ส่งออกแห่ใช้สิทธิ "FTA-GSP" 7 เดือน ยอดพุ่ง 4.2 หมื่นล้านดอลล์
นายอดุลย์ โชตินิสากรณ์ อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ เปิดเผยถึงการใช้สิทธิประโยชน์ของผู้ส่งออกไทยภายใต้ความตกลงการค้าเสรี (FTA) และภายใต้ระบบสิทธิพิเศษทางภาษีศุลกากรเป็นการทั่วไป (GSP) ในช่วง 7 เดือนแรก ปี 2561 ว่า มีมูลค่าการใช้สิทธิประโยชน์รวมอยู่ที่ 42,704 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ มีอัตราการใช้สิทธิประโยชน์ฯ อยู่ที่ 84.07% ขยายตัวเพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อน 18.95% โดยแบ่งเป็นมูลค่าการใช้สิทธิประโยชน์ภายใต้ FTA 39,972 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ และมูลค่าการส่งออกภายใต้ระบบ GSP 2,732 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ
ปัจจุบัน ประเทศไทยได้จัดทำความตกลง FTA กับต่างประเทศทั้งสิ้น 12 ฉบับ ซึ่งยอดส่งออกภายใต้สิทธิประโยชน์ FTA ช่วง 7 เดือนแรก ที่มีมูลค่า 39,972 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ คิดเป็น 75.36% ของมูลค่าการส่งออกรวมภายใต้ความตกลงการค้าเสรีไปยังประเทศคู่ภาคีความตกลง เพิ่มขึ้นจากช่วงเวลาเดียวกันของปีที่ผ่านมา 19.54%
ทั้งนี้ ตลาดส่งออกที่ไทยมีมูลค่าการใช้สิทธิประโยชน์ฯ FTA สูงสุด 5 อันดับแรก ได้แก่ อาเซียน มูลค่า 15,109 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ, จีน 10,148 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ, ออสเตรเลีย 5,429 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ, ญี่ปุ่น 4,318 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ และอินเดีย 2,563 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ และเมื่อพิจารณาอัตราการขยายตัวของมูลค่าการใช้สิทธิประโยชน์ฯ พบว่า ในทุกตลาดมีอัตราการขยายตัวของมูลค่าการใช้สิทธิประโยชน์ฯ เพิ่มขึ้น ยกเว้น ตลาดนิวซีแลนด์ที่มีอัตราการขยายตัวเป็นลบ โดยตลาดที่มีอัตราการขยายตัวสูงสุด คือ เปรู ซึ่งมีอัตราการขยายตัว 53.05% รองลงมา คือ จีน 31% และอินเดีย 24%
ส่วนกรอบความตกลงการค้าเสรีที่มีอัตราการใช้สิทธิประโยชน์สูงสุด 5 อันดับแรก ได้แก่ ไทย-ชิลี 102%, ไทย-ออสเตรเลีย 94%, อาเซียน-จีน 90%, ไทย-ญี่ปุ่น 88% และอาเซียน-เกาหลี 88% และรายการสินค้าส่งออกที่มีมูลค่าการใช้สิทธิประโยชน์ฯ สูงสุด 5 อันดับแรก ได้แก่ รถยนต์บรรทุก ผลิตภัณฑ์ยางสังเคราะห์ผสมยางธรรมชาติ ทุเรียน น้ำตาลจากอ้อย และมันสำปะหลัง
ขณะการใช้สิทธิประโยชน์ภายใต้ระบบ GSP ปัจจุบัน ไทยยังคงได้รับ GSP 5 ระบบ ประกอบด้วย สหรัฐอเมริกา สวิตเซอร์แลนด์ รัสเซีย และเครือรัฐเอกราชนอร์เวย์ และญี่ปุ่น โดยในช่วง 7 เดือนแรกของปี 2561 มูลค่าการใช้สิทธิประโยชน์ภายใต้ระบบ GSP เท่ากับ 2,732 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ อัตราการใช้สิทธิ 59% ของมูลค่าการส่งออกที่ได้รับสิทธิ GSP ขยายตัว 2.80% โดยการใช้สิทธิประโยชน์ภายใต้ระบบ GSP สหรัฐอเมริกายังคงมีสัดส่วนการใช้สิทธิมากที่สุด คือ ประมาณ 96% ของมูลค่าการใช้สิทธิ GSP ทั้งหมด ซึ่งในช่วง 7 เดือนแรกของปี มูลค่าการใช้สิทธิประโยชน์ภายใต้ระบบ GSP สหรัฐอเมริกา อยู่ที่ 2,478 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ มีอัตราการใช้สิทธิ 68.32% ของมูลค่าการส่งออกที่ได้รับสิทธิ GSP ซึ่งมีมูลค่า 3,627ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ เพิ่มขึ้นจากช่วงเวลาเดียวกันในปีที่ผ่านมา 4.53% สินค้าที่มีมูลค่าการใช้สิทธิประโยชน์ฯ ภายใต้ระบบ GSP ไปสหรัฐฯ สูงสุด 5 อันดับแรก ได้แก่ ส่วนประกอบเครื่องปรับอากาศ เครื่องดื่มอื่น ๆ ถุงมือยาง อาหารปรุงแต่ง และรถจักรยานยนต์
ปัจจุบัน ประเทศไทยได้จัดทำความตกลง FTA กับต่างประเทศทั้งสิ้น 12 ฉบับ ซึ่งยอดส่งออกภายใต้สิทธิประโยชน์ FTA ช่วง 7 เดือนแรก ที่มีมูลค่า 39,972 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ คิดเป็น 75.36% ของมูลค่าการส่งออกรวมภายใต้ความตกลงการค้าเสรีไปยังประเทศคู่ภาคีความตกลง เพิ่มขึ้นจากช่วงเวลาเดียวกันของปีที่ผ่านมา 19.54%
ทั้งนี้ ตลาดส่งออกที่ไทยมีมูลค่าการใช้สิทธิประโยชน์ฯ FTA สูงสุด 5 อันดับแรก ได้แก่ อาเซียน มูลค่า 15,109 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ, จีน 10,148 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ, ออสเตรเลีย 5,429 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ, ญี่ปุ่น 4,318 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ และอินเดีย 2,563 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ และเมื่อพิจารณาอัตราการขยายตัวของมูลค่าการใช้สิทธิประโยชน์ฯ พบว่า ในทุกตลาดมีอัตราการขยายตัวของมูลค่าการใช้สิทธิประโยชน์ฯ เพิ่มขึ้น ยกเว้น ตลาดนิวซีแลนด์ที่มีอัตราการขยายตัวเป็นลบ โดยตลาดที่มีอัตราการขยายตัวสูงสุด คือ เปรู ซึ่งมีอัตราการขยายตัว 53.05% รองลงมา คือ จีน 31% และอินเดีย 24%
ส่วนกรอบความตกลงการค้าเสรีที่มีอัตราการใช้สิทธิประโยชน์สูงสุด 5 อันดับแรก ได้แก่ ไทย-ชิลี 102%, ไทย-ออสเตรเลีย 94%, อาเซียน-จีน 90%, ไทย-ญี่ปุ่น 88% และอาเซียน-เกาหลี 88% และรายการสินค้าส่งออกที่มีมูลค่าการใช้สิทธิประโยชน์ฯ สูงสุด 5 อันดับแรก ได้แก่ รถยนต์บรรทุก ผลิตภัณฑ์ยางสังเคราะห์ผสมยางธรรมชาติ ทุเรียน น้ำตาลจากอ้อย และมันสำปะหลัง
ขณะการใช้สิทธิประโยชน์ภายใต้ระบบ GSP ปัจจุบัน ไทยยังคงได้รับ GSP 5 ระบบ ประกอบด้วย สหรัฐอเมริกา สวิตเซอร์แลนด์ รัสเซีย และเครือรัฐเอกราชนอร์เวย์ และญี่ปุ่น โดยในช่วง 7 เดือนแรกของปี 2561 มูลค่าการใช้สิทธิประโยชน์ภายใต้ระบบ GSP เท่ากับ 2,732 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ อัตราการใช้สิทธิ 59% ของมูลค่าการส่งออกที่ได้รับสิทธิ GSP ขยายตัว 2.80% โดยการใช้สิทธิประโยชน์ภายใต้ระบบ GSP สหรัฐอเมริกายังคงมีสัดส่วนการใช้สิทธิมากที่สุด คือ ประมาณ 96% ของมูลค่าการใช้สิทธิ GSP ทั้งหมด ซึ่งในช่วง 7 เดือนแรกของปี มูลค่าการใช้สิทธิประโยชน์ภายใต้ระบบ GSP สหรัฐอเมริกา อยู่ที่ 2,478 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ มีอัตราการใช้สิทธิ 68.32% ของมูลค่าการส่งออกที่ได้รับสิทธิ GSP ซึ่งมีมูลค่า 3,627ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ เพิ่มขึ้นจากช่วงเวลาเดียวกันในปีที่ผ่านมา 4.53% สินค้าที่มีมูลค่าการใช้สิทธิประโยชน์ฯ ภายใต้ระบบ GSP ไปสหรัฐฯ สูงสุด 5 อันดับแรก ได้แก่ ส่วนประกอบเครื่องปรับอากาศ เครื่องดื่มอื่น ๆ ถุงมือยาง อาหารปรุงแต่ง และรถจักรยานยนต์
