การเปิดประเด็นผังพื้นที่ก่อสร้างอาคารผู้โดยสารหลังที่ 2 สนามบินสุวรรณภูมิ ของอดีตผู้ที่เกี่ยวข้องในช่วงสร้างสนามบินยุคแรก อย่าง บริษัทท่าอากาศยานสากลกรุงเทพแห่งใหม่ฯ หรือ บทม. รวมถึงการได้รับข้อมูลของสภาสถาปนิก ที่ระบุว่า
จุดดังกล่าวไม่เป็นไปตามผังแม่บท (Master Plan) เดิม เรื่องนี้ไม่มีใครถูกหรือผิด เพราะข้อมูลที่แต่ละฝ่ายนำเสนอขึ้นมา ต่างก็ยืนตามข้อมูลที่แต่ละฝ่ายมี ซึ่งแม้จะเป็นเรื่องเดียวกัน
แต่ด้วยช่วงเวลาที่ต่างกัน จึงทำให้ประเด็นที่กำลังถกเถียงกันอยู่วันนี้ ดูเหมือนจะยืนอยู่บนข้อมูลกันคนละฉบับก็ว่าได้
อีกฝ่ายก็ยึดข้อมูลมาสเตอร์แพลนที่รีไวส์ในปี 2546 จากแผนแม่บทฉบับแรกในปี 2536 ที่กำหนดแผนพัฒนาสูงสุดเต็มพื้นที่ (อัลติเมต เฟส) จะขยายการรองรับผู้โดยสารได้สูงสุด 120 ล้านคน โดยมีอาคารผู้โดยสาร 2 อาคาร อาคารเทียบเครื่องบิน (แซตเทลไลต์) 2 อาคาร และมี 4 รันเวย์ ขณะที่ แผนพัฒนาที่ ทอท. ยึดอยู่วันนี้ คือ จะมีอาคารผู้โดยสาร 3 อาคาร ส่วนอาคารเทียบเครื่องบินมี 2 อาคาร และมี 4 รันเวย์ ขยายการรองรับผู้โดยสารได้สูงสุด 150 ล้านคน
การรีไวส์แผนแม่บทครั้งล่าสุดของ ทอท. เป็นไปตามข้อเสนอแนะขององค์การการบินพลเรือนระหว่างประเทศ (ICAO) ที่เสนอว่า แผนแม่บทสนามบินควรปรับปรุงทุก ๆ 5 ปี หรือ เมื่อมีเหตุการณ์สำคัญ ซึ่งต้องยอมรับว่า ด้วยสถานการณ์การบินที่เปลี่ยนไปจากในอดีตมาก อาทิ การเกิดขึ้นของเครื่องบินเอ380, เทคโนโลยีอุตสาหกรรมการบินที่เปลี่ยนไป การขยายตัวของผู้โดยสารที่เพิ่มขึ้น
ทำให้ที่ผ่านมา
ทอท. มีรีไวส์แผนแม่บทมาแล้ว 4 ครั้ง ปี 2546 , ปี 2552 , ปี 2554 และปี 2561 บางยุคจะให้สนามบินสุวรรณภูมิเป็นซิงเกิล แอร์พอร์ต บางยุคก็เป็น Dual Airport (ดอนเมืองควบสุวรรณภูมิ)
จนได้เป็นแผนแม่บทที่ปรับปรุงล่าสุด ในปี 2561 ที่อิงข้อเสนอจาก ICAO ที่ ทอท. จ้างมารีไวส์แผนแม่บทในปี 2554 ซึ่งมองว่า ควรจะมีการสร้างอาคารผู้โดยสารเพิ่มมากกว่า 2 หลัง เพื่อให้ทันกับการขยายตัวของผู้โดยสารจริง ๆ
เพราะถ้าทำตามในอดีตทุกอย่าง โดยไม่ได้มีการต่อยอดการพัฒนาเลย ท้ายสุด ... พัฒนาอย่างไรก็ไม่ทันกับดีมานด์ผู้โดยสาร ปัจจุบัน สนามบินมีผู้โดยสาร 60 ล้านคนต่อปี เกินศักยภาพสนามบินที่ตอนนี้รับได้ 45 ล้านคนแล้ว
นายนิตินัย ศิริสมรรถการ กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) หรือ ทอท. กล่าวว่า การพัฒนาที่เกิดขึ้นของ ทอท. ล้วนต่อยอดจากแผนแม่บทที่ทำมาแล้วนานกว่า 2 ทศวรรษครึ่ง สิ่งใดที่กำหนดไว้เดิม ก็มีแผนจะทำทุกอย่างเหมือนเดิม แต่ระยะเวลาในการดำเนินการ ว่าจะหยิบสิ่งใดในแผนแม่บทมาพัฒนาก่อนหรือหลัง จะต้องให้สอดรับกับการโอเปอเรชันของสนามบินในแต่ละช่วงเวลาด้วย อย่างวันนี้ ... เราทำเฟส 2 อยู่ ก็จะควบที่จะลงทุนเฟส 3 เพื่อสร้างอาคารผู้โดยสารหลังที่ 2 ขึ้นมาก่อน ซึ่งอยู่ในโซนที่พัฒนาการเชื่อมโยงการใช้บริการของผู้โดยสารในปัจจุบันได้
ส่วนอาคารผู้โดยสารหลังใหม่ ที่ตามแผนดั้งเดิมระบุว่า เป็นหลังที่ 2 ซึ่งอยู่ด้านทิศใต้ ก็จะกลายเป็นอาคารผู้โดยสารหลังที่ 3 ก็จะอยู่ตรงเฟสสุดท้าย เพราะเป็นพื้นที่ที่อยู่ไกลที่สุด และต้องขยายอาคารผู้โดยสารหลังที่เปิดให้บริการอยู่ให้แล้วเสร็จก่อน โดยจะขยายฝั่งตะวันตกก่อน เพื่อไม่ให้กระทบเคาน์เตอร์เช็กอินของการบินไทย จากนั้นจึงจะสร้างทางฝั่งตะวันออก เพื่อให้กระทบต่อการให้บริการผู้โดยสารน้อยที่สุด
สภาสถาปนิกร้อง 'บิ๊กตู่' ค้าน 'T2' ไม่ตรงผังแม่บท
พล.ร.อ.ฐนิธ กิตติอำพน นายกสภาสถาปนิก เผยว่า ทอท. มีการปรับผังแม่บทการพัฒนาท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ และย้ายตำแหน่งที่ตั้งอาคารผู้โดยสารหลังที่ 2 จากเดิมที่อยู่ทางด้านทิศใต้ มาอยู่บริเวณทิศเหนือปลายอาคารเทียบเครื่องบิน Concourse A นั้น ตำแหน่งดังกล่าวไม่เป็นไปตามผังแม่บท (Master Plan) เดิม ถือเป็นการเปลี่ยนแปลงแนวคิดในการออกแบบ โดยผู้เชี่ยวชาญด้านการวางผังสนามบินที่ออกแบบไว้เมื่อ 25 ปีก่อน ซึ่งถือเป็นยุทธศาสตร์ในการพัฒนาและบริหารจัดการสนามบิน
ที่ตั้งใหม่ของอาคารผู้โดยสารหลังที่ 2 ไม่สอดคล้องกับโครงสร้างพื้นฐานของสนามบินที่มีอยู่เดิม ทำให้มีปัญหาทางเทคนิค เพิ่มต้นทุนในระยะยาว และทำให้ขีดความสามารถในการรองรับผู้โดยสารไม่เป็นไปตามเป้าหมายที่กำหนด
ทอท. ควรขยายอาคารผู้โดยสารเดิม เพื่อเพิ่มพื้นที่ด้านตะวันออกและตะวันตกต่อเนื่อง เพื่อให้เทอร์มินัลปัจจุบันสมบูรณ์ และก่อสร้างอาคารผู้โดยสารหลังที่ 2 ด้านทิศใต้ตามแผนเดิม
สภาสถาปนิกจะรวบรวมข้อมูลข้อเท็จจริงของผังแม่บท และสิ่งที่ ทอท. กำลังจะทำ ยื่นต่อ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ในวันที่ 1 ต.ค. นี้ พร้อมข้อแนะนำการพัฒนาสนามบินสุวรรณภูมิให้เหมาะสมคุ้มค่า เป็นประโยชน์กับประเทศมากที่สุด การเปิดเผยข้อมูลในครั้งนี้ไม่ได้ต้องการล้มการประมูล
นายสมเจตน์ ทิณพงษ์ อดีตกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ท่าอากาศยานสากลกรุงเทพแห่งใหม่ฯ หรือ บทม. กล่าวว่า ผังแม่บทสนามบินสุวรรณภูมิที่ทำมาในอดีต วางตำแหน่งอาคารหลังที่ 1, 2 อาคารเทียบเครื่องบินหลังที่ 1, 2 อาคารผู้โดยสาร รันเวย์ เป็นการออกแบบสนามบินอย่างสมดุลซ้าย-ขวา ทุกอย่างวางล็อกไว้แล้ว รับผู้โดยสารสูงสุดที่ 100 ล้านคนต่อปี และพีกขึ้นไปได้ถึง 120 ล้านคนต่อปี ภายใต้ 4 รันเวย์
ส่วนเทอร์มินัล 2 รองรับ 30 ล้านคนต่อปี ตาม TOR ทอท. ระบุ มี 14 หลุมจอด ที่อยู่ใน (Taxi 5) จึงเป็นไปไม่ได้ที่จะรับ 30 ล้านคนต่อปี ทอท. ควรทำตามผังแม่บทเดิมที่ให้ขยายปีกอาคารผู้โดยสารเดิมด้านตะวันออกและตะวันตก โดยไม่ต้องทุบอาคารเดิม
รายงาน โดย ธนวรรณ วินัยเสถียร
หน้า 22 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ฉบับ 3405 ระหว่างวันที่ 30 กันยายน - 3 ตุลาคม 2561