ระดมฑูตพาณิชย์รับมือส่งออกปี 62 หวั่น! สงครามการค้าฉุดยอดขยายตัว
พาณิชย์เตรียมประชุมทูตพาณิชย์ 18 ต.ค. นี้ ระดมทูตพาณิชย์ประเมินตัวเลขส่งออกปี 61 คาดโต 9% ส่วนปี 62 ประเมินโตใกล้เคียงปีนี้ จับตาปัจจัยเสี่ยงสงครามการค้ายังระอุ
นางจันทิรา ยิมเรวัต วิวัฒน์รัตน์ อธิบดีกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ เปิดเผยถึงทิศทางการส่งออกในไตรมาสสุดท้าย ปี 2561 และแนวโน้มการส่งออกปี 2562 ว่า จากการประชุมกับภาคเอกชนส่วนใหญ่แสดงความมั่นใจว่า การส่งออกปี 2561 จะขยายตัวได้ 9% ซึ่งเป็นตัวเลขคาดการณ์ของกระทรวงฯ เนื่องจากการส่งออกช่วง 8 เดือนแรก มีการขยายตัวแล้ว 10% และยังมีคำสั่งซื้อต่อเนื่อง
ส่วนแนวโน้มส่งออกปี 2562 ยังมองว่า น่าจะขยายตัวได้ใกล้เคียงปี 2561 โดยตัวเลขที่ชัดเจนจะมีการประกาศหลังประชุมร่วมกระทรวงพาณิชย์กับทูตพาณิชย์ทั่วโลกและภาคเอกชน ในวันที่ 18 ต.ค. นี้ ซึ่งจะมีการกำหนดเป้าหมายส่งออกปีหน้าและแผนรับมือสถานการณ์การค้าโลก ผลบวกและผลลบจากสงครามการค้าสหรัฐฯ กับจีน และนานาประเทศจะใช้มาตรการที่ไม่ใช่ภาษีออกมาตอบโต้และป้องกันการนำเข้ามากขึ้น
สำหรับปัจจัยหนุนต่อการส่งออกจากนี้ ยังเป็นการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลก ราคาน้ำมันอยู่ในระดับที่มีเสถียรภาพ ความต้องการสินค้าไทยยังมีต่อเนื่อง ประกอบกับแผนกระตุ้นลงทุนของบริษัทต่างชาติ และแนวโน้มการลงทุนต่างชาติเข้าลงทุนในโครงการอีอีซีเพิ่มขึ้น และธุรกิจอี-คอมเมิร์ซ รวมถึงการขยายตัวของธุรกิจใหม่ที่จะเป็นตลาดเฉพาะมากขึ้น เช่น ตลาดผู้สูงอายุ สัตว์เลี้ยง สิ่งแวดล้อม ฮิสแปนิก บริการสุขภาพ ผลิตภัณฑ์อาหาร สปา บริการจัดส่งอาหาร และบันเทิงต่าง ๆ ส่วนปัจจัยเสี่ยงต่อการส่งออก ยังคงเป็นเรื่องผลกระทบจากการออกมาตรการที่ไม่ใช่ภาษีมากขึ้น สงครามการค้าสหรัฐฯ-จีนมีผลต่อการปรับเปลี่ยนการผลิตและการลงทุนทั่วโลก
"ขณะนี้ กำลังรอการพิจารณาของกรมบัญชีกลางที่ได้เสนอของบประมาณเพิ่มเติมในกองทุนส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ เพื่อให้กองทุนฯสามารถขับเคลื่อนในการช่วยเหลือผู้ประกอบการ และขณะนี้ เงินกองทุนอาจไม่เพียงพอ ซึ่งในแต่ละปีจะมีเอกชนเสนอขอใช้เงินสนับสนุนเพื่อส่งออกเกินพันล้านบาท แต่อนุมัติเฉลี่ยปีละ 700 ล้านบาท"
นางจันทิรา ยิมเรวัต วิวัฒน์รัตน์ อธิบดีกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ เปิดเผยถึงทิศทางการส่งออกในไตรมาสสุดท้าย ปี 2561 และแนวโน้มการส่งออกปี 2562 ว่า จากการประชุมกับภาคเอกชนส่วนใหญ่แสดงความมั่นใจว่า การส่งออกปี 2561 จะขยายตัวได้ 9% ซึ่งเป็นตัวเลขคาดการณ์ของกระทรวงฯ เนื่องจากการส่งออกช่วง 8 เดือนแรก มีการขยายตัวแล้ว 10% และยังมีคำสั่งซื้อต่อเนื่อง
ส่วนแนวโน้มส่งออกปี 2562 ยังมองว่า น่าจะขยายตัวได้ใกล้เคียงปี 2561 โดยตัวเลขที่ชัดเจนจะมีการประกาศหลังประชุมร่วมกระทรวงพาณิชย์กับทูตพาณิชย์ทั่วโลกและภาคเอกชน ในวันที่ 18 ต.ค. นี้ ซึ่งจะมีการกำหนดเป้าหมายส่งออกปีหน้าและแผนรับมือสถานการณ์การค้าโลก ผลบวกและผลลบจากสงครามการค้าสหรัฐฯ กับจีน และนานาประเทศจะใช้มาตรการที่ไม่ใช่ภาษีออกมาตอบโต้และป้องกันการนำเข้ามากขึ้น
สำหรับปัจจัยหนุนต่อการส่งออกจากนี้ ยังเป็นการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลก ราคาน้ำมันอยู่ในระดับที่มีเสถียรภาพ ความต้องการสินค้าไทยยังมีต่อเนื่อง ประกอบกับแผนกระตุ้นลงทุนของบริษัทต่างชาติ และแนวโน้มการลงทุนต่างชาติเข้าลงทุนในโครงการอีอีซีเพิ่มขึ้น และธุรกิจอี-คอมเมิร์ซ รวมถึงการขยายตัวของธุรกิจใหม่ที่จะเป็นตลาดเฉพาะมากขึ้น เช่น ตลาดผู้สูงอายุ สัตว์เลี้ยง สิ่งแวดล้อม ฮิสแปนิก บริการสุขภาพ ผลิตภัณฑ์อาหาร สปา บริการจัดส่งอาหาร และบันเทิงต่าง ๆ ส่วนปัจจัยเสี่ยงต่อการส่งออก ยังคงเป็นเรื่องผลกระทบจากการออกมาตรการที่ไม่ใช่ภาษีมากขึ้น สงครามการค้าสหรัฐฯ-จีนมีผลต่อการปรับเปลี่ยนการผลิตและการลงทุนทั่วโลก
"ขณะนี้ กำลังรอการพิจารณาของกรมบัญชีกลางที่ได้เสนอของบประมาณเพิ่มเติมในกองทุนส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ เพื่อให้กองทุนฯสามารถขับเคลื่อนในการช่วยเหลือผู้ประกอบการ และขณะนี้ เงินกองทุนอาจไม่เพียงพอ ซึ่งในแต่ละปีจะมีเอกชนเสนอขอใช้เงินสนับสนุนเพื่อส่งออกเกินพันล้านบาท แต่อนุมัติเฉลี่ยปีละ 700 ล้านบาท"
