บูมสตาร์ทอัพปลดล็อคจัดจ้างภาครัฐ
ตามที่จะมีการจัดงาน “สตาร์ทอัพกับการจัดซื้อจัดจ้างภาครัฐ : ปลดล็อคสู่ประเทศไทย 4.0 Government Procurement Transformation” วันที่ 28-29 กันยายนนี้ ที่อิมแพ็ค เมืองทองธานี นายสุวิทย์ เมษินทรีย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี นำคณะผู้บริหารจากสำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติ (องค์การมหาชน) เข้ารายงานพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีที่ทำเนียบรัฐบาล ว่า จัดงานนี้เพื่อเบิกทางสตาร์ทอัพสู่เส้นทางจัดซื้อจัดจ้างภาครัฐ สร้างมิติใหม่ที่จะเพิ่มประสิทธิภาพทางนวัตกรรมของอุตสาหกรรมเทคโนโลยีภาครัฐ พร้อมมุ่งพัฒนาการให้บริการประชาชนในทุกด้าน โดยจะพบกับกว่า 100 ธุรกิจสตาร์ทอัพ ใน 7 โซลูชั่นที่พร้อมให้บริการแก่ภาครัฐและเอกชน
โดยวันนี้นำสตาร์ทอัพ 5 ราย มาเสนอนวัตกรรมที่ประสบความสำเร็จทางธุรกิจ และมีผลงานเป็นคู่ค้ากับภาครัฐ และพร้อมเพิ่มประสิทธิภาพการให้บริการประชาชนของภาครัฐ ได้แก่ 1) Defence Innovation นวัตกรรมแพลตฟอร์มระบบเฝ้าระวังและติดตามสถานการณ์ (Situation Awareness System) ที่สามารถเชื่อมโยงอุปกรณ์ได้จากหลายประเภท เช่น กล้อง CCTV, กล้องติดยานพาหนะ, กล้องบุคคล, อากาศยานไร้คนขับ (Drone) ให้ผู้ใช้ระบบหรือผู้ควบคุมสถานการณ์สามารถมองเห็นและวิเคราะห์ระบบได้จากทุกมุมมองและทุกอุปกรณ์ไว้ในระบบเดียว
2) Ooca นวัตกรรมแพลตฟอร์มสื่อกลางระหว่างจิตแพทย์ นักจิตวิทยา และคนไข้ โดยรับปรึกษาจิตแพทย์ออนไลน์ ที่ช่วยให้สามารถพูดคุยปัญหากับจิตแพทย์และนักจิตวิทยาได้ผ่าน video call โดยเข้าใช้งานได้อย่างเป็นส่วนตัวและปลอดภัย ทุกที่ ทุกเวลา ผ่านคอมพิวเตอร์หรือโทรศัพท์มือถือ 3) QueQ นวัตกรรมแอพพลิเคชั่นจองคิวร้านอาหารและศูนย์บริการครบวงจร ธุรกิจได้รับผลตอบรับเป็นอย่างดี โดยมียอดดาวน์โหลดครบ 1 ล้านคนแล้ว และมีผู้ใช้งานกว่า 1 แสน 5 หมื่นคนต่อเดือน และขยายขอบเขตการบริการไปทั่วประเทศทั้งร้านอาหาร ธนาคาร งานอีเว้นท์ ผลงานล่าสุดคือ QueQ Hospital Solution หรือระบบแจ้งเตือนคิวผ่าน Smartphone สำหรับโรงพยาบาล
4) Local Alike นวัตกรรมโมเดลธุรกิจเพื่อการท่องเที่ยวยั่งยืน โดยร่วมพัฒนาการท่องเที่ยวกับชุมชน 70 แห่งทั่วประเทศ สร้างรายได้กลับคืนสู่ท้องถิ่นกว่า 20 ล้านบาท ล่าสุดชนะการประกวดในโครงการกระตุ้นการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน หรือ Booking.com Booster 2017 จากผู้ร่วมแข่งขัน 700 ทีม จาก 102 ประเทศทั่วโลก คว้าเงินรางวัลกว่า 11 ล้านบาท และ 5) ZipEvent นวัตกรรมแพลตฟอร์มที่ช่วยจัดระเบียบงานอีเว้นท์ที่ประสบความสำเร็จอันดับต้นๆ ด้วยผลงานที่โดดเด่นและการเติบโตของธุรกิจอย่างต่อเนื่อง มุ่งสนับสนุนในสายธุรกิจ MICE โดยเป็นแพลตฟอร์มช่วยให้ผู้จัดงานอีเว้นท์ทั้งภาครัฐและเอกชน สามารถจัดระบบบริหารงานผ่านแอพพลิเคชั่นได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ส่วนภายในงานสตาร์ทอัพแฟร์ Government Procurement Transformation “ปลดล็อคข้อจำกัด พัฒนาสตาร์ทอัพ สู่ตลาดภาครัฐ” จะมีโซลูชั่น (Solution) ของสตาร์ทอัพที่พร้อมให้บริการสำหรับภาครัฐ ประมาณ 100 สตาร์ทอัพ ใน 7 ประเด็น ได้แก่ 1) การพัฒนากำลังคนภาครัฐและการสื่อสารนโยบายสาธารณะ 2) การพัฒนาการท่องเที่ยวและส่งเสริมวัฒนธรรมและพื้นที่เรียนรู้ 3) การบริการสาธารณูปโภค 4) การอำนวยความสะดวกทางธุรกิจ 5) รัฐบาลดิจิตอล 6) ความมั่นคงและการป้องกันประเทศ และ 7) การพัฒนาตลาดในประเทศ พร้อมการให้บริการจับคู่ธุรกิจระหว่างภาครัฐกับสตาร์ทอัพ รวมทั้งนิทรรศการด้านกระบวนการจัดซื้อจัดจ้างของภาครัฐพร้อมการสนับสนุนจากภาครัฐแก่สตาร์ทอัพ การจัดงานนี้จะมีส่วนสำคัญในการพัฒนาอุตสาหกรรมเทคโนโลยีภาครัฐเพื่อพัฒนาการบริการประชาชนที่ดีขึ้น อันจะนำไปสู่การยกระดับขีดความสามารถทางนวัตกรรมของผู้คนในประเทศ ประกอบด้วย การศึกษา ความมั่นคง การปกครองท้องถิ่น การคลัง และการสาธารณสุข ส่งผลต่อภาพรวมต่อเศรษฐกิจและองค์ความรู้ของประเทศอย่างเป็นรูปธรรม
สำหรับขั้นตอนปลดล็อคข้อจำกัดการจัดซื้อจัดจ้างของตลาดภาครัฐสำหรับสตาร์ทอัพนั้น กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ได้เปิดรับสมัครสตาร์ทอัพและหน่วยงานภาครัฐที่มีความประสงค์ใช้บริการโซลูชั่นของสตาร์ทอัพ โดยจะมีการลงนามความร่วมมือกันภายในงาน Government Procurement Transformation ในครั้งนี้ รวมทั้งพร้อมเริ่มต้นโดยสำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติ (องค์การมหาชน) จะสนับสนุนงบประมาณเพื่อให้สตาร์ทอัพได้ทดสอบตลาด และการใช้งานระบบกับภาครัฐที่เข้าร่วมโครงการ และติดตามประเมินผลการทำงานร่วมกัน นอกจากนี้ยังได้แต่งตั้งคณะกรรมการจัดทำบัญชีจัดซื้อจัดจ้างภาครัฐและปรับปรุงเกณฑ์อ้างอิง (Term of Reference) พิเศษ เพื่อให้ภาครัฐสามารถดำเนินการจัดซื้อจัดจ้างสตาร์ทอัพตาม TOR ที่คณะกรรมการฯ กำหนดได้ ซึ่งกระบวนการทั้งหมดอยู่ในระหว่างการดำเนินงาน
ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรีชื่นชมการจัดงานครั้งนี้ของกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ซึ่งจะเป็นการยกระดับนวัตกรรมของประเทศให้ทัดทียมนานาชาติต่อไป
โดยวันนี้นำสตาร์ทอัพ 5 ราย มาเสนอนวัตกรรมที่ประสบความสำเร็จทางธุรกิจ และมีผลงานเป็นคู่ค้ากับภาครัฐ และพร้อมเพิ่มประสิทธิภาพการให้บริการประชาชนของภาครัฐ ได้แก่ 1) Defence Innovation นวัตกรรมแพลตฟอร์มระบบเฝ้าระวังและติดตามสถานการณ์ (Situation Awareness System) ที่สามารถเชื่อมโยงอุปกรณ์ได้จากหลายประเภท เช่น กล้อง CCTV, กล้องติดยานพาหนะ, กล้องบุคคล, อากาศยานไร้คนขับ (Drone) ให้ผู้ใช้ระบบหรือผู้ควบคุมสถานการณ์สามารถมองเห็นและวิเคราะห์ระบบได้จากทุกมุมมองและทุกอุปกรณ์ไว้ในระบบเดียว
2) Ooca นวัตกรรมแพลตฟอร์มสื่อกลางระหว่างจิตแพทย์ นักจิตวิทยา และคนไข้ โดยรับปรึกษาจิตแพทย์ออนไลน์ ที่ช่วยให้สามารถพูดคุยปัญหากับจิตแพทย์และนักจิตวิทยาได้ผ่าน video call โดยเข้าใช้งานได้อย่างเป็นส่วนตัวและปลอดภัย ทุกที่ ทุกเวลา ผ่านคอมพิวเตอร์หรือโทรศัพท์มือถือ 3) QueQ นวัตกรรมแอพพลิเคชั่นจองคิวร้านอาหารและศูนย์บริการครบวงจร ธุรกิจได้รับผลตอบรับเป็นอย่างดี โดยมียอดดาวน์โหลดครบ 1 ล้านคนแล้ว และมีผู้ใช้งานกว่า 1 แสน 5 หมื่นคนต่อเดือน และขยายขอบเขตการบริการไปทั่วประเทศทั้งร้านอาหาร ธนาคาร งานอีเว้นท์ ผลงานล่าสุดคือ QueQ Hospital Solution หรือระบบแจ้งเตือนคิวผ่าน Smartphone สำหรับโรงพยาบาล
4) Local Alike นวัตกรรมโมเดลธุรกิจเพื่อการท่องเที่ยวยั่งยืน โดยร่วมพัฒนาการท่องเที่ยวกับชุมชน 70 แห่งทั่วประเทศ สร้างรายได้กลับคืนสู่ท้องถิ่นกว่า 20 ล้านบาท ล่าสุดชนะการประกวดในโครงการกระตุ้นการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน หรือ Booking.com Booster 2017 จากผู้ร่วมแข่งขัน 700 ทีม จาก 102 ประเทศทั่วโลก คว้าเงินรางวัลกว่า 11 ล้านบาท และ 5) ZipEvent นวัตกรรมแพลตฟอร์มที่ช่วยจัดระเบียบงานอีเว้นท์ที่ประสบความสำเร็จอันดับต้นๆ ด้วยผลงานที่โดดเด่นและการเติบโตของธุรกิจอย่างต่อเนื่อง มุ่งสนับสนุนในสายธุรกิจ MICE โดยเป็นแพลตฟอร์มช่วยให้ผู้จัดงานอีเว้นท์ทั้งภาครัฐและเอกชน สามารถจัดระบบบริหารงานผ่านแอพพลิเคชั่นได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ส่วนภายในงานสตาร์ทอัพแฟร์ Government Procurement Transformation “ปลดล็อคข้อจำกัด พัฒนาสตาร์ทอัพ สู่ตลาดภาครัฐ” จะมีโซลูชั่น (Solution) ของสตาร์ทอัพที่พร้อมให้บริการสำหรับภาครัฐ ประมาณ 100 สตาร์ทอัพ ใน 7 ประเด็น ได้แก่ 1) การพัฒนากำลังคนภาครัฐและการสื่อสารนโยบายสาธารณะ 2) การพัฒนาการท่องเที่ยวและส่งเสริมวัฒนธรรมและพื้นที่เรียนรู้ 3) การบริการสาธารณูปโภค 4) การอำนวยความสะดวกทางธุรกิจ 5) รัฐบาลดิจิตอล 6) ความมั่นคงและการป้องกันประเทศ และ 7) การพัฒนาตลาดในประเทศ พร้อมการให้บริการจับคู่ธุรกิจระหว่างภาครัฐกับสตาร์ทอัพ รวมทั้งนิทรรศการด้านกระบวนการจัดซื้อจัดจ้างของภาครัฐพร้อมการสนับสนุนจากภาครัฐแก่สตาร์ทอัพ การจัดงานนี้จะมีส่วนสำคัญในการพัฒนาอุตสาหกรรมเทคโนโลยีภาครัฐเพื่อพัฒนาการบริการประชาชนที่ดีขึ้น อันจะนำไปสู่การยกระดับขีดความสามารถทางนวัตกรรมของผู้คนในประเทศ ประกอบด้วย การศึกษา ความมั่นคง การปกครองท้องถิ่น การคลัง และการสาธารณสุข ส่งผลต่อภาพรวมต่อเศรษฐกิจและองค์ความรู้ของประเทศอย่างเป็นรูปธรรม
สำหรับขั้นตอนปลดล็อคข้อจำกัดการจัดซื้อจัดจ้างของตลาดภาครัฐสำหรับสตาร์ทอัพนั้น กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ได้เปิดรับสมัครสตาร์ทอัพและหน่วยงานภาครัฐที่มีความประสงค์ใช้บริการโซลูชั่นของสตาร์ทอัพ โดยจะมีการลงนามความร่วมมือกันภายในงาน Government Procurement Transformation ในครั้งนี้ รวมทั้งพร้อมเริ่มต้นโดยสำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติ (องค์การมหาชน) จะสนับสนุนงบประมาณเพื่อให้สตาร์ทอัพได้ทดสอบตลาด และการใช้งานระบบกับภาครัฐที่เข้าร่วมโครงการ และติดตามประเมินผลการทำงานร่วมกัน นอกจากนี้ยังได้แต่งตั้งคณะกรรมการจัดทำบัญชีจัดซื้อจัดจ้างภาครัฐและปรับปรุงเกณฑ์อ้างอิง (Term of Reference) พิเศษ เพื่อให้ภาครัฐสามารถดำเนินการจัดซื้อจัดจ้างสตาร์ทอัพตาม TOR ที่คณะกรรมการฯ กำหนดได้ ซึ่งกระบวนการทั้งหมดอยู่ในระหว่างการดำเนินงาน
ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรีชื่นชมการจัดงานครั้งนี้ของกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ซึ่งจะเป็นการยกระดับนวัตกรรมของประเทศให้ทัดทียมนานาชาติต่อไป
