อบก. หนุนภาครัฐ-เอกชน ลดการปล่อย "ก๊าซเรือนกระจก" อย่างต่อเนื่อง
อบก. หนุนภาครัฐ ภาคเอกชน และท้องถิ่นไทย ลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกอย่างต่อเนื่อง ปลื้มปี 61 มีผู้ที่มีส่วนร่วมในการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกของประเทศมากกว่า 300 ราย สามารถลดปริมาณก๊าซเรือนกระจกได้มากกว่า 2.8 ล้านตันคาร์บอนไดออกไซด์เทียบเท่า
[caption id="attachment_319720" align="aligncenter" width="245"]
ประเสริฐสุข จามรมาน ผู้อํานวยการองค์การบริหารจัดการก๊าซเรือนกระจก[/caption]
นางประเสริฐสุข จามรมาน ผู้อํานวยการองค์การบริหารจัดการก๊าซเรือนกระจก หรือ อบก. เปิดเผยว่า อบก. มีภารกิจในการสนับสนุนและส่งเสริมการบริหารจัดการก๊าซเรือนกระจกแก่ภาคส่วนต่าง ๆ ให้เกิดประโยชน์ต่อเศรษฐกิจ สังคมและสิ่งแวดล้อมของประเทศ ได้ร่วมกับภาคีที่เกี่ยวข้อง พัฒนากลไกส่งเสริมที่สามารถกําหนดแนวทางการประเมินและนําไปสู่การลดก๊าซเรือนกระจกได้ตามเป้าหมายอย่างเป็นรูปธรรม มีประสิทธิภาพ และสร้างการมีความส่วนร่วมในการลดโลกร้อน
โดยผลการดําเนินงานในปี 2561 มีผู้ที่มีส่วนร่วมในการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกของประเทศและขึ้นรับเกียรติบัตร 327 ราย ซึ่งคาดว่าจะสามารถลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกลงได้มากกว่า 2,876,769.68 ตันคาร์บอนไดออกไซด์เทียบเท่า ซึ่งมาจากกลไกและเครื่องมือที่ อบก. พัฒนาขึ้น อาทิ กิจกรรมชดเชยคาร์บอน เป็นการรับรองให้ใช้เครื่องหมาย Carbon Offset ซึ่งเป็นการชดเชยการปล่อยก๊าซเรือนกระจกบางส่วน และ Carbon Neutral ซึ่งเป็นเครื่องหมายรับรองการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเท่ากับศูนย์ มีปริมาณการซื้อคาร์บอนเครดิตจากการทํากิจกรรมชดเชยคาร์บอนทั้งสิ้น 144,697 ตันคาร์บอนไดออกไซด์เทียบเท่า ซึ่งกระตุ้นให้เกิดตลาดคาร์บอนภาคสมัครใจภายในประเทศโดยมีมูลค่าการซื้อขายกว่า 2.9 ล้านบาท
ฉลากคาร์บอนฟุตพริ้นท์ (Carbon Footprint) และฉลากลดโลกร้อน หรือ ฉลากลดคาร์บอนฟุตพริ้นท์ (Carbon Footprint Reduction) ซึ่งไทยเป็นประเทศแรกและประเทศเดียวในอาเซียน ที่มีระบบการรับรองสอดคล้องตามหลักสากล มีผลิตภัณฑ์ที่ได้ขึ้นทะเบียนทั้ง 2 ฉลากคาร์บอน รวมจํานวน 606 ผลิตภัณฑ์ สามารถลดปริมาณการปล่อยก๊าซเรือนกระจกได้ 179,027 ตันคาร์บอนไดออกไซต์เทียบเท่า คาร์บอนฟุตพริ้นท์ขององค์กร (Carbon Footprint for Organization : CFO) โรงงานอุตสาหกรรมที่มีการใช้พลังงานสูงเข้าร่วมโครงการฯ จํานวนทั้งสิ้น 32 แห่ง ซึ่งหากโรงงานที่เข้าร่วมโครงการฯ ทั้งหมด สามารถดําเนินการตามเป้าหมายและแนวทางการจัดการเพื่อลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก คาดว่าจะสามารถลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกลงได้ 283,689.84 ตันคาร์บอนไดออกไซต์เทียบเท่า
[caption id="attachment_319720" align="aligncenter" width="245"]
นางประเสริฐสุข จามรมาน ผู้อํานวยการองค์การบริหารจัดการก๊าซเรือนกระจก หรือ อบก. เปิดเผยว่า อบก. มีภารกิจในการสนับสนุนและส่งเสริมการบริหารจัดการก๊าซเรือนกระจกแก่ภาคส่วนต่าง ๆ ให้เกิดประโยชน์ต่อเศรษฐกิจ สังคมและสิ่งแวดล้อมของประเทศ ได้ร่วมกับภาคีที่เกี่ยวข้อง พัฒนากลไกส่งเสริมที่สามารถกําหนดแนวทางการประเมินและนําไปสู่การลดก๊าซเรือนกระจกได้ตามเป้าหมายอย่างเป็นรูปธรรม มีประสิทธิภาพ และสร้างการมีความส่วนร่วมในการลดโลกร้อน
โดยผลการดําเนินงานในปี 2561 มีผู้ที่มีส่วนร่วมในการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกของประเทศและขึ้นรับเกียรติบัตร 327 ราย ซึ่งคาดว่าจะสามารถลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกลงได้มากกว่า 2,876,769.68 ตันคาร์บอนไดออกไซด์เทียบเท่า ซึ่งมาจากกลไกและเครื่องมือที่ อบก. พัฒนาขึ้น อาทิ กิจกรรมชดเชยคาร์บอน เป็นการรับรองให้ใช้เครื่องหมาย Carbon Offset ซึ่งเป็นการชดเชยการปล่อยก๊าซเรือนกระจกบางส่วน และ Carbon Neutral ซึ่งเป็นเครื่องหมายรับรองการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเท่ากับศูนย์ มีปริมาณการซื้อคาร์บอนเครดิตจากการทํากิจกรรมชดเชยคาร์บอนทั้งสิ้น 144,697 ตันคาร์บอนไดออกไซด์เทียบเท่า ซึ่งกระตุ้นให้เกิดตลาดคาร์บอนภาคสมัครใจภายในประเทศโดยมีมูลค่าการซื้อขายกว่า 2.9 ล้านบาท
ฉลากคาร์บอนฟุตพริ้นท์ (Carbon Footprint) และฉลากลดโลกร้อน หรือ ฉลากลดคาร์บอนฟุตพริ้นท์ (Carbon Footprint Reduction) ซึ่งไทยเป็นประเทศแรกและประเทศเดียวในอาเซียน ที่มีระบบการรับรองสอดคล้องตามหลักสากล มีผลิตภัณฑ์ที่ได้ขึ้นทะเบียนทั้ง 2 ฉลากคาร์บอน รวมจํานวน 606 ผลิตภัณฑ์ สามารถลดปริมาณการปล่อยก๊าซเรือนกระจกได้ 179,027 ตันคาร์บอนไดออกไซต์เทียบเท่า คาร์บอนฟุตพริ้นท์ขององค์กร (Carbon Footprint for Organization : CFO) โรงงานอุตสาหกรรมที่มีการใช้พลังงานสูงเข้าร่วมโครงการฯ จํานวนทั้งสิ้น 32 แห่ง ซึ่งหากโรงงานที่เข้าร่วมโครงการฯ ทั้งหมด สามารถดําเนินการตามเป้าหมายและแนวทางการจัดการเพื่อลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก คาดว่าจะสามารถลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกลงได้ 283,689.84 ตันคาร์บอนไดออกไซต์เทียบเท่า
