'ไทยยูเนี่ยน' แจงสหประชาติ แก้ปัญหา "แรงงานทาส" ยุคใหม่

25 ก.ย. 2561 | 03:37 น.
บริษัท ไทยยูเนี่ยน กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) ขึ้นพูดในเวทีสมัชชาใหญ่แห่งสหประชาชาติ ณ กรุงนิวยอร์ก เกี่ยวกับการดำเนินงานและประสบการณ์ในการจัดการปัญหาแรงงานทาสยุคใหม่และแรงงานบังคับ ให้กับผู้นำจากประเทศต่าง ๆ รับฟัง ในฐานะบริษัทเอกชนที่มีความพยายามในการจัดการปัญหาดังกล่าวอย่างจริงจัง

'ไทยยูเนี่ยน' เป็นภาคธุรกิจจากประเทศไทยเพียงบริษัทเดียวที่ได้รับเกียรติเชิญเข้าร่วมในงานสมัชชาใหญ่แห่งสหประชาชาติ และยังเป็นครั้งแรกที่ภาคธุรกิจไทยมีสิทธิอยู่ในงานประชุมสมัชชาในการต่อสู้กับประเด็นปัญหาเหล่านี้

ดร.แดเรี่ยน แมคเบน ผู้อำนวยการ กลุ่มการพัฒนาอย่างยั่งยืน บริษัท ไทยยูเนี่ยนฯ ขึ้นพูดพร้อมกับ คริสติน คูเปอร์ ที่ปรึกษาและเลขานุการบริษัท บริษัท อวีว่า , Anbinh Phan ผู้อำนวยการ กลุ่มด้านประสานงานราชการ บริษัท วอลมาร์ท และแดน วีเดอร์แมน กรรมการผู้จัดการ องค์กร Humanity United โดยผู้เข้าร่วมเสวนาได้แสดงวิสัยทัศน์และแบ่งปันบทเรียนจากประสบการณ์ ว่า นวัตกรรมและความร่วมมือระหว่างภาครัฐและภาคเอกชนมีความสำคัญอย่างไรในการขจัดระบบแรงงานทาสยุคใหม่ให้หมดไปจากห่วงโซ่อุปทาน

เวทีสมัชชาใหญ่แห่งสหประชาชาติครั้งนี้ มีตัวแทนจากสหราชอาณาจักร ออสเตรเลีย บาห์เรน สหรัฐอเมริกา แคนาดา บังกลาเทศ และไนจีเรีย ขึ้นกล่าวในวาระต่าง ๆ และภายในงานมีผู้เข้าร่วมประมาณ 300 คน ประกอบด้วย ประเทศสมาชิกองค์การสหประชาชาติ ตัวแทนจากภาคประชาสังคม ภาคเอกชน นักลงทุน และสื่อมวลชน

"ภาครัฐและภาคเอกชนต้องร่วมมือกันในการแก้ปัญหาในห่วงโซ่อุปทาน โดยเฉพาะอย่างยิ่งปัญหาเรื่องแรงงานบังคับ แรงงานทาสยุคใหม่ และการค้ามนุษย์" ดร.แดเรี่ยน กล่าว "สิ่งนี้จะสำเร็จได้ต้องมีนโยบายจากภาครัฐมาสนับสนุนอย่างเต็มที่ และได้รับความร่วมมือจากทุกฝ่ายที่ตั้งใจอย่างแน่วแน่ สิ่งเหล่านี้ คือ เหตุผลสำคัญที่ทำให้ SeaChange® กลยุทธ์ความยั่งยืนของไทยยูเนี่ยนได้ถูกปฏิบัติผ่านหลาย ๆ โครงการ จนเกิดบทเรียนและความรู้ต่าง ๆ ที่เรานำมาแบ่งปันให้กับประชาคมโลก ณ งานประชุมสมัชชาใหญ่แห่งสหประชาชาติในวันนี้"

"ไทยยูเนี่ยน" ไม่ได้เพียงนำเสนอมุมมองจากภาคเอกชนเท่านั้น แต่ยังทำหน้าที่เป็นกระบอกเสียงสำคัญจากประเทศไทย ในฐานะที่ประเทศไทยได้เริ่มมีความคืบหน้าต่าง ๆ ในประเด็นสิทธิมนุษยชน

ผู้นำหลายคนให้ความสำคัญกับการประชุมกระบวนการบาหลี ซึ่งเป็นเวทีสำคัญที่ไทยยูเนี่ยนเป็นสมาชิกและเปิดโอกาสให้ผู้นำภาครัฐและภาคเอกชนในเขตภูมิภาคอินโด-แปซิฟิก ได้แลกเปลี่ยนเรียนรู้ประสบการณ์ในการขจัดปัญหาการค้ามนุษย์ แรงงานบังคับ แรงงานทาสยุคใหม่ และการใช้แรงงานเด็กในรูปแบบที่เลวร้ายที่สุดให้หมดไป

นอกจากนี้ ไทยยูเนี่ยนได้ประกาศสนับสนุนข้อเสนอแนะ Acknowledge , Act and Advance (AAA) Recommendations ของกระบวนการบาหลี เพื่อเป็นแนวทางปฏิบัติให้บรรลุเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืนของสหประชาชาติ เป้าหมายที่ 8.7 และขจัดอาชญากรรมข้ามชาติในปัจจุบัน ที่มีผลกระทบต่อคนในภูมิภาคอินโด-แปซิฟิก ตามแนวทางนโยบายของสหประชาชาติ


090861-1927-9-335x503-8-335x503

"หนึ่งในกุญแจสำคัญในการสร้างความมั่นใจว่า เป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืนของสหประชาชาติ ข้อที่ 8.7 จะได้รับการตอบสนอง คือ การทำให้เสียงของแรงงานเป็นหัวใจสำคัญในการต่อสู้กับปัญหาแรงงานทาสยุคใหม่และแรงงานบังคับ" ดร.แดเรี่ยน กล่าว

สหราชอาณาจักรร่วมเป็นเจ้าภาพในงานประชุมรัฐมนตรีนานาประเทศ เพื่อแสดงจุดยืนทางการเมืองในการจัดการปัญหาเหล่านี้และบรรลุตามเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืนของสหประชาชาติ เป้าหมายที่ 8.7 ตัวแทนจากภาคเอกชนได้รับเชิญให้ร่วมพูดคุยถึงประเด็นปัญหาและโอกาสในการขจัดแรงงานทาสยุคใหม่จากเศรษฐกิจ โดยเป็นครั้งแรกที่ภาคธุรกิจไทยได้รับสิทธิร่วมอยู่ในงานประชุมสมัชชาในการต่อสู้กับประเด็นปัญหาเหล่านี้

ไทยยูเนี่ยนเป็นบริษัทแรก ๆ ที่เผยแพร่กฎหมายแรงงานทาสยุคใหม่ของสหราชอาณาจักร และประกาศแถลงการณ์บนออนไลน์ครั้งแรกเมื่อปี 2559 และมีเผยแพร่ฉบับปรับปรุงล่าสุดเมื่อปี 2561

"นับเป็นเกียรติอย่างยิ่งในฐานะเป็นผู้นำทางธุรกิจระดับโลกที่ได้รับเชิญ และดิฉันรู้เป็นเกียรติที่ได้ร่วมแบ่งปันเรื่องราวความยั่งยืนของไทยยูเนี่ยนบนเวทีโลกต่อหน้าผู้นำคนสำคัญและผู้มีอำนาจตัดสินใจมากมาย" ดร.แดเรี่ยน กล่าว

"นโยบายและพันธสัญญาในระดับสูงนั้นเป็นสิ่งที่ดีมาก แต่ยังมีเรื่องเล็ก ๆ อีกหลายอย่างที่กระทบต่อชีวิตของผู้คนและส่งผลให้เกิดการเปลี่ยนแปลง"

ดาวน์โหลดอีบุ๊กแทรกข่าว