มะกันลงทุนไทยแล้ว 6 หมื่นล้านดอลล์!! ดึงต่อยอดดัน "ดิจิตอล อีโคโนมี"

24 ก.ย. 2561 | 08:13 น.
สหรัฐฯ ขนเงินลงทุนไทยแล้วกว่า 6 หมื่นล้านดอลลาร์ ล่าสุด ปี 60 ได้รับส่งเสริมจากบีโอไออีก 33 โครงการ หอการค้าไทยชี้! ศักยภาพสูงเร่งดึงลงทุนช่วยดันไทย "ดิจิตอล อีโคโนมี" ... "กอบศักดิ์" หวังประชุมร่วมหอการค้าไทย-สหรัฐฯ จะทำให้เกิดการย้ายศูนย์กลางทางเศรษฐกิจโลกมาอยู่ในเอเชีย

นายกลินท์ สารสิน ประธานกรรมการหอการค้าไทยและสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย กล่าวว่า ในปี 2561 เป็นปีที่ไทยและสหรัฐอเมริกาได้ร่วมกันเฉลิมฉลองครบรอบ 185 ปี ความสัมพันธ์ทางการทูต รวมทั้งการเฉลิมฉลอง 200 ปี ความสัมพันธ์มิตรภาพฉันท์มิตรระหว่างประชาชนทั้ง 2 ฝ่ายด้วย ซึ่งที่ผ่านมา มีบริษัทจากสหรัฐฯ ได้เข้ามาลงทุนในไทยแล้ว คิดเป็นมูลค่ากว่า 6 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐฯ จ้างงานคนไทยมากกว่า 100,000 ตำแหน่ง

 

[caption id="attachment_322509" align="aligncenter" width="503"] กลินท์ สารสิน กลินท์ สารสิน[/caption]

นอกจากนี้ ในปี 2560 ล่าสุด มีโครงการลงทุนจากสหรัฐฯ ที่ได้รับการส่งเสริมการลงทุนจากคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บอร์ดบีโอไอ) จำนวน 33 โครงการ และคาดว่าจะมีโครงการการลงทุนจากสหรัฐฯ เพิ่มมากขึ้นในอนาคต ล่าสุด หอการค้าไทยยังได้ให้ความมั่นใจแก่นักลงทุนชาวอเมริกัน โดยเฉพาะโครงการลงทุนที่เกี่ยวข้องกับ Digital Economy ที่มีแนวโน้มเติบโตอย่างมาก อีกทั้งยังจะมีส่วนสำคัญในการผลักดันให้เศรษฐกิจในภูมิภาคขยายตัวอย่างรวดเร็ว โดยหอการค้าไทยพร้อมทำงานร่วมกับหอการค้าสหรัฐฯ อย่างใกล้ชิด ในทุกโครงการที่เป็นประโยชน์

ทั้งนี้ ไทยจะได้รับการขับเคลื่อนเข้าสู่ยุคดิจิตอล (Digital Transformation) ด้วยการเชื่อมโยง Cross Border และเครือข่าย Social Media รวมทั้งการพัฒนากลยุทธ์และวิธีการการดำเนินธุรกิจต่าง ๆ ภายใต้ความร่วมมือของภาครัฐและภาคเอกชนไทยผ่านโครงการสำคัญ ๆ เช่น ประชารัฐ , นโยบายประเทศไทย 4.0 , โครงการ EEC และ การอำนวยความสะดวกในการดำเนินธุรกิจของชาวต่างชาติ (Ease of Doing Business)


สหรัฐ

ด้าน นายกอบศักดิ์ ภูตระกูล รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า การประชุมร่วมหอการค้าไทยและสหรัฐฯครั้งนี้ จะทำให้ศูนย์กลางทางเศรษฐกิจของโลกย้ายมาอยู่ในเอเชีย โดยเฉพาะตลาดเกิดใหม่ในอาเซียน ที่มีอัตราการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจสูง 5-8% ในทุกประเทศ เช่น ลาว กัมพูชา พม่า และเวียดนาม ซึ่งหากรวมบังกลาเทศเข้าไปด้วย ก็จะทำให้ตลาดในภูมิภาคนี้มีขนาดใหญ่ถึง 800 ล้านคน ดังนั้น เอเชียอาคเนย์จึงเป็นตลาดที่ไม่ควรมองข้าม โดยเห็นได้ชัดจากการที่จีนประกาศยุทธศาสตร์ One Belt One Road เพื่อเชื่อมเอเชียสู่โลก ในขณะที่ ประเทศไทยเอง มีศักยภาพสูงในการเป็นศูนย์กลางการค้าและเศรษฐกิจในภูมิภาค โดยรัฐบาลไทยกำหนดนโยบายไทยแลนด์ 4.0 และโครงการ EEC เพื่อเตรียมการรองรับ New Economy และยังพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานเชื่อมโยงเศรษฐกิจในภูมิภาค ตลอดจนมีการเจรจาเปิดเขตการค้าเสรีกับหลายประเทศ พร้อมที่จะผลักดันให้ไทยก้าวสู่การเป็นศูนย์กลางในภูมิภาค การเข้ามาลงทุนในไทยช่วงนี้จึงการันตีได้ถึงความเจริญรุ่งเรืองที่จะเกิดขึ้นในอนาคตอย่างแน่นอน

สำหรับการประชุมร่วม The New Digital Economy : Creating THAILAND - U.S. Commercial Opportunities ครั้งนี้ มีภาคเอกชนจากสหรัฐฯ เข้าร่วมประชุมกว่า 300 ราย ซึ่งนอกจากจะมีการสัมมนาร่วมกันแล้ว นักธุรกิจไทยและสหรัฐฯ ยังได้มีกิจกรรมจับคู่ธุรกิจ หรือ บิซิเนส แมชชิ่ง ระหว่างกัน และคณะนักธุรกิจอเมริกันชุดนี้ยังมีกำหนดการจะเข้าพบ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ด้วย

ดาวน์โหลดอีบุ๊กแทรกข่าว