ฐานโซไซตี : "สมคิด" ปลุก "บินไทย" พลิกฟื้นองค์กร ผงาดอีกครั้ง

ไม่ว่าจะเป็นแง่ “จิตวิทยา” หรือ  “ขวัญกำลังใจ” งานนี้ถือว่าชนะเลิศ หลังรองนายกฯ “สมคิด จาตุศรีพิทักษ์” ควง 2 รมต.กับอีก 3 ซีอีโอ บิ๊กรัฐวิสาหกิจบุกสำนักงานใหญ่การบินไทย พร้อมให้ 3 พันธมิตรขึ้นเวที โชว์วิสัยทัศน์ ความร่วมมือกับการบินไทยที่จะเกิดขึ้นในไม่นานนี้ ขณะเดียวกันก็ยังเท่ากับเป็นการสยบข่าวแผนซื้อฝูงบินแสนล้านไปในตัว เพราะขีดเส้นตายให้บอร์ดบินไทยไปทำแผนให้เสร็จภายใน 3 เดือนก่อนการเลือกตั้ง ว่าจะซื้อเครื่องบินแบบไหน บินไปไหนซื้อเมื่อไร เอาให้ชัดก่อน

ถือว่าได้ “ใจ” คนการบินไทยไปเต็มๆ เพราะมีการไลฟ์สดผ่านเฟซบุ๊กให้เห็นความตั้งใจของรัฐบาลที่ไม่ได้ทอดทิ้งการบินไทยและหาทางช่วยทุกวิถีทาง งานนี้จึงปลุกให้พนักงาน “ฮึกเหิม” ลุกขึ้นมาผลักดันให้องค์กรเติบโตอย่างยั่งยืน อีกทั้งรองนายกฯยังตอกยํ้าหลายครั้งก็คือ ตัวอย่างการล้มละลายของเจแปนแอร์ไลน์ส และใช้เวลาเพียงไม่ถึง 8 ปี ก็กลับมาสร้างกำไรอย่างงาม เพราะพนักงานรักองค์กร และให้ความร่วมมือเต็มที่ จากเดิมที่โทษโน่นโทษนี่ ซึ่งเท่ากับทั้ง “ขู่” และ “ปลอบ” ไปในตัวและหวังลึกๆ ให้คนบินไทยตระหนักลุกขึ้นมาช่วยกันฟื้นธุรกิจ  และแค่ข้ามคืนวันรุ่งขึ้น (14 ก.ย.)หุ้นบินไทยพุ่งไป 2 บาท สะท้อนถึงความเชื่อมั่นและนักลงทุนเริ่มเห็นอนาคต
จากนี้ไปเป็นหน้าที่ของ 2 บิ๊ก ดีดีใหม่ “สุเมธ  ดำรงชัยธรรม” และ “เอกนิติ  นิติทัณฑ์ประภาศ” ประธานบอร์ด ที่ต้องไปเขย่าแผนจัดซื้อฝูงบินให้ชัดและทำรายได้ในยุคการแข่งขันที่รุนแรง และตามด้วยแผนการเงิน ที่จะกู้หรือหามาจากแหล่งไหนค่อยว่ากันหลังแผนเสร็จ เพราะกว่าจะส่งมอบเครื่องบินก็อีก 24 เดือนนับจากวันออร์เดอร์ และอย่างไรเสีย การบินไทยก็มีความจำเป็นต้อง “ซื้อเครื่องบินใหม่” เพื่อสร้างโอกาสในการแข่งขัน การซื้อล็อตนี้เป็นการซื้อเพื่อ “ทดแทน” เครื่องบินที่จะปลดระวาง และยังมีเครื่องบินเก่าที่จ่อคิวรอปลดระวางใน 5 ปีอีก 28 ลำทุกวันนี้ ปัญหาเรื่องอะไหล่เครื่องยนต์ “โรลส์-รอยซ์” ก็สร้างความปวดหัวให้การบินไทยพอควร และบางช่วงถึงกับต้อง “กราวด์” เครื่องเพราะรออะไหล่

ไม่ซื้อการบินไทยก็จะเป็นสายการบินระดับพรีเมียม ที่ไร้ “อาวุธ” ไปสู้กับคู่แข่งที่ทุนหนา เครื่องบินใหม่แต่ขายตั๋วราคาถูก แต่รัฐบาลก็ยังมีทางออกให้การบินไทย หลัง “รองสมคิด” ดึง 3 พันธมิตรเข้ามาร่วม “พลิกฟื้น” วิกฤติแถมยังมีตัวช่วย “อาคม เติมพิทยาไพสิฐ” ในฐานะกระทรวงคุมนโยบาย   “อภิศักดิ์ ตันติวรวงศ์” ขุนคลังในฐานะผู้ถือหุ้นการบินไทย ที่มารับฟังแผนและร่วมกันการันตี  โดยมีการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย  ที่แต่ละปีโปรโมตนักท่องเที่ยวเข้าประเทศปีละร่วม 40 ล้านคน ท่าอากาศยานไทย มีเที่ยวบินเป็นแสนเที่ยวต่อปี ที่จะเป็นกองหนุนด้านผู้โดยสาร และรายได้เสริมได้เป็นอย่างดี ส่วนแบงก์กรุงไทย ก็จะเป็นถุงเงิน ซึ่งจะเป็นการอาศัยจุดแข็งขององค์กรเหล่านี้เสริม “แกร่ง” ต่อยอดธุรกิจให้การบินไทยและประเทศไทย


กลุยทธ์ที่หลักแหลมอีกเรื่องคือการเปิดเวทีให้ 4 บิ๊กซีอีโอ ททท. ทอท. เคทีบี บินไทย ประชันไอเดียความร่วมมือที่จะเกิดขึ้น และตามด้วย “เวิร์กช็อป” รอบบ่าย ซึ่งผลสรุปจะโปรโมตการท่องเที่ยวเมืองรองและทำบิ๊กดาต้าร่วมกัน เป็นสัญญาณดี แสดงถึงความเป็น “หนึ่งเดียว”เพื่อความอยู่รอด ไม่ต่างจากการช่วย “ทีมหมูป่าฯ” และถือเป็นสเต็ปแรกที่ปลุกหน่วยงานรัฐวิสาหกิจด้วยกัน หันมาสนับสนุนซึ่งกันและกันนำร่องจาก 4 องค์กรนี้ ก่อนที่หน่วยงานอื่นจะเข้ามาแจมเพิ่ม จึงเป็นมิติใหม่ที่จะเกิดขึ้น โอกาสดีๆ แบบนี้ไม่ได้เกิดขึ้นบ่อยนัก  ที่เหลือจึงเป็นหน้าที่ของดีดีใหม่-ประธานใหญ่ที่ต้องไป “ขันนอต” ทุกองคาพยพในบินไทยให้“ตื่น” ขึ้นมาช่วยกันพลิกฟื้นองค์กรให้กลับมาผงาดอีกครั้ง อย่าปล่อยให้โอกาสทองสูญเปล่า สู้ๆๆๆ
ใกล้คนไทยจะได้นั่งรถไฟความเร็วสูง เชื่อม 3 สนามบิน อู่ตะเภา สุวรรณภูมิ ดอนเมือง มาร์เก็ตซาวด์ ครั้งที่ 2  นักลงทุนมากันคึกคักพร้อมกับคำถามที่รวบรวมมาได้กว่า 626 ข้อ แต่ก็ซํ้ากันไปมา จึงต้องมาจัดกรุ๊ปปิ้ง ส่วนใหญ่เป็นเรื่องร่างสัญญา การเงินการลงทุน การก่อสร้าง การเดินรถ การเวนคืนที่ดิน ด้านเทคนิค ความเร็วรถ รายละเอียดปลีกย่อยทีโออาร์ที่ยังไม่เคลียร์ ซึ่งเป็นหน้าที่ของทีมที่ปรึกษาที่ต้องชี้แจง แต่อย่างไรเสีย “วรวุฒิ มาลา” แอกติ้งผู้ว่าการ ร.ฟ.ท. ยืนยันชัดว่า เดือนมกราคมนี้ จะได้ตัวผู้สัมปทาน ตามไทม์ไลน์ที่ต้องยื่นประมูลวันที่ 12พฤศจิกายนนี้ และคงรู้กันวันนั้นว่ามีใครบ้างแต่ที่น่าห่วงคือเรื่องเอกสาร งานราชการเอกสารเป็นเรื่องสำคัญและแยะมาก แถมมีรายละเอียดค่อนข้างมาก หากเสนอกันมาหลายกลุ่มก็คงหน้ามืดในการตรวจสอบ เช่น การสะกดชื่อบริษัทต้องถูกต้อง เอกสารสำเนาหรือต้นฉบับ การันตีอีก 5 ปี รถไฟขบวนนี้จะเปิดหวูด ในปี 2567

ปรับโหมดมาข่าวพีอาร์  “ฉัททันต์ กุญชร ณ อยุธยา” รองผู้ว่าททท. เป็นประธานเปิดงาน “New Era of Local Tourism in Thailand” และเปิดตัวแคมเปญ Local Table  พร้อมเสวนาในหัวข้อต่างๆ ที่น่าสนใจในยุค “Digital Platform” วันที่ 26 กันยายน เวลา 13.00 น.โรงแรมพูลแมนคิง เพาเวอร์ (รางนํ้า) ผู้สนใจเข้าฟังได้ฟรี

กรุงไทยขนทรัพย์สินพร้อมขาย NPA กว่า 1,300 รายการ มูลค่า 6 พันล้านบาท ลดสูงสุด 30% ร่วมงานมหกรรมบ้านและคอนโดฯ ครั้งที่ 39 วันที่  4 - 7 ตุลาคม ศูนย์ฯสิริกิติ์ โดยสามารถเรียกดูข้อมูลผ่านมือถือ KTB NPA Application หรือทางเว็บไซต์ www.ktb.co.th/npa  หรือโทร. 0-2208-8333

|คอลัมน์ : ฐานโซไซตี
|โดย : พริกกะเหรี่ยง
|หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจฉบับ 3404 หน้า 4 ระหว่างวันที่ 27-29 ก.ย.2561