"เกษตรฯ-สธ." คุมเข้มสารพิษตกค้าง

28 ก.ย. 2561 | 10:46 น.
170616

นางสาวจูอะดี พงศ์มณีรัตน์ หัวหน้าผู้ตรวจราชการ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยภายหลังแถลงข่าวโครงการตรวจสอบเฝ้าระวังสารเคมีกำจัดศัตรูพืชตกค้างในผักและผลไม้ ประจำปี 2561 ณ กระทรวงสาธารณสุข ว่า กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ โดยกรมวิชาการเกษตร และสำนักงานมาตรฐานสินค้าเกษตรและอาหารแห่งชาติ (มกอช.) ร่วมกับกระทรวงสาธารณสุข โดยกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ และสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) ดำเนินโครงการเฝ้าระวังสารพิษตกค้างในผักและผลไม้สด ตามเกณฑ์มาตรฐานของไทย ซึ่งการดำเนินงานในปี 2561 มีการเก็บตัวอย่างผักและผลไม้สดทั้งหมด 41 ชนิดพืช รวม 7,054 ตัวอย่างจากทั่วประเทศ ผ่านมาตรฐาน ร้อยละ 88.8 ไม่ผ่านมาตรฐาน ร้อยละ 11.2 และเมื่อนำปริมาณที่ตรวจพบในผักและผลไม้สดมาประเมินความเสี่ยงของผู้บริโภค พบว่า ร้อยละ 99.86 อยู่ในระดับที่ปลอดภัย

ทั้งนี้ การดำเนินงานของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ในปี 2561 กรมวิชาการเกษตรได้เก็บตัวอย่างจากแปลงที่ได้รับการรับรองมาตรฐานการปฏิบัติทางการเกษตรที่ดี (GAP) จำนวน 2,007 ตัวอย่าง และแปลงที่อยู่ระหว่างการตรวจรับรองมาตรฐานการปฏิบัติที่ดีทางการเกษตร (GAP) จำนวน 2,372 ตัวอย่าง ผลการตรวจพบว่า ตัวอย่างที่เก็บจากแปลงเกษตรกรที่ได้รับการรับรอง GAP ผ่านเกณฑ์มาตรฐาน ร้อยละ 93.7 ส่วนแปลงที่อยู่ระหว่างขอรับการรับรอง GAP ผ่านเกณฑ์มาตรฐานร้อยละ 91 ซึ่งทั้ง 2 แหล่ง มีผลการวิเคราะห์ใกล้เคียงกัน เนื่องจากเกษตรกรส่วนใหญ่ปฏิบัติตามมาตรฐาน GAP โดยจะมีเกณฑ์ที่ควบคุมดูแลการใช้สารเคมีอย่างเข้มงวด

ทั้งนี้ อาจยังมีเกษตรกรรายที่พบการใช้สารเคมีไม่ถูกอยู่บ้าง ซึ่งกรมวิชาการเกษตรจะแจ้งผลการตรวจพบที่เกินมาตรฐานและแจ้งเตือนเกษตรกรให้ปรับปรุง พร้อมเสนอแนวทางแก้ไขปัญหา หากแนวทางแก้ไขปรับปรุงไม่ได้ผลและตรวจพบปัญหาซ้ำ กรมวิชาการเกษตรจะพิจารณาให้พักใช้ใบรับรองแหล่งผลิตพืช และหากเป็นแปลงใหม่ ผลการตรวจประเมินไม่ผ่านตามเกณฑ์ที่กำหนด กรมวิชาการเกษตรจะไม่ออกใบรับรอง GAP ให้เกษตรกรรายนั้น ๆ หรือหากตรวจพบวัตถุอันตรายชนิดที่ 4 ซึ่งเป็นสารเคมีที่ห้ามนำเข้า-ส่งออก หรือ มีไว้ในครอบครอง จะสั่งเพิกถอนใบรับรอง และสารวัตรเกษตรจะเข้าติดตามตรวจสอบร้านค้าจำหน่ายสารเคมีทางการเกษตรในพื้นที่ หากพบการกระทำผิดจะแจ้งเรื่องส่งฟ้องดำเนินคดีต่อไป


751040

นอกจากนี้ มกอช. จะทำหน้าที่กำหนดมาตรฐานสารพิษตกค้างในสินค้าเกษตรและปรับปรุงมาตรฐานให้เป็นปัจจุบันตามข้อมูลการใช้สารเคมีของไทยและตามมาตรฐานสากล รวมทั้งจัดทำฐานข้อมูลเพื่อใช้ประเมินความเสี่ยงต่อผู้บริโภค ในกรณีที่ตรวจพบสารพิษตกค้างเกินมาตรฐาน เพื่อร่วมกับกรมวิชาการเกษตรและกระทรวงสาธารณสุขดำเนินมาตรการแก้ไขปัญหาที่ตรงจุดต่อไป

ด้าน นายแพทย์ธเรค กรัษนัยรวิวงศ์ รองปลัดกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) เปิดเผยว่า กระทรวงสาธารณสุขมีการเก็บตัวอย่างจากโรงคัดบรรจุผักผลไม้ ทั้งหมด 715 ตัวอย่าง ผลการตรวจผ่านเกณฑ์มาตรฐาน ร้อยละ 85.6 และสำหรับการเก็บตัวอย่างในจุดจำหน่ายและจุดบริโภค กระทรวงสาธารณสุข ร่วมกับ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เก็บตัวอย่างจากห้างสรรพสินค้า 1,317 ตัวอย่าง ตลาดค้าส่งและตลาดสด 481 ตัวอย่าง และจากครัวโรงพยาบาล 162 ตัวอย่าง ผลการตรวจพบว่า ตัวอย่างจากห้างสรรพสินค้านั้น สินค้าที่ได้รับการรับรองมาตรฐานผ่านเกณฑ์ 86.4% สินค้าที่ไม่ได้รับการรับรองมาตรฐานผ่านเกณฑ์ 71.8% ตลาดค้าส่งและตลาดสด ผ่านเกณฑ์มาตรฐาน ร้อยละ 64.9 ครัวโรงพยาบาล ผ่านเกณฑ์มาตรฐานร้อยละ 77.8

ทั้งนี้ ในปี 2562 กระทรวงสาธารณสุขจะมีการพัฒนาและยกระดับโรงคัดบรรจุ ให้มีมาตรฐานและระบบตามสอบย้อนกลับให้เป็นไปตามประกาศกระทรวงสาธารณสุข เลขที่ 386 ซึ่งจะเป็นการเสริมความมั่นใจในความปลอดภัยของผู้บริโภคมากขึ้น และในส่วนของตลาดสดจะมีการบูรณาการเพื่อพัฒนาให้ถูกอนามัยและปลอดภัย รวมทั้งโรงพยาบาลอาหารปลอดภัยจะมีมาตรการการจัดทำเมนูล่วงหน้า และมีการประสานกลุ่มบริษัทประชารัฐเพื่อรวบรวมวัตถุดิบ เจ้าหน้าที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ในพื้นที่เพิ่มแหล่งวัตถุดิบที่ได้การรับรองมาตรฐาน


090861-1927-9-335x503-8-335x503

อย่างไรก็ตาม จากข้อมูลการตรวจของกระทรวงสาธรณสุขและกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ พบว่า ผักและผลไม้สดที่ผ่านเกณฑ์มาตรฐาน 100% มีจำนวน 6 ชนิด ได้แก่ มันฝรั่ง หน่อไม้ฝรั่ง มังคุด ผักกาดขาวปลี ถั่วแขก และข้าวโพดหวาน พบสารพิษต่ำมาก โดยผักและผลไม้สดที่พบปริมาณสารพิษตกค้างสูงสุด 6 อันดับแรก ได้แก่ พริก ถั่วฝักยาว คะน้า ส้ม มะเขือ และมะเขือเทศ แต่ทั้งนี้ ยังมีความปลอดภัยในการบริโภค เนื่องจากสารตกค้างนี้จะเกิดอันตรายต่อเมื่อผู้บริโภคบริโภคในปริมาณมากเท่านั้น ผู้บริโภคจึงควรบริโภคอาหารที่หลากหลาย ไม่บริโภคอาหารชนิดใดชนิดหนึ่งซ้ำ ๆ มากเกินไป ส่วนส้ม ซึ่งเป็นพืชที่พบปริมาณสารพิษตกค้างสูงสุด หากปอกเปลือกแล้วจะทำให้ปริมาณสารพิษตกค้างลดลงกว่าร้อยละ 90 หรือ หากจะนำส้มไปคั้นน้ำ ควรล้างเปลือกด้านนอกให้สะอาดก่อน อีกทั้งก่อนการบริโภคผักและผลไม้สด ผู้บริโภคควรล้างผักและผลไม้สดให้สะอาด เพื่อลดการตกค้างสารเคมีกำจัดศัตรูพืชด้วย

ดาวน์โหลดอีบุ๊กแทรกข่าว