เปิดกลยุทธ์‘ปาป้า เปเปอร์ฯ’ รุกออนไลน์-ออฟไลน์เพิ่มยอดขาย

27 ก.ย. 2561 | 06:40 น.
25.9.61

“ซิมพลิ เด็คคอร์” เดินหน้าทำตลาดทั้งออนไลน์และออฟไลน์ โดยใช้ทุกสื่อบนช่องทางออนไลน์เข้าหาลูกค้า ขณะที่ออฟไลน์เน้นออกงานแสดงสินค้าทั้งในและนอกประเทศ เชื่อปีนี้รายได้แตะ 10 ล้านบาท ชูจุดเด่นเป็นผู้ผลิตกระดาษสาเจ้าเดียวในประเทศไทย

นายธนากร สุภาษา ประธานกรรมการบริหารบริษัทซิมพลิ เด็คคอร์ จำกัด ผู้ผลิตและจำหน่ายกระดาษจากใย PA1 ธรรมชาติแบรนด์ “ปาป้า เปเปอร์ แฟคตอรี่” (Papa Paper Factory) เปิดเผยกับ “ฐานเศรษฐกิจ” ว่า กลยุทธ์การทำตลาดของบริษัทในปีนี้จะดำเนินการผ่านช่องทางออนไลน์ และออฟไลน์ควบคู่กันไป โดยในส่วนของออนไลน์นั้นจะมีทั้งในรูปแบบของเพจเฟซบุ๊ก (Facebook) ไลน์แอด (LINE@), อินสตาแกรม (Instagram: IG), เว็บไซด์ช็อปปี้ (Shopee)และลาซาด้า (Lazada) ขณะที่หากเปิดค้นหาคำว่ากระดาษสาบนกูเกิล (Google) ผลิตภัณฑ์ของบริษัทจะถูกเรียกขึ้นมาอยู่ที่หน้าแรกทันที

ส่วนช่องทางทางด้านออฟไลน์นั้นส่วนใหญ่บริษัทจะเน้นการออกงานแสดงสินค้าทั้งในและต่างประเทศโดยร่วมมือกับองค์กรภาครัฐอย่างสำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (สสว.) และธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลาง และขนาดย่อมแห่งประเทศไทย (ธพว.) หรือเอสเอ็มอีเดเวลลอปเม้นท์แบงก์ (SME Development Bank)เช่นที่ประเทศฮ่องกง เป็นต้น ขณะที่ในประเทศก็จะมีการออกงานแสดงสินค้าที่ศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์ (CTW) และที่ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ เป็นต้น

“ลูกค้าหลักของบริษัทส่วนใหญ่กว่า 99% จะมาจากการส่งออกโดยประเทศหลัก ได้แก่ ประเทศญี่ปุ่นและกลุ่มประเทศในแถบทวีปยุโรป (EU) ส่วนในประเทศจะเป็นการจำหน่ายผ่านหน้าร้านที่จังหวัดเชียงใหม่ และบนช่องทางออนไลน์ต่างๆโดยที่บริษัทมีแนวคิดที่ต้องการให้คนไทยได้มีโอกาสใช้กระดาษสาหลังจากที่ส่วนใหญ่จะได้ใช้แต่กระดาษอุตสาหกรรม”

นายธนากร กล่าวต่อไปอีกว่า จากกลยุทธ์ในการทำตลาดดังกล่าวเชื่อว่าจะทำให้บริษัทมียอดรายได้อยู่ที่ประมาณ 10 ล้านบาทในปี 2561 หรือเฉลี่ยประมาณเดือนละ 1 ล้านบาท แต่ตลาดส่งออกในช่วงเดือนธันวาคมถือว่าเป็นช่วงโลว์ซีซันทำให้ไม่มีคำสั่งซื้อผลิตภัณฑ์เข้ามารายได้ของบริษัทจึงหายไปส่วนหนึ่งส่วนในปีที่ผ่านมาบริษัทมีรายได้อยู่ที่ 9 ล้านบาทจากเดิมที่ก่อนหน้านั้นในปี 2559 บริษัทมีรายได้อยู่ที่ประมาณ 2 ล้านบาท เนื่องจากช่วงนั้นยังไม่มีเงินทุนมากพอในการขยายตลาดไปสู่ลูกค้ารายใหญ่ PA4

สำหรับจุดเด่นของผลิตภัณฑ์แบรนด์ “ปาป้า เปเปอร์” นั้นอยู่ที่การเป็นโรงงานกระดาษทำมือ หรือแฮนด์เมด (Handmade) เจ้าเดียวในประเทศไทยในปัจจุบันอีกทั้งยังมีผลิตภัณฑ์ที่เป็นกระดาษสาเขียนเทียนบาติกเจ้าเดียวในประเทศไทยจากการที่คุณพ่อซึ่งเป็นผู้ริเริ่ม และก่อตั้งธุรกิจ ได้เคยถวายงานให้กับสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี และการทำงานในรูปแบบแฮนด์เมดซึ่งมีการนำเครื่องจักรขนาดเล็กเข้ามาช่วยในการผลิตเพื่อรองรับตลาดรายใหญ่ทางด้านการส่งออกโดยสามารถผลิตได้เดือนละ 1 แสนแผ่นในปัจจุบัน

PA3

นอกจากนี้ยังเป็นเรื่องของวัตถุดิบที่นำมาใช้ในการผลิตกระดาษซึ่งนำมาจากธรรมชาติไม่ว่าจะเป็น เส้นใยจากต้นหมาก, มะพร้าว, กล้วย, กาแฟและตะไคร้เป็นต้น โดยจากจุดดังกล่าวนี้สามารถช่วยดึงดูดความสนใจจากลูกค้าได้เป็นอย่างดี

ด้านหลักคิดในการทำธุรกิจให้ประสบความสำเร็จนั้นบริษัทเลือกดำเนินการตามคำว่า “SEED” โดยที่ตัว S มาจากคำว่า Sustainable ซึ่งหมายความถึงการสร้างความยั่งยืน เช่น การอยู่ร่วมกับสังคม ชุมชน การใช้พลังงาน และการรักษาสิ่งแวดล้อม, E คือEthic หมายถึงการมีจริยธรรม, E คือ Encouragement หมายถึง ส่งเสริมและสนับสนุน เช่น การสร้างอาชีพ และการพัฒนาคุณภาพชีวิต และ D คือ Development หมายถึง การพัฒนา เช่น การถ่ายทอดสู่คนรุ่นหลัง องค์ความรู้ ภูมิปัญญา และนวัตกรรม

หน้า 13 ฐานเศรษฐกิจ ฉบับที่ 3404 วันที่ 27-29 กันยายน 2561

23626556-10