'ดีป้า' เผย การจัดงาน "ดิจิทัล ไทยแลนด์ บิ๊กแบง 2018" เงินสะพัด 500 ล้าน คนเข้าชม 4.1 แสนคน
ดร.พิเชฐ ดุรงคเวโรจน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอี) เผยถึงความสำเร็จของงาน Digital Thailand Big Bang 2018 ที่เพิ่งผ่านพ้นไป ภายใต้แนวคิด
"THAILAND BIG DATA : โลกเปิด เราปรับ ประเทศเปลี่ยน" จัดโดยกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม โดยสำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัล (depa) ระหว่างวันที่ 19-23 ก.ย. 2561 ณ อาคารชาเลนเจอร์ 1-3 อิมแพ็ค เมืองทองธานี ว่า เป็นการจัดงานมหกรรมดิจิทัลระดับนานาชาติที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ได้รับกระแสตอบรับอย่างดี มีผู้เข้าชมงานเป็นจำนวนมาก ทั้งหน่วยงานภาครัฐ เอกชน สตาร์ตอัพ เอสเอ็มอี ผู้ประกอบการ นักลงทุน นักเรียน นักศึกษา และประชาชนคนไทยและต่างชาติ จนทำให้ตลอด 5 วันของการจัดงาน มีผู้เข้าชมงานล้นหลามกว่า 355,000 คน เมื่อรวมกับยอดผู้เข้าชมงาน Digital Thailand Big Bang Regional 2018 ที่ depa ได้ไปจัดสัญจรใน 4 ภูมิภาคของประเทศในเมืองใหญ่ ได้แก่ จ.ขอนแก่น เชียงใหม่ สงขลา และระยอง ช่วงเดือน ก.ค. – ส.ค. 2561 อีก 61,089 คน ทำให้ยอดผู้เข้าชมงานรวมทั้งสิ้นประมาณ 410,000 คน ซึ่งยังไม่รวมยอดผู้ที่เข้ามาชมงานผ่านการถ่ายทอดสด และรับชมย้อนหลังผ่านทางเฟซบุ๊กไลฟ์ได้อีก คาดว่าจะมียอดเข้าถึงบนโลกออนไลน์กว่า 10 ล้านคน จนถึงสิ้นปี
ด้าน ดร.ณัฐพล นิมมานพัชรินทร์ ผู้อำนวยการ สำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัล (depa) กล่าวย้ำความสำเร็จของงาน ว่า นอกจากเกิดกระแสตื่นตัวเรื่องดิจิทัลไปในวงกว้างทั่วประเทศแล้ว ยังก่อให้เกิดผลกระทบต่อมิติต่าง ๆ ทั้งด้านเศรษฐกิจ สังคม การศึกษา และวัฒนธรรม อาทิ เกิดเม็ดเงินลงทุนระหว่างการจัดงานกว่า 500 ล้านบาท จากผู้ประกอบการที่เข้าร่วมออกบูธกว่า 480 ราย, เกิดการจับคู่ทางธุรกิจระหว่างสตาร์ตอัพและผู้ประกอบการกว่า 100 ราย, เกิดโอกาสทางการศึกษาด้านดิจิทัลให้แก่เยาวชนใน 3 ระบบใหญ่ Coding Education, Software Learning and Hardware Learning ซึ่งบุคลากรเหล่านี้ถือเป็นคนรุ่นใหม่ที่จะกลายเป็นกำลังสำคัญในการพัฒนาประเทศโดยใช้ดิจิทัล, เกิดการเข้าถึงการบริการของประชาชนผ่าน Digital Service ในหลากหลายสาขา เช่น บริการทางการแพทย์ บริการทางการเงิน บริการทางการค้า บริการด้านข้อมูลเพื่อการตัดสินใจ เป็นต้น ตลอดจนเกิดการรับรู้ของนานาชาติต่อบทบาทและทิศทางของประเทศมากกว่า 40 ประเทศ ซึ่งจะส่งผลต่อภาพพจน์ของไทยที่ดีในเวทีโลกต่อไป ยิ่งไปกว่านั้นยังเกิดความร่วมมือระหว่างภาครัฐและเอกชนในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจดิจิทัลในหลายเรื่อง ได้แก่ Digital Startup, Smart City, Digital Manpower, Digital Community, Data Analytics และ Digital Education System