ค้าปลีกชานเมืองคึก สาดงบ-อีเวนต์เพิ่ม ชิงกำลังซื้อนักช็อป

28 ก.ย. 2561 | 08:41 น.
          ชี้กำลังซื้อชานเมืองพุ่ง “ศูนย์การค้า” จัดหนักพร้อมรับมือ “ซีคอน” อัดงบเพิ่ม ดันอีเวนต์กระจายทุกจุดกว่า 20 งาน ขณะที่ “แฟชั่นไอส์แลนด์” เล็งทุ่มงบกว่า 1,000 ล้านบาทเพิ่มที่จอดรถ พร้อมรีโนเวตศูนย์ครั้งใหญ่ ด้าน “ฟิวเจอร์พาร์ค” จัดเต็มการตลาดหวังสร้างสีสันดึงนักช็อป

จรัญ ซีคอน

จรัญ ผู้พัฒน์

นายจรัญ ผู้พัฒน์ รองกรรมการผู้จัดการ สำนักสื่อสารการตลาดและลูกค้าสัมพันธ์ บริษัท ซีคอน ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) และ บริษัท ซีคอน บางแค จำกัด ผู้บริหารศูนย์การค้าซีคอน สแควร์และซีคอน บางแค เปิดเผยกับ “ฐานเศรษฐกิจ” ว่า เพื่อให้ซีคอน สแควร์ และซีคอน บางแค เป็นยูนีค เดสติเนชั่น (Unique Destination) บริษัทจึงให้ความสำคัญกับการนำกลยุทธ์ “Event Marketing” มาใช้ตลอด เพื่อสร้างความแตกต่างและความแปลกใหม่อย่างต่อเนื่อง

ซีคอน 1

ทั้งนี้ในไตรมาสสุดท้ายของปีนี้ จะมีการจัดกิจกรรมการตลาดราว 20 กิจกรรมต่อศูนย์ เพื่อเป็นการกระตุ้นและสร้างบรรยากาศดึงลูกค้าเข้ามาใช้บริการด้วย โดยใน 1 ปี บริษัทมีการจัดกิจกรรมการตลาดมากกว่า 150 งานในแต่ละศูนย์ซึ่งได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีจากการรวบรวมข้อมูลพบว่ามีลูกค้าถึง 47% ที่ตั้งใจมาร่วมกิจกรรมของศูนย์โดยเฉพาะ อีกทั้ง Engagement ทางออนไลน์ต่อกิจกรรมต่างๆ ก็ดีมากเช่นกัน

อย่างไรก็ดีภาพรวมด้านกำลังซื้อของผู้บริโภคในบริเวณชานเมืองพบว่า มี ทิศทางที่ดี เห็นได้จากปริมาณรถยนต์เข้าศูนย์มีการเติบโตต่อเนื่องมาตั้งแต่ต้นปี ดังนั้นบริษัทจึงสร้างอาคารจอดรถใหม่ทำให้การบริการลูกค้าดีขึ้นมาก โดยรวมกำลังซื้อคึกคักกว่าช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว

mp36-3404-a           โดยเฉพาะอย่างยิ่งที่ ซีคอน บางแค รถไฟฟ้าสายสีนํ้าเงิน กำลังจะเสร็จสมบูรณ์ เปิดใช้บริการในปีหน้า ทำให้มีโครงการที่พักอาศัยขยายตัวบนถนนเพชรเกษมจำนวนมาก ในระยะ 4 กิโลเมตรรอบซีคอน บางแค มีโครงการคอนโดฯขนาดใหญ่ เกิดขึ้นมากกว่า 15 โครงการ และยังมีโครงการใหม่ๆ เกิดขึ้นอีก นอกจากนี้ยังมี อาคารสำนักงาน บริษัท ห้างร้าน เกิดขึ้นอีก นับว่าย่านนี้มีความเจริญขยายตัวขึ้นมาก

“3 เดือนสุดท้ายของปีนี้ บริษัทเตรียมใช้งบจัดกิจกรรมเพิ่มขึ้นจากงบประมาณเดิมที่ตั้งไว้ 10 ล้านบาท และเพิ่มกิจกรรมกระจายไปตามจุดต่างๆ เพื่อกระจายลูกค้าให้เดินทั่วศูนย์”

LHMH_02_นายประเสริฐ ศรีอุฬารพงศ์

ประเสริฐ ศรีอุฬารพงศ์

ด้านนายประเสริฐ ศรีอุฬารพงศ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท แอล เอช มอลล์ แอนด์ โฮเทล จำกัด ผู้บริหารศูนย์การค้า “แฟชั่นไอส์แลนด์” กล่าวว่า เชื่อว่ากำลังซื้อของผู้บริโภคในย่านชานเมืองในไตรมาส 4 นี้จะดี หลังจากที่ดีต่อเนื่องมาตลอด แตกต่างกับในเมืองที่ต้องอาศัยกลุ่มนักท่องเที่ยว ทำให้บริษัทยังเดินหน้าแผนการตลาดเดิมที่วางไว้ โดยเน้นการทำตลาด การจัดอีเวนต์ รวมถึงกิจกรรมต่างๆ

นอกจากนี้บริษัทยังใช้งบลงทุนกว่า 1,000 ล้านบาทในการรีโนเวตพื้นที่ทั้งภายในและภายนอกศูนย์ ทั้งการสร้างอาคารจอดรถแห่งใหม่ที่สามารถรองรับรถได้ 2,000 คัน ซึ่งจะเปิดให้บริการในปีหน้า และเพื่อรองรับการมาของรถไฟฟ้าสายสีชมพู ซึ่งจะผ่านหน้าแฟชั่นไอส์แลนด์ บริษัทจึงได้ปรับพื้นที่ภายในโดยจะย้ายโฮมโปร ออกไปตั้งเป็นสแตนด์อะโลน และรีโนเวตพื้นที่เดิมซึ่งมีอยู่กว่า 1.4 หมื่นตารางเมตรให้เป็นร้านค้าสำหรับสินค้าแฟชั่นเสื้อผ้าและอาหาร ภายใต้คอนเซ็ปต์ Mall in Mall เพราะเป็นจุดเชื่อมต่อกับสถานีที่จะมีขึ้นในอนาคต

ปัจจุบันแฟชั่นไอส์แลนด์ มีลูกค้าเข้ามาใช้บริการในวันธรรมดาจำนวน 6-7 หมื่นคนต่อวัน และราว 1 แสนคนในวันหยุดเสาร์ อาทิตย์ มีการเติบโตเพิ่มขึ้นราว 7% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน โดยคาดว่าหลังจากที่รถไฟฟ้าสายสีชมพูเปิดให้บริการจะส่งผลให้มีลูกค้าเข้ามาเพิ่ม 5% ขณะเดียวกันบริษัทยังสามารถลงทุนพัฒนาพื้นที่ที่เหลืออีก 30-40 ไร่ ได้อีกจากพื้นที่ทั้งหมด 140 ไร่

คุณรัตนา อนันทนุพงศ์ ผอ ด้านการตลาดศูนย์การค้าฟิวเจอร์พาร์ค และสเปลล์2

รัตนา อนันทนุพงศ์

ขณะที่นางรัตนา อนันทนุพงศ์ ผู้อำนวยการด้านการตลาด บริษัท รังสิตพลาซ่า จำกัด ผู้บริหารศูนย์การค้า “ฟิวเจอร์ พาร์ค” กล่าวว่า ปัจจุบันภาพรวมกำลังซื้อของผู้บริโภคส่วนใหญ่ยังมีต่อเนื่อง หากแต่เลือกที่จะใช้จ่ายอย่างคุ้มค่ามากที่สุด โดยไตรมาสสุดท้ายของปีนี้บริษัทมุ่งก้าวเข้าสู่ยุคดิจิตอลอย่างเต็มตัว และ Internet of thing เข้ามามีบทบาทสำคัญ จึงได้ปรับเพิ่มกลยุทธ์ เสริมศักยภาพด้านบริการด้วยการนำเทคโนโลยีดิจิตอลมาสร้างความแข็งแกร่งให้มากยิ่งขึ้น พร้อมกับปรับประสิทธิภาพบริการ FREE WI-FI ความเร็วสูง 50 Mbps สนองตอบความสะดวกด้านการสื่อสารแบบเรียลไทม์ ของลูกค้าในทุกพื้นที่ โดยร่วมกับบริษัท ทีโอที จำกัด (มหาชน)

090861-1927-9-335x503-8-335x503           นอกจากนี้ยังดึงพันธมิตรกลุ่มธนาคาร 8 ธนาคารชั้นนำ ได้แก่ กรุงเทพ, ไทยพาณิชย์, กสิกรไทย, กรุงศรีอยุธยา, ออมสิน, ทหารไทย และธนชาต อำนวยความสะดวกด้วยการนำเทคโนโลยีมาเพิ่มช่องทางการชำระสินค้า ระหว่างร้านค้าและลูกค้า ในรูปแบบ QR Code ให้สอดคล้องกับนโยบายสังคมไร้เงินสดของภาครัฐ ซึ่งจะเริ่มช่วงเดือนกันยายนนี้ วางเป้าหมายร้านค้าที่ร่วมโครงการช่วงแรกจำนวน 60%ของจำนวนร้านค้าทั้งหมด

Future Park-Zpell

การติดตั้ง iBox ตู้ไปรษณีย์อัจฉริยะ โดยร่วมกับไปรษณีย์ไทย อำนวยความสะดวกให้กับกลุ่มนักช็อปออนไลน์ ที่ไม่สะดวกรับพัสดุที่บ้าน ซึ่ง iBoxคือ ตู้ล็อกเกอร์ที่สามารถนำจ่ายพัสดุให้แก่ผู้รับ โดยมีระบบตรวจสอบยืนยันความถูกต้องด้วยรหัสผ่าน OTP หรือ One time password รวมทั้งการปรับกลยุทธ์การสื่อสารบนโลกออนไลน์ ด้วยการขยายช่องทางสื่อสาร อัพเดตข่าวสารให้เข้าถึงลูกค้า ในแต่ละกลุ่มให้ตรงช่องทาง รวมทั้งปรับปรุงภาพลักษณ์ให้มีความทันสมัย และเพิ่ม Engagement ในทุกช่องทางของโซเชียลมีเดีย เพื่อให้บริการและโปรโมชันต่างๆ offer ได้ทันท่วงทีและโดนใจ รวมทั้ง Mobile Application และสร้างการมีส่วนร่วม และสนุกให้ลูกค้าใน Big Event ด้วยเทคโนโลยีดิจิตอล ตลอดจนเพิ่มประสิทธิภาพระบบ Big Data ให้สามารถวิเคราะห์พฤติกรรมของลูกค้าได้อย่างครบถ้วนสมบูรณ์แบบ

“ในไตรมาส 4 ซึ่งถือเป็นช่วงไฮซีซัน บริษัทเตรียมบิ๊กอีเวนต์และแคมเปญไว้กระตุ้นกำลังซื้อในช่วงโค้งสุดท้ายปลายปี อย่างแคมเปญปีใหม่, เคาต์ดาวน์ และกิจกรรมย่อยต่างๆ อีกกว่า 10 งาน ซึ่งจะทำให้ลูกค้ามาใช้บริการที่ฟิวเจอร์พาร์คและสเปลล์ ในปี 2561 เพิ่มขึ้นตามเป้าหมายแน่นอน ทั้งนี้จากการเปิดให้บริการสเปลล์ 3 ปี มีลูกค้าระดับ A เพิ่มขึ้น 20% มียอดใช้จ่ายต่อบิลเฉลี่ย 2,200 บาท”

.....................................................................................................

หน้า 36 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ | ฉบับ 3,404 ระหว่างวันที่ 27-29 กันยายน 2561

23626556-10