"Eat’em all" คว้าแชมป์แฮคกาธอน Startup Battleground ควบแชมป์สตาร์ทอัพสาย "Green Tech" รับรางวัลรวมกว่า 6 แสนบาท พร้อมสิทธิ์ร่วมดูงานที่สิงคโปร์ เตรียมต่อยอดแอพ แก้ปัญหาอาหารเหลือทิ้ง
ดร.พิเชฐ ดุรงคเวโรจน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอี) เปิดเผยว่า จากการจัดแข่งขันแฮคกาธอนครั้งยิ่งใหญ่
"Startup Battleground" โดยสำนักงานดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (depa) ร่วมกับ บริษัท ฮับบา จำกัด (HUBBA Thailand) และเทคสตาร์ส (Techstars) แอคเซอเลอเรเตอร์ชั้นนำระดับโลก ซึ่งเป็นการแข่งระดมไอเดียสร้างสรรค์นวัตกรรมใหม่ใน 10 หัวข้อ ต่อยอด 10 อุตสาหกรรมเป้าหมาย (S-Curve) ผลปรากฏว่า ในการแข่งขันรอบชิงชนะเลิศ ทีมที่ได้รับรางวัลชนะเลิศเป็นสุดยอดของทั้ง 10 หัวข้อ รับรางวัลรวมกว่า 6 แสนบาท คือ ทีมสตาร์ทอัพสาย Green Tech
"Eat’em all" ซึ่งเป็นการรวมตัวของทีมนิสิตจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
สำหรับการแข่งขัน Startup Battleground เป็นการแข่งขันแฮคกาธอนที่เปิดรับผู้สมัครเป็นสตาร์ทอัพระดับตั้งไข่ (Seed Stage) มีผู้เข้าร่วมแข่งขันทั้งสิ้นกว่า 500 คน ใน 10 หัวข้อ ที่จะมาต่อยอดกับ 10 อุตสาหกรรมเป้าหมาย มีการจัดอบรมผู้เข้าแข่งขันอย่างเข้มข้น โดยวิทยากรที่คร่ำหวอดในวงการสตาร์ทอัพ ทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ และมีการแข่งขันรอบชิงชนะเลิศในวันสุดท้ายของงานดิจิทัล ไทยแลนด์ บิ๊กแบง 2018 ผู้ชนะสูงสุดในการแข่งขัน (Winner) จะได้รับเงินรางวัลมูลค่า 5 แสนบาท พร้อมตั๋วเครื่องบิน ที่พัก และสิทธิ์เข้าร่วมงาน Rakuten Accelerator ที่ประเทศสิงคโปร์ ผู้ชนะในแต่ละหัวข้อ (Track Master) จะได้รับเงินรางวัล 100,000 บาท รวมมูลค่าเงินรางวัลกว่า 1.5 ล้านบาท
ด้าน นายพศิน โอภาสพิไล ผู้ร่วมก่อตั้ง Eat’em all และนิสิตชั้นปีที่ 4 คณะพาณิชยศาสตร์และการบัญชี จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เปิดเผยว่า ทีมเป็นสตาร์ทอัพระดับตั้งไข่ (Seed Stage) ที่เกิดขึ้นจากการรวมตัวกันของนิสิต 2 คณะ ได้แก่ คณะพาณิชยศาสตร์และการบัญชี และคณะวิศวกรรมศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ได้พัฒนานวัตกรรมขึ้น ภายใต้ชื่อ Eat’em all เป็นแพลทฟอร์มสำหรับซื้อขายอาหารส่วนเกินในราคาส่วนลด มุ่งเน้นจะช่วยเพิ่มกำไรให้กับร้านค้าพร้อมทั้งลดปัญหาอาหารเหลือทิ้งในร้านอาหาร
ปัจจุบัน แพลทฟอร์ม Eat’em all ให้บริการอยู่บนช่องทาง LINE BOT มาแล้วประมาณ 1 เดือน มีผู้ใช้บริการเป็นประจำในแต่ละสัปดาห์ (Weekly Active Users) อยู่ที่ประมาณ 900 คน เชื่อมต่อกับร้านค้าอีก 15 ร้านค้า หลังจากได้รับเงินรางวัลรวมกว่า 6 แสนบาท ในครั้งนี้ จะนำไปต่อยอดพัฒนา Eat’em all ให้เป็นแอพพลิเคชัน พร้อมทั้งพัฒนาหรือเชื่อมโยงให้มีระบบขนส่งสินค้า (Delivery) ขยายประเภทร้านอาหาร จากเดิมที่เป็นร้านอาหารประเภทเบเกอรี่เป็นหลัก สู่ร้านอาหารประเภทอื่น ๆ รวมถึงขยายฐานผู้ใช้ให้เติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่อง