'ชไนเดอร์' รุกหนักเอเชีย! รับอุตสาหกรรมโต

20 ก.ย. 2561 | 04:17 น.
ซีอีโอ "ชไนเดอร์ อิเล็คทริค" ประกาศมุ่งเป้าธุรกิจสู่อีโคสตรัคเจอร์ทุกด้าน เพื่อพัฒนาโปรดักส์และการบริการจัดการพลังงานของพาร์ทเนอร์สู่ความยั่งยืน พร้อมมุ่งเน้นลงทุน 10 ประเทศเอเชีย รองรับการขยายตัวอุตสาหกรรม




5E500B75-2728-4217-B7B6-8E6FE2B485E2

จัดงานประชุมนวัตกรรมครั้งยิ่งใหญ่ในสิงคโปร์ สร้างพลังขับเคลื่อนเศรษฐกิจด้วยดิจิทัล

• ทั้งลูกค้า คู่ค้า และซัพพลายเออร์ กว่า 1,500 ราย ต่างระดมสมองและร่วมแบ่งปันแนวคิดใหม่ ๆ เพื่อเศรษฐกิจดิจิทัลตลอดงาน 2 วัน

• พร้อมอวดโฉมนวัตกรรมล่าสุดของสถาปัตยกรรม EcoStruxure ในแต่ละด้านที่พัฒนามาอย่างต่อเนื่อง


0BCD9343-B6B1-47B2-96CB-DA60AE4D34FD

"ชไนเดอร์ อิเล็คทริค" ผู้นำด้านดิจิทัลทรานส์ฟอร์เมชั่นในการจัดการพลังงานและระบบออโตเมชั่น จัดงาน Innovation Summit ซึ่งเป็นงานประชุมด้านนวัตกรรมครั้งยิ่งใหญ่ ระหว่างวันที่ 20-21 ก.ย. 2561 ณ มารีนา เบย์ แซนด์ส ประเทศสิงคโปร์ โดยมีลูกค้า พันธมิตร และซัพพลายเออร์ รวมทั้งผู้บริหารชั้นนำในวงการอุตสาหกรรม มากกว่า 1,500 ราย ตบเท้าเข้าร่วมงาน โดยกิจกรรมครั้งนี้นับเป็นการรวมพลผู้เชี่ยวชาญจากชไนเดอร์ อิเล็คทริค และผู้นำทางความคิดในโลกอุตสาหกรรม เพื่อร่วมกันแชร์มุมมองเชิงลึก และแนวคิดใหม่ ๆ ที่ชัดเจน บนความท้าทายและโอกาส เพื่อเพิ่มขุมพลังขับเคลื่อนสู่เศรษฐกิจดิจิทัล


3ED85D00-69A0-4BD8-B0D8-DAD7B3A9BB0E

นายฌอง ปาสคาล ตริคัวร์ ประธานบริษัทและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ชไนเดอร์ อิเล็คทริค เปิดเผยว่า ปีที่ผ่านมา ชไนเดอร์ฯ ทำรายได้กว่า 24.7 พันล้านยูโร รายได้ประมาณ 45% มาจากธุรกิจด้าน IOT และ 5% ของรายได้ เป็นงบประมาณที่ใช้กับการวิจัยและพัฒนาโปรดักส์ โดยปีนี้บริษัทจะมุ่งเน้นด้าน EcoStruxure™ และมุ่งเน้นการลงทุนใน 10 ประเทศเอเชีย อาทิ ไต้หวัน เกาหลีใต้ กัมพูชา โดยหลายประเทศมีการขยายด้านอุตสาหกรรม ไม่ว่าจะเป็น ไทย อินโดนีเซีย เวียดนาม

EcoStruxure™ เป็นสถาปัตยกรรมและแพลตฟอร์มระบบเปิด ให้ศักยภาพด้าน IoT รองรับการใช้งานในลักษณะ Plug and Play สามารถทำงานร่วมกับระบบอื่นได้ไม่มีข้อจำกัด ซึ่งแพลตฟอร์ม EcoStruxure™ นี้ จะเสริมสร้างความเชื่อมั่นให้มากขึ้น ทั้งในเรื่องของความปลอดภัย ความน่าเชื่อถือ ประสิทธิภาพ ความยั่งยืน และการเชื่อมต่อ


1C176413-E260-492E-B857-271B24F340A2

นอกจากนี้ EcoStruxure™ ยังเป็นการยกระดับความก้าวหน้าในเรื่องของ IoT โมบิลิตี้ ระบบเซนเซอร์ คลาวด์ การวิเคราะห์ และระบบรักษาความปลอดภัยบนไซเบอร์ เพื่อมอบนวัตกรรมในทุกระดับ ตั้งแต่ผลิตภัณฑ์เชื่อมต่อ ระบบควบคุมปลายทางไปยังแอพพลิเคชัน (Edge Control) การวิเคราะห์ และการบริการต่าง ๆ โดยที่ผ่านมา EcoStruxure™ ได้มีการติดตั้งใช้งานมากกว่า 480,000 ไซต์งาน โดยผู้วางระบบและผู้พัฒนากว่า 20,000 รายที่ให้การสนับสนุน ซึ่งมีการเชื่อมต่ออุปกรณ์มากกว่า 1.6 ล้านรายการ ที่อยู่ภายใต้การบริหารจัดการผ่านบริการด้านดิจิทัลมากกว่า 40 บริการ

การพัฒนา EcoStruxure หลัก ๆ ที่นำเสนอในงานครอบคลุมประเด็นต่อไปนี้

EcoStruxure Power อีกขั้นของสถาปัตยกรรมและแพลตฟอร์มแห่งอนาคตของ ชไนเดอร์ อิเล็คทริค ที่ให้ศักยภาพด้าน IoT สำหรับการจ่ายไฟฟ้า โดยให้ขีดความสามารถมหาศาลในการจัดการพลังงาน ช่วยปรับปรุงประสิทธิภาพการดำเนินงานและให้ความน่าเชื่อถือสูง พร้อมเปิดตัว EcoStruxure Power Advisor ซึ่งเป็นแอพพลิเคชันใหม่สำหรับผู้ใช้งาน รวมถึง EcoStruxure Power Monitoring Expert 9.0 และ Power Scada Operation 9.0 ซึ่งเป็นซอฟต์แวร์บริหารจัดการที่ควบคุมอุปกรณ์ปลายทาง (Edge Control Management Software) พร้อมด้วยผลิตภัณฑ์เชื่อมต่อ ได้แก่ Prologic ION9000 Meter and Easergy P3 Protection Relay

EcoStruxure Building สถาปัตยกรรมและแพลตฟอร์มอัจฉริยะที่ออกแบบมาสำหรับอาคาร ให้ประสิทธิภาพสูงสุดในการดำเนินการจัดการด้านอาคาร พร้อมเพิ่มความสะดวกสบาย ให้ผลลัพธ์ในการทำงานที่ดียิ่งขึ้น ซึ่งมี EcoStruxure Building Advisor แอพพลิเคชันใหม่สำหรับผู้ใช้งาน รวมถึงระบบควบคุมการทำงานปลายทาง EcoStruxure Building Operation 2.0 ที่มาพร้อมผลิตภัณฑ์การเชื่อมต่อเซ็นเซอร์ SmartX IP Controller MPx และ SmartX Room Sensors อีกด้วย

Ecostruxure Plant & Machine เป็นเทคโนโลยี IoT ครอบคลุมถึงซอฟต์แวร์ที่ผสานรวมการทำงาน ซึ่งพร้อมสำหรับกระบวนการผลิตอัจฉริยะ และมอบโอกาสใหม่ทางธุรกิจสำหรับโรงงานและผู้ผลิตเครื่องจักร ช่วยเพิ่มผลกำไรด้วย EcoStruxure Triconex และเพิ่มผลผลิตที่ดีขึ้นด้วย EcoStruxure Machine Advisor

EcoStruxure Asset Advisor แอพพลิเคชันที่ให้บริการตรวจสอบอุปกรณ์ ซึ่งเป็นบริการที่จำเป็นอย่างมาก ช่วยคาดการณ์ปัญหาล่วงหน้า โดยทำงานผ่านคลาวด์ ด้วยการอาศัยข้อมูลในแบบ 24/7 เพื่อช่วยสร้างความต่อเนื่องทางธุรกิจสำหรับการทำงานของอุปกรณ์สำคัญในดาต้าเซ็นเตอร์ รวมถึงการจ่ายไฟฟ้า

นายฌอง กล่าวถึงแนวคิดที่ชัดเจนสำหรับเศรษฐกิจดิจิทัล ว่า "โลกกำลังเกิดการเปลี่ยนแปลงมากมายอย่างที่ไม่เคยเกิดมาก่อนในประวัติการณ์ เนื่องจากความเฟื่องฟูของเศรษฐกิจดิจิทัล โดยเทคโนโลยี อย่างเช่น Internet of Things (IoT), ปัญญาประดิษฐ์ (Artificial Intelligence) และการวิเคราะห์บิ๊กดาต้า ช่วยให้บริษัทต่าง ๆ สร้างนวัตกรรมได้มากขึ้น ทำธุรกิจได้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น ช่วยส่งเสริมความสามารถด้านการแข่งขัน"

นายฌอง ปาสคาล ตริคัวร์ ประธานบริษัท และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ชไนเดอร์ อิเล็คทริค กล่าว "ในฐานะผู้นำอุตสาหกรรมที่มีความรับผิดชอบ เราต้องการแสดงให้เห็นว่า นวัตกรรมของเราสามารถช่วยลูกค้าและคู่ค้าก้าวสู่การปฏิรูปทางดิจิทัลได้สำเร็จ ทั้งในระบบออโตเมชันและการจัดการพลังงาน เทคโนโลยีของเราสร้างบนฐานของ EcoStruxure™ ที่ช่วยควบคุมอำนาจในการเปลี่ยนแปลงสู่ยุคดิจิทัล ช่วยให้ลูกค้าของเรากลายเป็นผู้นำในเศรษฐกิจแบบใหม่ ที่มีทั้งประสิทธิภาพ ความปลอดภัย ความน่าเชื่อถือ การเชื่อมต่อที่ดีขึ้น และยั่งยืนมากขึ้น"

ตลอด 2 วันของการจัดงาน ลูกค้าต่างเข้าร่วมฟังการพูดคุยเชิงกลยุทธ์ (Strategy Talks) หลากหลายหัวข้อด้วยกัน เช่น "นิยามใหม่ของการกระจายพลังงาน" "การเปลี่ยนแปลงสู่ดิจิทัล ช่วยสร้างระบบการผลิตที่ชาญฉลาด" และ "อาคารในรูปแบบใหม่" โดยบริษัทได้จัดการประชุมเฉพาะด้านต่าง ๆ มากกว่า 15 หัวข้อ สำหรับทั้งลูกค้าและคู่ค้า พร้อมนำเสนอกรณีศึกษาความสำเร็จของลูกค้าที่เป็นรูปธรรม รวมถึงโซลูชั่น พร้อมการอภิปรายที่เปิดให้มีการโต้ตอบกันระหว่างผู้เข้าร่วมประชุมในลักษณะอินเตอร์แอกทีฟ นอกจากนี้ ยังมีการนำเสนอนวัตกรรมในรูปแบบ Innovation Hub บนพื้นที่กว่า 5,000 ตารางเมตร สำหรับการสาธิตผลิตภัณฑ์ ซอฟต์แวร์ โซลูชัน และการบริการของชไนเดอร์ อิเล็คทริค ที่หลากหลาย นอกจากนี้ ในงาน Innovation Summit ที่ประเทศสิงคโปร์นี้ ยังแสดงให้เห็นถึงพลังเครือข่ายที่เติบโตขยายไปอย่างต่อเนื่องของบริษัท ทั้งในด้านเทคโนโลยีและพันธมิตรคู่ค้า รวมถึงสตาร์ทอัพ โดยจะมีการนำเสนอโซลูชั่นจากพันธมิตร อาทิ ไมโครซอฟท์ แอคเซนเจอร์ ซิสโก้ ออโต้กริด แดนฟอสส์ ซอมฟี่ และ AVEVA เป็นต้น


ดาวน์โหลดอีบุ๊กแทรกข่าว