วิเคราะห์สถานการณ์ราคาทองคำประจำวัน(26 ก.ย.61)

บทวิเคราะห์สถานการณ์ราคาทองคำแท่ง ประจำวันที่ 26 กันยายน 2561 โดยบริษัท วายแอลจี บูลเลี่ยน อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด

คำแนะนำ

ยังแนะนำให้ขายลดพอร์ตลงทุนหากราคาขยับขึ้นไม่ผ่าน 1,207 ดอลลาร์ต่อออนซ์ สำหรับการเข้าซื้ออาจรอเข้าซื้อตามแนวรับโซน 1,191-1,187 ดอลลาร์ต่อออนซ์ (พร้อมตัดขาดทุนหากหลุด1,175 ดอลลาร์ต่อออนซ์) และควรคำนึงถึงความผันผวนของราคาจากผลการประชุมเฟด

หากราคาทองคำยังไม่สามารถยืนเหนือ 1,207 ดอลลาร์ต่อออนซ์ได้ ส่งผลให้แรงซื้อยังคงถูกจำกัด สำหรับวันนี้ประเมินแนวต้านระยะสั้นในโซน 1,207 ดอลลาร์ต่อออนซ์ และ โซน 1,214  ดอลลาร์ต่อออนซ์เป็นแนวต้านสำคัญ ขณะที่แนวรับนั้นยังประเมินในโซน 1,191 ดอลลาร์ต่อออนซ์ และแนวรับถัดไปที่ 1,187 ดอลลาร์ต่อออนซ์

แนวรับ                1,191        1,187        1,175

แนวต้าน              1,207        1,214        1,228

สรุป ราคาทองคำวานนี้ปรับตัวเพิ่มขึ้น 2.00 ดอลลาร์ต่อออนซ์  โดยได้รับแรงหนุนจากการอ่อนค่าของดอลลาร์  ขณะที่สินทรัพย์ในตลาดเงินและตลาดทุนส่วนใหญ่แกว่งตัวแคบ  เนื่องจากนักลงทุนระมัดระวังการซื้อขายก่อนที่การประชุมธนาคารกลางสหรัฐ(เฟด)จะเสร็จสิ้นลงในเวลา 01.00 น. ของคืนวันนี้  ท่ามกลางการคาดการณ์ในวงกว้างว่า  เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีก 0.25% ในการประชุมครั้งนี้  อย่างไรก็ดีสิ่งที่ตลาดกำลังรอจับตา ได้แก่ สัญญาณที่บ่งชี้การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในระยะถัดๆไปจากแถลงการณ์ของนายเจอโรม  พาวเวลล์ประธานเฟด, รายงานคาดการณ์เศรษฐกิจ(Economic Projections) และ คาดการณ์อัตราดอกเบี้ยของเจ้าหน้าที่เฟด(Dot Plot) ทั้งนี้  การคาดการณ์เดิมในเดือนมิ.ย. เฟดคาดว่าจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยรวม 4 ครั้งในปีนี้  และคาดว่าจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีก 3 ครั้งในปี 2019  จึงแนะนำนักลงทุนจับตาผลการประชุมเฟดอย่างใกล้ชิด  หากเฟดออกแถลงการณ์ที่บ่งชี้ถึงการเดินหน้าปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยต่อไปในปีนี้และปีหน้าและแสดงความเชื่อมั่นต่อเศรษฐกิจสหรัฐอาจช่วยหนุนดอลลาร์และกดดันราคาทองคำได้  ในทางกลับกันหากเฟดส่งสัญญาณที่ตลาดตีความว่าเป็นไปในเชิงพิราบ(Dovish tone)หรือแสดงความวิตกเกี่ยวกับผลกระทบจากสงครามการค้าปัจจัยดังกล่าวอาจกดดันดอลลาร์และหนุนให้ราคาทองคำฟื้นตัวขึ้นได้เช่นกัน

ที่มา :  บริษัท วายแอลจี บูลเลี่ยน อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด