บูม 'บล็อกเชน' พลิกโฉมภาคเกษตร! ลดอนุญาตส่งออก 'ข้าว' ไม่เกิน 3 วัน

28 ก.ย. 2561 | 11:27 น.
พาณิชย์ชูเทคโนโลยี 'บล็อกเชน' ยกระดับภาคเกษตรไทย ประเดิมใช้ในการค้าข้าวอินทรีย์ ลดขั้นตอนชำระเงิน เล็งช่วยลดเวลาการขออนุญาตส่งออกข้าวจาก 15-20 วัน เหลือไม่เกิน 3 วัน สร้างความเชื่อใจคู่ค้า

นางสาวพิมพ์ชนก วอนขอพร ผู้อำนวยการ สำนักงานนโยบายและยุทธศาสตร์การค้า (สนค.) กระทรวงพาณิชย์ เผยว่า สนค. ได้จัดให้มีการประชุมเชิงปฏิบัติการ (เวิร์คช็อป) เพื่อพัฒนาองค์ความรู้ของข้าราชการและเอกชนไทยเกี่ยวกับเทคโนโลยี Blockchain ที่เข้ามามีบทบาทอย่างมากต่อเศรษฐกิจยุคใหม่ โดยปัจจุบัน เทคโนโลยีบล็อกเชนสามารถนำมาใช้ในการค้าอย่างหลากหลาย อาทิ การทำกระบวนการตรวจสอบย้อนกลับ (Traceability) การยืนยันตัวตนทางดิจิทัล (Digital ID) การบริหารจัดการทรัพย์สินทางปัญญา (IP) เชิงพาณิชย์ การเงินเพื่อการค้าระหว่างประเทศ (Trade Finance) เป็นต้น ซึ่งหลายอย่างเกี่ยวข้องกับงานที่กระทรวงพาณิชย์รับผิดชอบ

 

[caption id="attachment_325443" align="aligncenter" width="503"] พิมพ์ชนก วอนขอพร พิมพ์ชนก วอนขอพร[/caption]

ทั้งนี้ สนค. เล็งเห็นความเป็นไปได้ในการนำบล็อกเชนมาช่วยยกระดับภาคเกษตรและการทำงานของกระทรวง จึงได้ขอการสนับสนุนจากสถานทูตอังกฤษประจำประเทศไทย เพื่อจัดทำโครงการศึกษาความเป็นไปได้ในการนำบล็อกเชนมาใช้ในภาคธุรกิจของประเทศไทย 2 โครงการ ได้แก่ โครงการบล็อกเชนเพื่อช่วยเรื่องการจดทะเบียนทรัพย์สินทางปัญญา และโครงการ Blockchain for Trade Finance เพื่อปรับปรุงกระบวนการชำระเงินของผู้ประกอบการในการส่งออก อันจะช่วยสร้างโอกาสทางการค้าแก่ผู้ประกอบการ ลดขั้นตอนการทำงาน และเพิ่มประสิทธิภาพการให้บริการภาครัฐในอนาคต


รถเกษตร

นอกจาก 2 โครงการข้างต้นแล้ว สนค. กำลังหารือกับกลุ่มเกษตรกรรุ่นใหม่ เพื่อทำ Sandbox หรือ กระบวนการทดลองนำบล็อกเชนมาใช้ในการค้าข้าวอินทรีย์ โดยเน้นการทำกระบวนการตรวจสอบข้อมูลย้อนกลับ จากปกติกระบวนการตรวจรับรองมาตรฐานข้าวอินทรีย์ และการขออนุญาตส่งออกข้าวจะใช้เวลานาน 15-20 วัน เพราะเอกสารซับซ้อน ต้องประสานกับหลายหน่วยงานทั้งภาครัฐและเอกชน หากนำบล็อกเชนมาใช้จะสามารถลดจำนวนเวลาได้เหลือไม่เกิน 3 วัน และช่วยเพิ่มความโปร่งใส ลดต้นทุนเกษตรกร ลดเวลา และเพิ่มความน่าเชื่อถือ หรือ ไว้ใจ (Trust) ให้กับผู้นำเข้าข้าวอินทรีย์ของไทยในต่างประเทศ


ข้าว

"เชื่อว่า เทคโนโลยีสมัยใหม่หลายอย่าง เช่น บล็อกเชน จะสามารถช่วยเหลือผู้ประกอบการเอสเอ็มอี ตลอดจนเกษตรกรรายย่อย ที่เป็นคนกลุ่มใหญ่ของประเทศ ให้สามารถแข่งขันในตลาดโลกได้ รวมทั้งจะพัฒนาเศรษฐกิจการค้าท้องถิ่นให้เข้มแข็งอย่างยั่งยืน สนค. เชื่อมั่นว่า เทคโนโลยีสมัยใหม่จะช่วยลดปัญหาความเหลื่อมล้ำทางเศรษฐกิจไทยได้อย่างแน่นอน"

e-book-1-503x62-7