว่าเป็นการอ่อนตัวลงเพื่อสะสมแรงซื้ออีกครั้ง
แนวรับ 1,180 1,171 1,160
แนวต้าน 1,204 1,214 1,228
สรุป ราคาทองคำวันศุกร์ที่ผ่านมาปิดปรับตัวเพิ่มขึ้น 7.70 ดอลลาร์ต่อออนซ์ พร้อมกับปิดตลาดในเดือนก.ย.ด้วยการปรับตัวลงราว -0.8% และทำสถิติปรับตัวลงเป็นเดือนที่ 6 ติดต่อกันซึ่งถือว่ายาวนานที่สุดนับตั้งแต่ปี 1997 นอกจากนี้ยังปิดไตรมาส 3 ของปีด้วยการปรับตัวลดลง -4.9% อีกด้วย ขณะที่ในระหว่างการซื้อขายของวันศุกร์ราคาทองคำร่วงลงแตะจุดต่ำสุดในรอบ 6 สัปดาห์ครั้งใหม่บริเวณ 1,180.63 ดอลลาร์ต่อออนซ์จากการที่ดัชนีดอลลาร์ทะยานขึ้นต่อสู่ 95.366 ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่วันที่ 10 ก.ย. หลังตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐในระยะนี้แข็งแกร่งมากพอที่จะสนับสนุนการเดินหน้าขึ้นดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ(เฟด) ด้านสกุลเงินยูโรดิ่งลงจนหลุดต่ำกว่าระดับ 1.160 ดอลลาร์ในระหว่างวันหลังจากรัฐบาลอิตาลีกำหนดเป้าหมายการขาดดุลงบประมาณในปีหน้าไว้ที่ 2.4% ของ GDP ซึ่งสูงกว่าเป้าหมายรัฐบาลชุดก่อนถึง 3 เท่าและเป็นความเคลื่อนไหวที่อาจก่อให้เกิดความขัดแย้งกับ EU ก่อนที่ราคาทองคำจะดีดตัวกลับในเวลาต่อมา จากการฟื้นตัวของยูโรและได้รับแรงหนุนบางส่วนจากแรงซื้อเก็งกำไรและแรงซื้อคืนเพื่อปิดสถานะขาย(Short covering)เพื่อทำกำไรในวันซื้อขายวันสุดท้ายของเดือนก.ย.และวันสิ้นไตรมาส 3 ของปี สำหรับวันนี้ติดตามการเปิดเผยดัชนี PMI ภาคการผลิตและข้อมูลค่าใช้จ่ายด้านการก่อสร้างของสหรัฐ
ที่มา : บริษัท วายแอลจี บูลเลี่ยน อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด