วีแคนฟิกซ์เปิดตัวเว็บ'ซ่อมได้.com'ศูนย์กลางข้อมูลซ่อมสีฯแห่งแรกในไทย

25 ก.ย. 2561 | 12:33 น.
“วีแคนฟิกซ์” เปิดตัวเว็บไซต์ ซ่อมได้.com ศูนย์กลางข้อมูลและจัดอันดับศูนย์ซ่อมสีและตัวถังรถยนต์แห่งแรกในประเทศไทย

นายสุรภูมิ ก้าวสัมพันธ์ ผู้ก่อตั้ง บริษัท วีแคนฟิกซ์ จำกัด เปิดเผยถึง แนวคิดและแรงบันดาลใจในการจัดทำเว็บไซต์ซ่อมได้.com นั้นมาจากประสบการณ์ตรงจากการเป็นผู้ใช้รถ เมื่อรถประสบอุบัติเหตุและต้องเจอกับปัญหาต่างๆ อาทิ ต้องหาอู่ซ่อมแต่ไม่รู้จะหาข้อมูลจากไหน หรือควรเอาเข้าอู่ไหนดี รูปแบบการบริการเป็นอย่างไร มีอู่ที่ใกล้บ้านที่ไหน การเดินทางจะสะดวกไหม หรืออยู่ในประกันคู่สัญญาของรถเราหรือไม่ เนื่องจากในระบบที่มีอยู่นั้นมีข้อมูลน้อย จะมีแค่ชื่ออู่และเบอร์ติดต่อเท่านั้น หรืออาจจะมีการปักหมุด แต่เราก็ยังไม่เห็นหน้าตาของอู่นั้น ๆ ได้ รวมถึงไม่มีระบบประเมินคะแนนความพร้อมของตัวอู่ เพื่อที่จะได้นำมาเปรียบเทียบประกอบการตัดสินใจเข้าใช้บริการ ซึ่งเมื่อเปรียบเทียบกับการหาโรงแรม หรือร้านอาหาร ออนไลน์ สามารถเข้าเว็บไซต์หาข้อมูลได้ทันที ซึ่งจากปัญหาต่างๆ เหล่านี้ ทำให้เกิดเป็นแรงบันดาลใจ ในการทำเว็บไซต์ดังกล่าวขึ้นมา

vf2

จุดเด่นเมนูหลักของเว็บไซต์ ซ่อมได้.com ก็คือ การค้นหาอู่ โดยการใช้ตัวกรองต่าง ๆ เพื่อให้ตรงกับสิ่งที่ลูกค้าต้องการมากที่สุด อาทิ อู่ใกล้ตัว การค้นหาจะเริ่มทำงานจากตำแหน่งในมือถือ เริ่มจากระยะทางที่ใกล้ที่สุดไปเรื่อย ๆ, อู่ยอดนิยม เรียงจากคะแนนความพร้อมที่มากที่สุดไปน้อยที่สุด, อู่ตามบริษัทประกัน ให้ลูกค้าระบุชื่อบริษัทประกันที่ต้องการ ข้อมูลอู่จะแสดงตามคะแนนจากมากไปน้อย และ อู่รับรถ 24 ชั่วโมง แสดงผลอู่ที่สามารถรับรถได้ 24 ชั่วโมง

โดยการค้นหาข้อมูลเหล่านี้ สามารถใช้ตัวกรองเพื่อเพิ่มวิธีการค้นหา เพื่อให้ผลการค้นหาแคบลงได้มากที่สุด เช่น อู่ใกล้ตัว ที่มีคะแนนความพร้อมมากกว่า 3 คะแนน หรือค้นหาอู่ตามบริษัทประกัน ในพื้นที่จังหวัด เป็นต้น

สำหรับจุดเด่นของตัวเว็บไซต์ จะเน้นเรื่องของการประเมินความพร้อมของสถานประกอบการด้วย แบบฟอร์มการประเมินคะแนนมาตรฐาน ที่ร่วมกันทำงานกับบริษัทประกัน, อู่ และสมาคมการซ่อมรถแห่งประเทศไทย เพื่อให้ได้มาซึ่งคะแนนที่มีมาตรฐานเดียวกัน รวมถึงฟังก์ชั่นการจองคิวซ่อม และการติดตามงานซ่อมรายวัน ลูกค้าก็จะเห็นความคืบหน้าในการซ่อมของรถตัวเอง ทางอู่ก็จะต้องจัดคิวงานซ่อมเพื่อให้งานเสร็จตามวันที่นัดหมายไว้กับลูกค้า และทางบริษัทประกันก็จะมีส่วนในการประเมินความพร้อมในการบริการของอู่นั้น ๆ ซึ่งทั้งหมดนี้ก็เพื่อพัฒนาการมาตรฐานและบริการของอู่ ให้ตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้รวดเร็ว แม่นยำมากขึ้น ยิ่งไปกว่านั้นยังมีในส่วนของฟังก์ชั่นการใช้งานนอกเหนือจากการค้นหาข้อมูลอู่นั่นคือ จองคิวซ่อมออนไลน์ และการติดตามงานซ่อมออนไลน์

vf1

สำหรับอู่ที่พร้อมร่วมโครงการ โดยใช้ระบบอีเมล์เป็นสื่อในการติดต่อ ซึ่งลูกค้าสามารถคลิ๊กไอค่อนจองคิวซ่อมได้ที่หน้ารายละเอียดอู่ และใส่ข้อมูลเกี่ยวกับวันที่ต้องการนำรถเข้าซ่อม รายละเอียดกรมธรรม์พร้อมแนบรูปกรมธรรม์ แผลที่ต้องการซ่อมพร้อมแนบรูป ตัวเว็บไซต์ก็จะส่งอีเมล์ไปที่อู่ บริษัทประกัน และทางแอดมินเว็บไซต์ หลังจากนั้นรอให้ทางอู่ตอบกลับไปยังลูกค้า

ส่วนการติดตามงานซ่อมรายวัน ก็ต้องอาศัยความร่วมมือของทางอู่ ในการถ่ายรูปการทำงานทุกวัน ซึ่งเว็บไซต์ก็จะส่งอีเมล์ให้ลูกค้า บริษัทประกัน และแอดมินทุกวัน จนกว่าจะซ่อมเสร็จ โดยภายหลังการรับรถ ทางลูกค้าก็จะได้รับอีเมล์สอบถามความพึงพอใจในการเข้าใช้บริการของอู่นั้น ๆ ซึ่งก็จะแปรผลกลับมาเป็นคะแนนรีวิวต่อไป

ด้านนายพรนิรันดร์ เลิศธีรพงศ์ ผู้ร่วมก่อตั้ง บริษัท วีแคนฟิกซ์ จำกัด กล่าวว่า บริษัทฯ ได้ทุ่มงบประมาณลงทุนในการจัดทำเว็บไซต์ในครั้งนี้กว่า 10 ล้านบาท เพื่อพัฒนาเว็บไซต์ ออกตรวจประเมินอู่ทั่วประเทศ และยังไม่หยุดยั้งที่จะพัฒนาเว็บไซต์ โดยหาฟังก์ชั่นอื่น ๆ มาเสริมต่อไป เพื่ออำนวยความสะดวกให้กับผู้ใช้รถ และเว็บไซต์ ซ่อมได้.com ให้มีประสิทธิภาพและเกิดประโยชน์มากสูงสุด โดยเน้นการประชาสัมพันธ์ในโลกออนไลน์ ทั้งทางเฟซบุ๊ค ยูทูป รวมถึงการทำรายการแนะนำสถานประกอบการ คือ อู่ดี 4.0 โดยซ่อมได้.com ในรายการ Superfast Smart Moving ออกอากาศทุกคืนวันศุกร์ ทาง ททบ. 5 เวลา 12.30 น. เป็นต้นไป รวมถึงการเพิ่มช่องทางการประชาสัมพันธ์ทางดิจิตอลให้เข้าถึงกลุ่มผู้ใช้รถมากยิ่งขึ้น

090861-1927-9-335x503-8-335x503

นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังได้วางแผนการลงทุน ในอนาคตอันใกล้นี้ ในเรื่องการเสริมฟังก์ชั่นระบบการให้บริการที่ครอบคลุมมากขึ้น อาทิ ข้อมูลรถยก รถลาก และการตั้งเคลมออนไลน์ เพื่อลดขั้นตอนการทำงาน นำส่งข้อมูล ระหว่างบริษัทประกันกับอู่ให้มีมากขึ้น แต่รวดเร็วมากขึ้น ซึ่งจะเป็นช่องทางการตอบสนองการให้บริการลูกค้าได้รวดเร็วมากขึ้นได้เช่นกัน

ในส่วนของมุมมองตลาดรถยนต์ จากข้อมูลของสถาบันยานยนต์ ในปี 2561 ตลาดรถยนต์มีแนวโน้มเติบโตต่อเนื่องโดยเฉพาะในหมวดรถยนต์นั่ง ซึ่งจะมีการเปิดตัวใหม่ออกมาอีกหลายรุ่น และกำลังซื้อของผู้บริโภคไม่ได้รับผลกระทบนัก ซึ่งศูนย์วิจัยกสิกรไทยคาดว่าตลาดรถยนต์รวมปี 2561 น่าจะสามารถทำตัวเลขยอดขายได้กว่า 880,000 ถึง 900,000 คัน หรือ คาดว่าจะขยายตัวร้อยละ 2 ถึง 5 เมื่อเทียบกับปี 2560 ดังนั้นการพัฒนาและเตรียมความพร้อมทางด้านการบริการหลังการขายด้านการซ่อมสีและตัวถังรถยนต์ก็จะเป็นส่วนสำคัญ ในการสนับสนุนตลาดรถยนต์ให้เติบโตต่อไป “คุณพรนิรันดร์ กล่าวทิ้งท้าย

595959859