กบง.อัดเงินกองทุนตรึงดีเซล30บาทต่อลิตรถึงสิ้นปี
นายศิริ จิระพงษ์พันธ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน เผยว่า คณะกรรมการบริหารนโยบายพลังงาน (กบง.) มีมติรักษาระดับราคาขายปลีกน้ำมันดีเซลไม่เกิน30บาทต่อลิตร โดยใช้เงินจากกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงเพิ่มขึ้น ซึ่ง กบง. ได้ติดตามสถานการณ์ราคาน้ำมันดิบดูไบ จากมาตรการคว่ำบาตรอิหร่านของสหรัฐอเมริกา ซึ่งคาดว่าจะมีผลกระทบต่อราคาน้ำมันตลาดโลกในช่วงเดือนพฤศจิกายน 2561 โดยสถานการณ์ในปัจจุบันราคาน้ำมันดิบเบรนท์ ได้ไต่ระดับเกิน 82 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล และราคาน้ำมันดิบดูไบราคาเกิน 80 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล
โดย กบง. ได้พิจารณาราคาน้ำมันที่ปรับสูงขึ้นมาจากปัญหาดังกล่าวแล้ว ดังนั้น เพื่อเตรียมพร้อมในการดูแลผลกระทบต่อค่าครองชีพของประชาชน โดยรักษาระดับราคาขายปลีกน้ำมันดีเซลให้ไม่เกิน 30 บาทต่อลิตร ในกรณีที่ราคาน้ำมันดิบเพิ่มมากขึ้นอีก ถึง 85 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล กบง. จึงได้มีมติอนุมัติให้ใช้เงินกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง รักษาเสถียรภาพราคาขายปลีกน้ำมันดีเซล ในอัตราไม่เกิน 1.00 บาทต่อลิตร ในวงเงินไม่เกิน 6,000 ล้านบาท (เพิ่มขึ้นจากปัจจุบันที่ใช้เงินกองทุนในอัตราไม่เกิน 30 สตางค์ต่อลิตร)
ดังนั้นคาดว่าการใช้กองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง จะสามารถรักษาเสถียรภาพระดับราคาน้ำมันดีเซล ให้ราคาไม่เกิน 30 บาทต่อลิตร จนถึงสิ้นปี 2561 หากระดับราคาน้ำมันดิบไม่เกิน 85 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล ทั้งนี้ กบง. และกระทรวงพลังงาน ยังคงติดตามและเตรียมมาตรการรองรับเพื่อไม่ให้การเพิ่มขึ้นของราคาน้ำมันดีเซล ส่งกระทบต่อค่าขนส่งสินค้าและ ค่าครองชีพของประชาชน เช่น การส่งเสริมให้ผู้ประกอบการขนส่งและบริการรถโดยสารสาธารณะ มาใช้น้ำมันดีเซลเกรดพิเศษ บี20 ซึ่งมีราคาถูกกว่า 3 บาทต่อลิตร
ส่วนราคาแอลพีจี ในตลาดโลกมีแนวโน้มปรับเพิ่มขึ้นเช่นกัน แต่ยังไม่มีการหารือใน กบง.ครั้งนี้ หากราคาขยับเพิ่มขึ้นมาก กระทรวงพลังงานจะมีมาตรการเพื่อรักษาระดับราคาแอลพีจีไม่เกิน 363 บาทต่อถัง15กิโลกรัม ซึ่งจะเข้า กบง. ครั้งต่อไป