แนะจับตาแรงขายทำกำไร "ทองคำ"

25 ก.ย. 2561 | 11:09 น.
สภาวะตลาดทองคำ วันที่ 25 ก.ย. 2561 ราคาแกว่งตัวในกรอบ 1,196.80-1,200.80 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ขณะที่ ราคาทองคำแท่ง 96.5% ภายในประเทศ ขายออกอยู่ที่ 18,500 บาทต่อบาททองคำ โดยราคาปรับตัวเพิ่มขึ้น 50 บาท จากวันก่อนหน้าที่ระดับ 18,450 บาทต่อบาททองคำ ขณะที่ โกลด์ฟิวเจอร์ส GFV18 อยู่ที่ 18,510 บาท โดยราคาปรับตัวเพิ่มขึ้น 10 บาท จากวันก่อนหน้าที่ระดับ 18,500 บาท

กระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า อินเดียอาจจะเพิ่มภาษีการนำเข้าต่อหินมีค่า , เหล็กกล้า และสินค้าอิเล็กทรอนิกส์บางประเภท แต่จะยกเว้น "ทองคำ" เพื่อป้องกันการลักลอบนำเข้า ความกังวลต่อมาตรการการกีดกันการนำเข้าทองคำลดลง จนลดแรงขายทองคำ หลังจากค่าเงินรูปีอ่อนค่าลงและมีความเปราะบางต่อปัจจัยภายนอก ท่ามกลางแรงกดดันจากการเทขายสกุลเงินในตลาดเกิดใหม่ อันเนื่องมาจากสัญญาณการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของสหรัฐฯ ให้เข้าสู่ภาวะปกติ ประกอบกับความตึงเครียดทางการค้า อย่างไรก็ตาม รัฐบาลอินเดียยังพยายามควบคุมการนำเข้าสินค้า "ที่ไม่จำเป็น" เพื่อพยุงรูปี

ขณะที่ ราคาทองคำยังคงเคลื่อนไหวในกรอบ เนื่องจากนักลงทุนรอรายละเอียดจากการประชุมธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ประจำเดือน ก.ย. ที่จะเสร็จสิ้นในคืนวันพุธ ซึ่งคาดว่า เฟดจะขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมครั้งนี้ และจะแสดงความชัดเจนเกี่ยวกับแนวทางการขึ้นอัตราดอกเบี้ยในอนาคต อย่างไรก็ตาม คาดว่าเฟดอาจจะจำเป็นต้องขึ้นอัตราดอกเบี้ยต่อไปอย่างค่อยเป็นค่อยไป ตามที่เฟดได้ส่งสัญญาณไว้ มุมมองดังกล่าวหนุนดัชนีดอลลาร์ให้ปรับขึ้นเมื่อเทียบกับตะกร้าสกุลเงินสำคัญ 6 สกุล

ขณะที่ ข้อมูลของคณะกรรมาธิการการค้าสัญญาล่วงหน้าสินค้าโภคภัณฑ์ (CFTC) ระบุว่า นักลงทุนยังคงมีทัศนะบวกต่อดอลลาร์ โดยการเข้าซื้อสุทธิสำหรับดอลลาร์ได้เพิ่มขึ้นสู่เกือบ 2.5 หมื่นล้านดอลลาร์ และนักลงทุนเปิดสถานะขายเพิ่มในสัญญาล่วงหน้าทองคำในตลาด COMEX โดยนักลงทุนยังรอจับตา นายเจอโรม พาวเวลล์ ประธานเฟด ว่าจะมีการส่งสัญญาณเกี่ยวกับทิศทางอัตราดอกเบี้ยที่ผิดแปลกไปจากช่วงก่อนหน้าหรือไม่ เบื้องต้น นักลงทุนประเมินว่า เฟดน่าจะคงการดำเนินนโยบายการเงินแบบเดิมเหมือนที่เคยส่งสัญญาณไว้ อาจเป็นปัจจัยที่ส่งผลลบต่อราคาทองคำแต่ไม่มาก

ทั้งนี้ ราคาทองคำมีการปรับตัวขึ้นและลง โดยมีลักษณะการแกว่งตัวในกรอบออกด้านข้าง แนะนำจับตาแรงขายทำกำไรที่สลับออกมา เพราะหากไม่สามารถผ่านแนวต้าน 1,207-1,214 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ประเมินว่าจะเกิดแรงขายกดดันราคาให้เข้าใกล้ 1,191-1,187 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ซึ่งหากสามารถยืนเหนือแนวรับได้ แนะนำเข้าซื้อเก็งกำไรระยะสั้นจาการดีดตัวเช่นเดิม

สำหรับกลยุทธ์การลงทุน ทางวายแอลจีมีมุมมองว่า ราคาทองคำเคลื่อนไหวในลักษณะของการแกว่งตัวเพื่อสร้างฐานราคา โดยให้เน้นไปที่การเข้าลงทุนระยะสั้น ทั้งนี้ สามารถเข้าซื้อบริเวณแนวรับที่ 1,191 ดอลลาร์ต่อออนซ์ โดยมีแนวรับถัดไปอยู่ที่ 1,187 ดอลลาร์ต่อออนซ์ และเมื่อราคามีการปรับตัวสูงขึ้นทดสอบแนวต้านที่ 1,207 ดอลลาร์ต่อออนซ์ นักลงทุนที่สะสมทองคำไว้อาจขายทำกำไรบางส่วนออกมาบ้าง เพื่อลดความเสี่ยง แต่หากราคายืนเหนือแนวต้านได้มั่นคง สำหรับนักลงทุนที่รับความเสี่ยงสูงได้ แนะนำให้ถือต่อเพื่อทำกำไรที่แนวต้านถัดไปบริเวณ 1,214 ดอลลาร์ต่อออนซ์ และควรตั้งจุดตัดขาดทุนหากราคาไม่เป็นไปตามคาดการณ์


ดาวน์โหลดอีบุ๊กแทรกข่าว