“ภูเก็ต”ควักทุน100ล้าน โชว์ศักยภาพพัฒนาเมืองด้วยไอที3มิติ
“ภูเก็ตพัฒนาเมือง” โชว์ศักยภาพนำโลกไอที3มิติใช้ออกแบบและพัฒนาพื้นที่ ระบบขนส่งมวลชน และอสังหาริมทรัพย์ ด้านสมาคมการค้าอสังหาริมทรัพย์และพันธมิตร ร่วมลงนามเอ็มโอยูกับสมาคมไอโอทีเพื่อยกระดับสมาร์ทซิตี้อำนวยความสะดวกในที่อยู่อาศัยครบทั้ง Realtek และ Smart Living ก่อนต่อยอดสู่เครือข่ายอื่นในวงการอสังหาริมทรัพย์
นายก้าน ประชุมพรรณ์ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท ภูเก็ตพัฒนาเมือง จำกัด(PKCD) เปิดเผย “ฐานเศรษฐกิจ” ว่าได้เปิดให้บริการรูปแบบสมาร์ทบัสใช้บัตรโดยสารแรบบิท และ Big DATA ในพื้นที่จังหวัดภูเก็ต เรียบร้อยแล้ว นอกจากนั้นพื้นที่ศูนย์เศรษฐกิจยังมีแผนพัฒนาพื้นที่ส่วนกลางรูปแบบเวิร์คกิ้งสเปซ อีกทั้งสำนักงานสนับสนุนการวิจัย(สกว.) ยังอยู่ระหว่างการบริหารจัดการรูปแบบสมาร์ทโกรท การพัฒนาพื้นที่รอบสถานีขนส่งมวลชน(TOD) โดยมีทั้งดำเนินการแล้วและในส่วนที่ยังปรับแผนดำเนินการ
นอกจากนั้นเรื่องการร่วมทุนหรือจัดตั้งกองทุนเพื่อนำไปใช้ในการพัฒนาเมืองนั้นยังอยู่ระหว่างการหารือร่วมกับสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์(กลต.) โดยมีแผนพัฒนาเมืองอัจฉริยะร่วมกับกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม โดยได้มีการลงนามบันทึกความร่วมมือต่อกันเรียบร้อยแล้ว
ดังนั้นในฐานะเป็นภาคเอกชนท้องถิ่นยังเห็นว่าหัวเมืองหลักรัฐน่าจะเร่งผลักดันระบบขนส่งมวลชนขนาดใหญ่เกิดขึ้นโดยเร็ว รถไฟฟ้ารางเบาเป็นอีกรูปแบบหนึ่งที่เมืองภูเก็ตต้องการ แต่รัฐบาลต้องสนับสนุนในบางส่วนเพื่อให้การพัฒนาพื้นที่เกิดศักยภาพมากขึ้น เกิดความสะดวกด้านการเดินทางของนักท่องเที่ยว เบื้องต้นนั้นรัฐบาลมอบหมายให้การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชน(รฟม.) เป็นเจ้าภาพหลักและเร่งขับเคลื่อนตามแผนร่วมลงทุน(พีพีพี) กันต่อไป
“สมาร์ทบัสเป็นเพียงโมเดลหนึ่งของการขับเคลื่อนรูปแบบสมาร์ทซิตี้ เพื่อให้เป็นทางเลือกของการเดินทางเบื้องต้นลงทุนไปแล้วประมาณ 100 ล้านบาทแต่จากการพัฒนาระบบไอทีที่สามารถนำไปกำหนดแผนพัฒนาเมืองได้หลากหลายมิติถือว่าคุ้มค่าด้านการลงทุนแล้ว หลังจากนี้จะสามารถนำไปต่อยอดการพัฒนาได้อย่างไรเท่านั้น ล่าสุดอยู่ระหว่างการสนับสนุนให้เกิดการพัฒนาเมืองรูปแบบสมาร์ทซิตี้ โดยเป็นความร่วมมือระหว่างภาครัฐและภาคเอกชน ต้องการให้เสริมด้านกฏหมาย ผู้ชำนาญการ และด้านการตลาดเพิ่มขึ้นหากสามารถผลักดันให้เมืองภูเก็ตเป็นโมเดลนำการพัฒนาสมาร์ทซิตี้เมืองท่องเที่ยวของไทย อาทิ ส่งเสริมการพัฒนาระบบขนส่งมวลชนอัจฉริยะที่จะทำให้เมืองมีความสมบูรณ์มากขึ้น”
ด้านนายกฤษฎาพงษ์ ตันทอง กรรมการ PKCD กล่าวว่า ได้นำโปรแกรมที่ผ่านการออกแบบโดยสมาชิกไปใช้ในการออกแบบตามแผนการพัฒนาเมืองของจังหวัดภูเก็ตเพื่อให้เห็นภาพแผนการพัฒนาที่ชัดเจนสามารถวางแผนในส่วนที่เกี่ยวข้องทั้งการพัฒนาที่อยู่อาศัย ระบบขนส่งมวลชน ตลอดจนการป้องกันน้ำท่วมได้อย่างตรงตามความต้องการมากขึ้น
“ได้เลือกข้อมูล Big DATA มาใส่เป็นข้อมูลต่อไปจะร่วมแชร์ข้อมูลกับภาครัฐ ในรูปแบบ 3 มิติให้เห็นในภาพกว้างถึงแผนการพัฒนาเมืองรูปแบบต่างๆเสนอผ่านเว็บไซต์ด้วยระบบคราวน์(CLOUD) จะทำให้เห็นผังสีเมืองแต่ละโซน พื้นที่โซนไหนหนาแน่น ตลอดโซนเส้นทางการไหลของน้ำเพื่อป้องกันน้ำท่วมจากขุนน้ำและแนวคลองต่างๆซึ่งภาครัฐสามารถนำไปใช้ประโยชน์ได้”
ด้านนายอภิชาติ ประสิทธิ์นฤทธิ์ นายกสมาคมการค้าอสังหาริมทรัพย์และพันธมิตร กล่าวว่าได้ลงนามบันทึกความร่วมมือกับสมาคมไอโอที ในงานมหกรรมแสดงนวัตกรรมดิจิทัลระดับนานาชาติ “Digital Thailand Big Bang 2018 : Thailand Big Data ที่จัดขึ้นในวันที่ 19 กันยายนนี้ที่เมืองทองธานีโดยกระทรวงดิจิทัล วัตถุประสงค์เพื่อความร่วมมือในการทำเรลเอสเตทเทคโนโลยีและสมาร์ทลีฟวิ่งคอนเซปต์ให้ทันสมัยยิ่งขึ้น
สำหรับความร่วมมือครั้งเพื่อมุ่งเน้นการพัฒนานวัตกรรมทางด้านการบริการเทคโนโลยีนำมาใช้ในธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ รวมทั้งการใช้เทคโนโลยีช่วยให้บริการอำนวยความสะดวกภายในบ้าน คอนโดมิเนียม ในการพัฒนาระบบสมาร์ทลีฟวิ่งทางด้านระบบพื้นฐาน และระบบการให้บริการให้เป็นโครงการที่อยู่อาศัยที่มีการพัมนาให้เกิดคุณภาพชีวิตที่ดีในทุกด้าน
“ข้อตกลงความร่วมมือนี้จะเป็นการให้การสนับสนุนในการนำเทคโนโลยี และผลิตภัณฑ์สนับสนุนการพัฒนาโครงการ รวมถึงการส่งเสริมในด้านข้อมูลและคำแนะนำ การปรึกษาที่สามารถขยายผลไปสู่การพัฒนาในอนาคตอีกทั้งยังสามารถต่อยอดไปสู่เครือข่ายการพัฒนาด้านอื่นๆในวงการอสังหาริมทรัพย์เพื่อส่งเสริมกันอย่างตรงตามความต้องการต่อไป”
นายก้าน ประชุมพรรณ์ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท ภูเก็ตพัฒนาเมือง จำกัด(PKCD) เปิดเผย “ฐานเศรษฐกิจ” ว่าได้เปิดให้บริการรูปแบบสมาร์ทบัสใช้บัตรโดยสารแรบบิท และ Big DATA ในพื้นที่จังหวัดภูเก็ต เรียบร้อยแล้ว นอกจากนั้นพื้นที่ศูนย์เศรษฐกิจยังมีแผนพัฒนาพื้นที่ส่วนกลางรูปแบบเวิร์คกิ้งสเปซ อีกทั้งสำนักงานสนับสนุนการวิจัย(สกว.) ยังอยู่ระหว่างการบริหารจัดการรูปแบบสมาร์ทโกรท การพัฒนาพื้นที่รอบสถานีขนส่งมวลชน(TOD) โดยมีทั้งดำเนินการแล้วและในส่วนที่ยังปรับแผนดำเนินการ
ดังนั้นในฐานะเป็นภาคเอกชนท้องถิ่นยังเห็นว่าหัวเมืองหลักรัฐน่าจะเร่งผลักดันระบบขนส่งมวลชนขนาดใหญ่เกิดขึ้นโดยเร็ว รถไฟฟ้ารางเบาเป็นอีกรูปแบบหนึ่งที่เมืองภูเก็ตต้องการ แต่รัฐบาลต้องสนับสนุนในบางส่วนเพื่อให้การพัฒนาพื้นที่เกิดศักยภาพมากขึ้น เกิดความสะดวกด้านการเดินทางของนักท่องเที่ยว เบื้องต้นนั้นรัฐบาลมอบหมายให้การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชน(รฟม.) เป็นเจ้าภาพหลักและเร่งขับเคลื่อนตามแผนร่วมลงทุน(พีพีพี) กันต่อไป
“สมาร์ทบัสเป็นเพียงโมเดลหนึ่งของการขับเคลื่อนรูปแบบสมาร์ทซิตี้ เพื่อให้เป็นทางเลือกของการเดินทางเบื้องต้นลงทุนไปแล้วประมาณ 100 ล้านบาทแต่จากการพัฒนาระบบไอทีที่สามารถนำไปกำหนดแผนพัฒนาเมืองได้หลากหลายมิติถือว่าคุ้มค่าด้านการลงทุนแล้ว หลังจากนี้จะสามารถนำไปต่อยอดการพัฒนาได้อย่างไรเท่านั้น ล่าสุดอยู่ระหว่างการสนับสนุนให้เกิดการพัฒนาเมืองรูปแบบสมาร์ทซิตี้ โดยเป็นความร่วมมือระหว่างภาครัฐและภาคเอกชน ต้องการให้เสริมด้านกฏหมาย ผู้ชำนาญการ และด้านการตลาดเพิ่มขึ้นหากสามารถผลักดันให้เมืองภูเก็ตเป็นโมเดลนำการพัฒนาสมาร์ทซิตี้เมืองท่องเที่ยวของไทย อาทิ ส่งเสริมการพัฒนาระบบขนส่งมวลชนอัจฉริยะที่จะทำให้เมืองมีความสมบูรณ์มากขึ้น”
“ได้เลือกข้อมูล Big DATA มาใส่เป็นข้อมูลต่อไปจะร่วมแชร์ข้อมูลกับภาครัฐ ในรูปแบบ 3 มิติให้เห็นในภาพกว้างถึงแผนการพัฒนาเมืองรูปแบบต่างๆเสนอผ่านเว็บไซต์ด้วยระบบคราวน์(CLOUD) จะทำให้เห็นผังสีเมืองแต่ละโซน พื้นที่โซนไหนหนาแน่น ตลอดโซนเส้นทางการไหลของน้ำเพื่อป้องกันน้ำท่วมจากขุนน้ำและแนวคลองต่างๆซึ่งภาครัฐสามารถนำไปใช้ประโยชน์ได้”
ด้านนายอภิชาติ ประสิทธิ์นฤทธิ์ นายกสมาคมการค้าอสังหาริมทรัพย์และพันธมิตร กล่าวว่าได้ลงนามบันทึกความร่วมมือกับสมาคมไอโอที ในงานมหกรรมแสดงนวัตกรรมดิจิทัลระดับนานาชาติ “Digital Thailand Big Bang 2018 : Thailand Big Data ที่จัดขึ้นในวันที่ 19 กันยายนนี้ที่เมืองทองธานีโดยกระทรวงดิจิทัล วัตถุประสงค์เพื่อความร่วมมือในการทำเรลเอสเตทเทคโนโลยีและสมาร์ทลีฟวิ่งคอนเซปต์ให้ทันสมัยยิ่งขึ้น
สำหรับความร่วมมือครั้งเพื่อมุ่งเน้นการพัฒนานวัตกรรมทางด้านการบริการเทคโนโลยีนำมาใช้ในธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ รวมทั้งการใช้เทคโนโลยีช่วยให้บริการอำนวยความสะดวกภายในบ้าน คอนโดมิเนียม ในการพัฒนาระบบสมาร์ทลีฟวิ่งทางด้านระบบพื้นฐาน และระบบการให้บริการให้เป็นโครงการที่อยู่อาศัยที่มีการพัมนาให้เกิดคุณภาพชีวิตที่ดีในทุกด้าน
“ข้อตกลงความร่วมมือนี้จะเป็นการให้การสนับสนุนในการนำเทคโนโลยี และผลิตภัณฑ์สนับสนุนการพัฒนาโครงการ รวมถึงการส่งเสริมในด้านข้อมูลและคำแนะนำ การปรึกษาที่สามารถขยายผลไปสู่การพัฒนาในอนาคตอีกทั้งยังสามารถต่อยอดไปสู่เครือข่ายการพัฒนาด้านอื่นๆในวงการอสังหาริมทรัพย์เพื่อส่งเสริมกันอย่างตรงตามความต้องการต่อไป”
