"ธพว." ตัดขาย NPLs 6.5 พันล้าน เพิ่มความสามารถปล่อยสินเชื่อใหม่ 2 เท่า

25 ก.ย. 2561 | 09:07 น.
ธพว. พร้อมเปิดขายสินทรัพย์ด้อยคุณภาพกว่า 6,500 ล้านบาท ดึงกลับมาเป็นทุนปล่อยสินเชื่อใหม่คุณภาพดีได้ 2 เท่า วางกระบวนการแข่งขันเสมอภาค โปร่งใส เปิดทางผู้ซื้อผ่อนจ่ายได้ 3 ปี ประเดิมรอบแรก 25 ก.ย.

นายมงคล ลีลาธรรม กรรมการผู้จัดการ ธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย (ธพว. หรือ SME Development Bank) เปิดเผยว่า ตามหลักเกณฑ์ของธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) กำหนดอัตราส่วนการดำรงกองทุนขั้นต่ำต่อสินทรัพย์เสี่ยง (Total Capital Ratio) ไม่ต่ำกว่า 8.5% โดยของ ธพว. อยู่ที่ 11.27% ซึ่งถือเป็นระดับที่มีความมั่นคง

อย่างไรก็ตาม ด้วยระบบกำกับดูแลดังกล่าว การมีหนี้ด้อยคุณภาพ (NPLs) ค้างอยู่ในระบบ ย่อมทำให้เสียโอกาสในการปล่อยสินเชื่อใหม่คุณภาพดี ดังนั้น ธพว. ได้เปิดจำหน่ายสินทรัพย์ด้อยคุณภาพ มูลค่ารวมกว่า 6,500 ล้านบาท ซึ่งเป็นสินทรัพย์ด้อยคุณภาพของธนาคารที่ถูกจัดเป็นสินทรัพย์จัดชั้นต่ำกว่ามาตรฐาน ชั้นสงสัยจะศูนย์ หรือ สินทรัพย์จัดชั้นศูนย์ ตามหลักเกณฑ์การจัดชั้นและการกันสำรองของธนาคารแห่งประเทศไทย โดยเป็นลูกหนี้ที่หยุดดำเนินกิจการ หรือ เลิกกิจการ หรือ ประวิงเวลาการชำระหนี้ หรือ ไม่ให้ความร่วมมือในการแก้ไขหนี้ การขายครั้งนี้จะเป็นประโยชน์กับธนาคาร โดยจะช่วยให้อัตรากองทุนต่อสินทรัพย์เสี่ยงของธนาคารดีขึ้น ในขณะเดียวกัน เปิดโอกาสให้ธนาคารมีความสามารถระดมเงินทุนเพื่อนำไปใช้ปล่อยสินเชื่อคุณภาพดีให้แก่ผู้ประกอบการเอสเอ็มอีต่อไปได้ ซึ่งจะมีมูลค่าเพิ่มขึ้นอย่างน้อยกว่า 2 เท่าจากมูลค่า NPLs ที่จำหน่ายออกไป


thumbnail_01

ทั้งนี้ ได้เริ่มเปิดจำหน่าย NPLs รอบแรก ในวันที่ 25 ก.ย. 2561 วงเงินรวมกว่า 4,200 ล้านบาท จัดกองออกเป็น 3 ประเภท คือ สินทรัพย์ด้อยคุณภาพที่มีหลักประกัน แยกตามพื้นที่ตั้งหลักประกัน จำนวน 5 กอง จำนวน 190 ราย เงินต้น 1,515 ล้านบาท มูลค่าหลักประกัน 2,694 ล้านบาท สินทรัพย์ด้อยคุณภาพที่ไม่มีหลักประกัน 2 กอง แบ่งตามพื้นที่ จำนวน 4,125 ราย เงินต้น 2,177 ล้านบาท และสินทรัพย์ด้อยคุณภาพกลุ่มสินเชื่อลิสซิ่งและเช่าซื้อ 1 กอง จำนวน 945 ราย เงินต้น 1,165 ล้านบาท โดยการจำหน่ายคัดเฉพาะบริษัทบริหารสินทรัพย์ (AMC) ที่ได้รับอนุญาตจาก ธปท. ที่มีกว่า 50 ราย โดยกำหนดเข้าซื้อเอกสาร 26 ก.ย. - 9 ต.ค. 2561 กำหนดการตรวจสอบข้อมูลตั้งแต่วันที่ 27 ก.ย. – 26 ต.ค. 2561 (ไม่เว้นวันหยุดราชการ) และกำหนดยื่นเอกสารเสนอราคาซื้อ วันที่ 5 พ.ย. 2561 ส่วนรอบ 2 ที่เหลือ จะเปิดจำหน่ายในช่วงต้นเดือน ต.ค. ต่อไป

"การขายสินทรัพย์ครั้งนี้ มีความน่าสนใจที่เป็นทรัพย์ลูกค้าธุรกิจผ่านกระบวนการของศาลมาแล้ว สามารถใช้สิทธิเรียกร้องได้ตามกฎหมาย หรือ ซื้อเพื่อดำเนินธุรกิจต่อได้ รวมถึงจัดเป็นกองเล็ก ๆ มูลค่าไม่สูง โดยใช้วิธีการเปิดประมูล และที่สำคัญ สามารถชำระเป็นตั๋วสัญญาใช้เงิน หรือ ชำระแบบเงินผ่อนได้ โดยมีธนาคารอาวัล ภายใน 3 ปีคิดอัตราดอกเบี้ยเงินฝาก ประเภทลูกค้าสถาบันอ้างอิงจากอัตราดอกเบี้ยเงินฝากประจำ เฉลี่ยของ 4 ธนาคาร (ธนาคารกรุงเทพ ธนาคารกสิกรไทย ธนาคารไทยพาณิชย์ และธนาคารกรุงไทย) ซึ่งกระบวนการดังกล่าวเอื้อให้เกิดการแข่งขันที่เปิดกว้างและเสมอภาค" นายมงคล กล่าว

สำหรับสินทรัพย์ด้อยคุณภาพที่เปิดจำหน่ายครั้งนี้ ส่วนมากเป็นลูกหนี้เกิดขึ้นก่อนปี 2558 ดังนั้น เมื่อจำหน่ายออกไปแล้ว จะช่วยให้ธนาคารลดภาระด้านบริหารจัดการติดตามหนี้ รวมถึงลดหนี้ NPLs ซึ่งปัจจุบัน อยู่ที่ระดับ 19% เหลือประมาณ 15% และภายในปีหน้า (2562) ตั้งเป้าลด NPLs เหลือไม่เกิน 10% เท่านั้น ช่วยให้สถานะทางการเงินของธนาคารมีความมั่นคงเข้มแข็งยิ่งขึ้นไปอีก

ดาวน์โหลดอีบุ๊กแทรกข่าว