อุตฯยานยนต์Q4พุ่งดันยอดผลิตทะลุ2ล้านคัน

25 ก.ย. 2561 | 04:22 น.
อุตสาหกรรมยานยนต์ 8 เดือนที่ผ่านมา (มกราคม-สิงหาคม 2561)ในภาพรวมถือว่ายังเติบโตโดยเฉพาะยอดขายภายในประเทศที่ทำได้ 657,844 คัน เพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา 21.1 % เฉพาะเดือนสิงหาคม 2561 ทำยอดขายได้ 86,780 คัน เพิ่มขึ้น 27.7%

ยอดขายในประเทศที่เติบโตส่งผลให้กลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์ สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย ได้ประเมินว่ายอดขายรวมในปีนี้น่าจะทำได้ 9.8 แสนคัน เพิ่มขึ้นจากที่ได้ตั้งไว้ในตอนต้นปีที่ 9 แสนคัน ขณะที่ยอดส่งออกนั้นยังคงที่ 1.1 ล้านคัน เมื่อรวมกันจะทำให้ปี 2561 มียอดผลิตรวม 2.08 ล้านคัน

สำหรับปัจจัยที่ทำให้ตลาดรถยนต์ขายดิบขายดีนั้น เป็นผลมาจากเศรษฐกิจภายในประเทศที่ปรับตัวดีขึ้น มีการลงทุนจากภาครัฐและภาคเอกชน ทำให้เกิดความเชื่อมั่นทั้งจากนักลงทุนและผู้บริโภค ส่วนผลผลิตสินค้าทางการเกษตรก็เพิ่มขึ้น การก่อสร้างต่างๆขยายตัวต่อเนื่อง นักท่องเที่ยวเข้ามามากขึ้นช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจ ในประเทศ การช่วยเหลือผู้มีรายได้น้อยของภาครัฐที่ช่วยให้เกิดการจับจ่ายใช้สอย การส่งออกและการนำเข้ายังขยายตัว

MP32-3403-A

ขณะที่การแข่งขันของค่ายรถยนต์ก็มีการเปิดตัวรถรุ่นใหม่ออกมาแข่งขันกันหลายรุ่น โดยเฉพาะกลุ่มรถเอสยูวี ครอสโอเวอร์ ที่มีการเติบโตเพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า

โดยสรุปสำหรับภาพรวมตลาดรถยนต์ในประเทศถือว่าสดใส แถมในช่วงปลายปีที่เป็นฤดูกาลขายค่ายรถเตรียมเปิดตัวรถอีกหลายรุ่น และแน่นอนว่าแคมเปญต่างๆก็ต้องจัดเต็มประกอบกับการประกาศความชัดเจนในการเลือกตั้ง ทั้งหมดนี้ถือเป็นปัจจัยสนับสนุนทำให้ตลาดรถยนต์ในไตรมาส 4 นี้เดือดแน่นอน

อย่างไรก็ดี แม้ยอดขายในประเทศจะเติบโต แต่สำหรับตลาดส่งออกยังคงมีเรื่องให้ต้องกังวล โดยนับตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมา มีปัจจัยเสี่ยงที่เข้ามากระทบ เริ่มตั้งแต่การส่งออกรถยนต์ไปเวียดนาม ที่โดนมาตรการภาษีนำเข้าใหม่ ที่มีกฎเกณฑ์ความเข้มงวดมากขึ้น ทำให้ตั้งแต่ต้นปีจนถึงปัจจุบันส่งไปแค่ 1 หมื่นคัน ลดลงจากเดิมกว่า 75%

ส่วนตลาดส่งออกอีก 1 แห่งที่กำลังเป็นกังวลคือ ออสเตรเลีย ที่ปกติจะส่งออกรถยนต์นั่งเข้าไปเป็นจำนวนมาก แต่ตอนนี้ตัวเลขลดลง ซึ่งกลุ่มอุตสาหกรรมของไทยกำลังพิจารณาหาเหตุผลว่าทำไมถึงลดลง เป็นเพราะมีประเทศอื่นที่ส่งเข้าไปทดแทน หรือ เพราะมีการปรับโครงสร้างภาษีแล้วกระทบ นอกจากนั้นแล้วตลาดในกลุ่มประเทศยุโรป ตะวัน ออกกลาง รวมไปถึงอเมริกากลาง และ ใต้ ก็ยังคงต้องติดตามอย่างใกล้ชิด เพราะมีแนวโน้มติดลบ

“ไทยส่งรถปิกอัพและรถยนต์ไปเวียดนาม โดยเริ่มล็อตแรกในเดือนมีนาคม และต่อมาในเดือนมิถุนายน คาดว่าหลังจากนี้ก็จะทยอยส่งเข้าไปอีก ส่วนประเทศอื่นๆอย่างยุโรป หรืออเมริกากลางและใต้ก็ติดลบ ด้านตะวัน ออกกลางก็ยังไม่แน่นอน โดยรวมๆ สำหรับตลาดส่งออกในช่วง 2-3 เดือนนี้อาจจะลดลงเล็กน้อย ส่วนผลกระทบที่เกิดขึ้นนั้นเกิดจากสาเหตุอะไรก็คงต้องพิจารณา แต่ประเมินว่าเรื่องสงครามการค้าไม่น่าจะมีผล โดยเรื่องนี้หากจะกระทบจริงน่าจะเห็นผลในปลายปีหรือปีหน้า ส่วนเรื่องค่าเงินก็ไม่ค่อยห่วง แต่อย่างไรก็ตามก็ไม่ควรแข็งกว่าประเทศคู่แข่งเพราะจะมีผลต่อขีดความสามารถในการแข่งขัน” นายสุรพงษ์ ไพสิฐพัฒนพงษ์ รองประธานและโฆษกกลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์ สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทยกล่าวและว่า

090861-1927-9-335x503-8-335x503

สำหรับตัวเลขการส่งออกรถยนต์สำเร็จรูปของไทยในช่วง 8 เดือนที่ผ่านมาพบว่าทำได้ 754,624 คัน เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา 3.47% เฉพาะเดือนสิงหาคม ส่งออก 102,513 คัน ลดลงเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา 0.38%

อีกหนึ่งเซ็กเมนต์ที่กลุ่มอุตสาหกรรมเป็นห่วงและกำลังพิจารณาหาเหตุผลว่า  ทำไมตลาดถึงหดตัวคือตลาดรถจักรยานยนต์ ที่ทำได้ 1,255,600 คัน ลดลงเมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา 0.8% แต่เมื่อดูตัวเลขเฉพาะเดือนสิงหาคมพบว่าตัวเลขการขายปรับตัวดีขึ้น ที่ 156,866 คัน เพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมาที่ 6.1%

“ยอดขายของรถจักรยานยนต์เพิ่งจะเพิ่มขึ้นในช่วง 2 เดือนที่ผ่านมา แต่ก็ถือว่าการเติบโตยังน้อย ซึ่งเรากำลังพิจารณาว่าสาเหตุที่ตลาดเป็นเช่นนี้ เป็นเพราะเศรษฐกิจรากหญ้าที่ยังไม่ปรับตัวดีขึ้น หรือเป็นเพราะตลาดถูกชิฟต์ไปยังเซ็กเมนต์อีโคคาร์แทน เพราะเมื่อดูจากยอดขายในกลุ่มอีโคคาร์แล้วถือว่าเติบโตมาก” นายสุรพงษ์ กล่าว

อย่างไรก็ดี เมื่อถามผู้ผลิตรถจักรยานยนต์หลายยี่ห้อ ยังคงยืนยันและฟันธงว่ายอดขายรวมในปีนี้น่าจะไปถึงเป้าที่ได้ประเมินกันไว้คือ 1.8 ล้านคัน ส่วนตลาดส่งออกก็น่าจะเพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมาด้วยยอด 3-3.5 แสนคัน

เรียกว่าในมุมของผู้ผลิตยังคงแสดงความมั่นใจสำหรับตลาดรถจักรยานยนต์ ที่แม้จะไม่ได้เติบโตแบบชัดเจน ขณะที่ตลาดส่งออก ที่ยังมีความกังวลใจจากตลาดหลายประเทศที่ลดลง แต่เมื่อดูจากยอดสะสม 8 เดือนที่ทะลุกว่า 7 แสนคัน และเหลือเวลาอีก 4 เดือนกับเป้าที่วางไว้ 1.1 ล้านคัน ก็คาดว่าไม่น่าจะพลาดเป้าไปได้ เช่นเดียวกับยอดขายรถยนต์ในประเทศ ที่ประเมินกันไว้ 9.8 แสนคัน คาดว่าหากแนวโน้มตลาดยังดีอยู่แบบนี้ ตัวเลขการขายอาจจะทะลุไปถึง 1 ล้านคันได้อย่างสบาย

หน้า 32-33 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ฉบับที่ 3,403 วันที่ 23 - 26 กันยายน พ.ศ. 2561

e-book-1-503x62-7