ราคาน้ำมันดิบปรับเพิ่มต่อหลังหลายฝ่ายกังวลการคว่ำบาตรอิหร่านจากสหรัฐฯ
ราคาน้ำมันดิบปรับเพิ่มต่อหลังหลายฝ่ายกังวลการคว่ำบาตรอิหร่านจากสหรัฐฯ และสต๊อกน้ำมันดิบลด
หน่วยวิเคราะห์สถานการณ์พลังงาน บมจ.ไทยออยล์ รายงานสถานการณ์ราคาน้ำมัน ประจำวันที่ 4 กันยายน 2561
+ ราคาน้ำมันดิบปรับเพิ่มต่อหลังสหรัฐฯ ประกาศบังคับใช้การคว่ำบาตรอิหร่านในเดือน พ.ย.ซึ่งจะส่งผลให้กำลังการผลิตของอิหร่านปรับลดลงอย่างต่อเนื่อง ในขณะที่ซาอุดิอาระเบียยังไม่มีท่าทีที่จะเพิ่มกำลังการผลิตน้ำมันดิบเนื่องจากต้องการรักษาราคาน้ำมันดิบไว้ที่ราว 70-80 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล
+ สำนักงานสารสนเทศด้านพลังงานสหรัฐฯ (EIA) รายงานปริมาณน้ำมันดิบคงคลังสหรัฐฯ สิ้นสุด ณ สัปดาห์ก่อนหน้า ปรับลดลง 2.1 ล้านบาร์เรลแตะระดับ 394.1 ล้านบาร์เรล ซึ่งนับเป็นระดับต่ำสุดตั้งแต่ ก.พ. 2558 ขณะที่ปริมาณน้ำมันเบนซินคงคลังปรับลดลงราว 1.7 ล้านบาร์เรลเนื่องจากอุปสงค์ที่ดีในประเทศแม้จะเริ่มหมดฤดูกาลขับขี่ท่องเที่ยวแล้วก็ตาม
-/+ หลายฝ่ายเฝ้าติดตามข่าวการประชุมระหว่างกลุ่มประเทศโอเปก (OPEC) และนอกกลุ่มโอเปก (Non-OPEC) ในวันที่ 23 ก.ย.ณ ประเทศแเอลจีเรีย ว่าด้วยเรื่องการปรับเพิ่มกำลังการผลิตจากระดับที่ตกลงกันในเดือน มิ.ย. ที่ผ่านมาหรือไม่ เพื่อชดเชยกำลังการผลิตที่หายไปจากทั้งเวเนซุเอลาและอิหร่าน นอกจากนี้ รัสเซียส่งสัญญาณว่าพร้อมที่จะตกลงกับสหรัฐฯ เพื่อปรับสมดุลการผลิตน้ำมันดิบกับสหรัฐฯ ซึ่งเป็นท่าทีที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน
ราคาน้ำมันเบนซิน ปรับตัวเพิ่มขึ้นตามราคาน้ำมันดิบดูไบ เนื่องจากมีแรงซื้อจากตะวันออกกลางและอินเดียหลังหมดฤดูมรสุม ขณะที่อุปทานจากรัสเซียปรับลดลงบางส่วน
ราคาน้ำมันดีเซล ปรับตัวเพิ่มขึ้นมากกว่าราคาน้ำมันดิบดูไบ เนื่องจากอุปสงค์ในเอเชียโดยเฉพาะน้ำมันเดินเรือกำมะถันต่ำในเอเชียเหนือยังคงอยู่ในระดับดี ขณะที่อุปทานยังคงล้นตลาด
ไทยออยล์คาดการณ์ราคาน้ำมันดิบในสัปดาห์นี้
ราคาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัสเคลื่อนไหวในกรอบ 67-72 เหรียญสหรัฐฯต่อบาร์เรล
ราคาน้ำมันดิบเบรนท์เคลื่อนไหวในกรอบ 76-81 เหรียญสหรัฐฯต่อบาร์เรล
ปัจจัยที่น่าจับตามอง
สงครามการค้าระหว่างสหรัฐฯ และจีน คาดจะส่งผลกดดันต่อการเจริญเติบโตของเศรษฐกิจและความต้องการใช้น้ำมันโลกอย่างต่อเนื่อง แม้ว่าล่าสุดสหรัฐฯ เตรียมเจรจากับจีนเพื่อลดข้อพิพาททางการค้าระหว่างสองประเทศ
ปริมาณการผลิตและส่งออกน้ำมันดิบของอิหร่านมีแนวโน้มปรับตัวลดลงต่อเนื่อง หลังประเทศต่างๆ ได้ทยอยปรับลดการนำเข้าน้ำมันดิบจากอิหร่านลงก่อนที่จะมีการประกาศคว่ำบาตรในวันที่ 4 พ.ย.61
การส่งออกน้ำมันดิบของเวเนซุเอลาคาดจะยังคงปรับลดลงต่อเนื่อง หลังเกิดเหตุเรือขนส่งน้ำมันดิบชนกันบริเวณท่าเรือขนส่งน้ำมันดิบหลักของประเทศในเดือนที่ผ่านมา
ที่มา : บมจ.ไทยออยล์
หน่วยวิเคราะห์สถานการณ์พลังงาน บมจ.ไทยออยล์ รายงานสถานการณ์ราคาน้ำมัน ประจำวันที่ 4 กันยายน 2561
+ ราคาน้ำมันดิบปรับเพิ่มต่อหลังสหรัฐฯ ประกาศบังคับใช้การคว่ำบาตรอิหร่านในเดือน พ.ย.ซึ่งจะส่งผลให้กำลังการผลิตของอิหร่านปรับลดลงอย่างต่อเนื่อง ในขณะที่ซาอุดิอาระเบียยังไม่มีท่าทีที่จะเพิ่มกำลังการผลิตน้ำมันดิบเนื่องจากต้องการรักษาราคาน้ำมันดิบไว้ที่ราว 70-80 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล
+ สำนักงานสารสนเทศด้านพลังงานสหรัฐฯ (EIA) รายงานปริมาณน้ำมันดิบคงคลังสหรัฐฯ สิ้นสุด ณ สัปดาห์ก่อนหน้า ปรับลดลง 2.1 ล้านบาร์เรลแตะระดับ 394.1 ล้านบาร์เรล ซึ่งนับเป็นระดับต่ำสุดตั้งแต่ ก.พ. 2558 ขณะที่ปริมาณน้ำมันเบนซินคงคลังปรับลดลงราว 1.7 ล้านบาร์เรลเนื่องจากอุปสงค์ที่ดีในประเทศแม้จะเริ่มหมดฤดูกาลขับขี่ท่องเที่ยวแล้วก็ตาม
-/+ หลายฝ่ายเฝ้าติดตามข่าวการประชุมระหว่างกลุ่มประเทศโอเปก (OPEC) และนอกกลุ่มโอเปก (Non-OPEC) ในวันที่ 23 ก.ย.ณ ประเทศแเอลจีเรีย ว่าด้วยเรื่องการปรับเพิ่มกำลังการผลิตจากระดับที่ตกลงกันในเดือน มิ.ย. ที่ผ่านมาหรือไม่ เพื่อชดเชยกำลังการผลิตที่หายไปจากทั้งเวเนซุเอลาและอิหร่าน นอกจากนี้ รัสเซียส่งสัญญาณว่าพร้อมที่จะตกลงกับสหรัฐฯ เพื่อปรับสมดุลการผลิตน้ำมันดิบกับสหรัฐฯ ซึ่งเป็นท่าทีที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน
ราคาน้ำมันเบนซิน ปรับตัวเพิ่มขึ้นตามราคาน้ำมันดิบดูไบ เนื่องจากมีแรงซื้อจากตะวันออกกลางและอินเดียหลังหมดฤดูมรสุม ขณะที่อุปทานจากรัสเซียปรับลดลงบางส่วน
ราคาน้ำมันดีเซล ปรับตัวเพิ่มขึ้นมากกว่าราคาน้ำมันดิบดูไบ เนื่องจากอุปสงค์ในเอเชียโดยเฉพาะน้ำมันเดินเรือกำมะถันต่ำในเอเชียเหนือยังคงอยู่ในระดับดี ขณะที่อุปทานยังคงล้นตลาด
ราคาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัสเคลื่อนไหวในกรอบ 67-72 เหรียญสหรัฐฯต่อบาร์เรล
ราคาน้ำมันดิบเบรนท์เคลื่อนไหวในกรอบ 76-81 เหรียญสหรัฐฯต่อบาร์เรล
ปัจจัยที่น่าจับตามอง
สงครามการค้าระหว่างสหรัฐฯ และจีน คาดจะส่งผลกดดันต่อการเจริญเติบโตของเศรษฐกิจและความต้องการใช้น้ำมันโลกอย่างต่อเนื่อง แม้ว่าล่าสุดสหรัฐฯ เตรียมเจรจากับจีนเพื่อลดข้อพิพาททางการค้าระหว่างสองประเทศ
ปริมาณการผลิตและส่งออกน้ำมันดิบของอิหร่านมีแนวโน้มปรับตัวลดลงต่อเนื่อง หลังประเทศต่างๆ ได้ทยอยปรับลดการนำเข้าน้ำมันดิบจากอิหร่านลงก่อนที่จะมีการประกาศคว่ำบาตรในวันที่ 4 พ.ย.61
การส่งออกน้ำมันดิบของเวเนซุเอลาคาดจะยังคงปรับลดลงต่อเนื่อง หลังเกิดเหตุเรือขนส่งน้ำมันดิบชนกันบริเวณท่าเรือขนส่งน้ำมันดิบหลักของประเทศในเดือนที่ผ่านมา
ที่มา : บมจ.ไทยออยล์
