ผวาเททิ้งนมดิบล้นตลาด กว่า124 ตัน/วันไม่มีที่ไป รอเกณฑ์ใหม่นมโรงเรียน
เอกชนขอซื้อแลกโควตา-รอคลอดเกณฑ์ใหม่นมโรงเรียน
เกษตรกร-ศูนย์รวบรวมตื่น นมดิบล้นตลาดกว่า 124 ตัน/วัน ผวาไม่มีที่ไป สมาคมอุตสาหกรรมผลิตภัณฑ์อาหารนมไทย ได้ทีชิงตัดหน้าเปิดตลาดซื้อขายนํ้านมดิบก่อน อ้างเป็นแต้มต่อรายไหนโดนเขี่ยออกจากโควตานมโรงเรียนพร้อมรับซื้อ
เป็นครั้งแรกของวงการอุตสาหกรรมนมไทย สมาคมอุตสาหกรรมผลิตภัณฑ์อาหารนมไทย มีมติให้สมาชิกของสมาคมร่วมกันการจัดทำบันทึกข้อตกลง(เอ็มโอยู) การซื้อขายนํ้านมดิบ (วันที่ 14 ก.ย. 61) กับทุกภาคส่วนที่มีนํ้านมดิบเพื่อเตรียมความพร้อมและชี้แจงแนวทางการพัฒนาและแนวทางการส่งเสริมสนับสนุนผู้ขายนํ้านมดิบให้กับสมาชิกของสมาคมนั้น
นายวสันต์ จีนหลง นายกสมาคมผู้ผลิตนมพาสเจอไรซ์ และในฐานะกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการโคนมและผลิตภัณฑ์นม หรือมิลค์บอร์ด เปิดเผยกับ “ฐานเศรษฐกิจ” ว่า นายกฤษฎา บุญราช รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ได้มอบหมายให้อธิบดีกรมปศุสัตว์และผู้อำนวยการองค์การส่งเสริมกิจการโคนมแห่งประเทศไทย (อ.ส.ค.) ไปพิจารณาจัดสรรพื้นที่จำหน่ายนมโรงเรียนใหม่ตามข้อท้วงติงจากสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.)เพื่อแก้ไขปัญหาในเรื่องผลประโยชน์ทับซ้อน และผูกขาดพื้นที่จำหน่าย ในระหว่างที่รอผลสรุปว่าจะมีการแบ่งการจัดสรรสิทธิ์พื้นที่จำหน่าย (โควตา) อย่างไรนี้ อีกด้านหนึ่งคาดว่าน่าจะรอปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์คนใหม่ (นายอนันต์ สุวรรณรัตน์) ที่กำลังจะเข้ามารับตำแหน่งเป็นประธานมิลค์บอร์ดในเร็วๆนี้ ก่อน เชื่อว่าจะยังไม่มีวาระที่จะประชุม
“เพื่อลดความเสี่ยงของสมาชิกที่มีนํ้านมดิบอยู่ในมือ ปัจจุบันนํ้านมดิบทั้งประเทศเกินมา 124 ตัน/วัน (อินโฟกราฟิกประกอบ) หากใครไม่แน่ใจก็ให้เทขายได้ทันที เมื่อขายแล้วผู้ซื้อจะนำไปแลกโควตานำเข้านมผงหรือจะผลิตจำหน่ายนมพาณิชย์ก็แล้วแต่เป็นเรื่องของเอกชน แต่เมื่อทำสัญญาแล้วจะต้องรับซื้อนํ้านมดิบจากเกษตรกร 365 วัน”
สอดคล้องกับนายชนะศักดิ์ จุมพลอานันท์ นายกสมาคมกลุ่มเกษตรกรผู้รวบรวมนํ้านมดิบ กล่าวว่า การเริ่มต้นทำเอ็มโอยูกับสมาคมของเอกชน เชื่อว่าจะเป็นฐานข้อมูลให้กับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง หากเกษตรกรสามารถ ขายนํ้านมดิบได้หมดก็ดี แต่ถ้านํ้านมดิบไม่หมดจะได้เป็นข้อมูลที่จะไปหาตลาดเพิ่ม เป็นจุดเริ่มต้นที่ไม่ต้องรอในส่วนของภาครัฐเพียงอย่างเดียว วันนี้เป็นเพียงความร่วมมือระหว่างผู้ซื้อและผู้ขายที่จะต้องดำเนินการไปในทิศทางเดียวกัน เช่น ต้องการคุณภาพอย่างนี้ ก็สามารถจะสื่อสารโดยตรงกับผู้ขายได้ทันที สมาคมก็เป็นภาคที่รวบรวมนมจากเกษตรกรที่มีปริมาณนํ้านมดิบวันละ 1,000 ตันต่อวัน ที่ต้องการทำให้นํ้านมมีคุณภาพ
ด้านนายชัชวาล มณีทัพ นายกสมาคมอุตสาหกรรมผลิตภัณฑ์อาหารนมไทย กล่าวว่า การจัดทำเอ็มโอยูในขณะนี้กว่า 80% ของนํ้านมทั้งระบบเป็นหลักประกันในการวางแผนการตลาด หากยังมีปริมาณนํ้านมดิบส่วนเหลือจากโควตาจากนมโรงเรียนเท่าไร จะมาเกลี่ยให้กับสมาคมภายหลัง ทางสมาคมก็ยินดีแต่จะเลือกสหกรณ์ หรือศูนย์รวบรวมนํ้านมดิบใดที่มาแสดงตัว (วันที่ 14 ก.ย.61) ก็จะช่วยซื้อเป็นลำดับแรก เพราะถือว่าเป็นการให้ความร่วมมือกับสมาคม
ด้านนายสัตวแพทย์สรวิศ ธานีโต อธิบดีกรมปศุสัตว์ ประธานคณะอนุกรรมการบริหารจัดการโครงการอาหารเสริม (นม) กล่าวว่า กำลังรอหลักเกณฑ์การจัดสรรพื้นที่จำหน่ายนมโรงเรียนในภาคเรียนที่ 2/2561 เมื่อได้หลักเกณฑ์จากผลการประชุมอนุกรรมการวิชาการโคนมและผลิตภัณฑ์นมแล้วจะนำเข้าที่ประชุมร่วมกัน 4 ฝ่าย ได้แก่ กรมปศุสัตว์ กรมส่งเสริมสหกรณ์ ผอ.อ.ส.ค. และปลัดเกษตรคนใหม่ โดยมีรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรฯ เป็นประธาน ซึ่งกำหนดการเดิมจะหารือในวันที่ 24 กันยายนนี้ กำลังเลื่อนให้เร็วขึ้น เมื่อได้ผลสรุปจะเข้าคณะอนุกรรมการบริหารจัดการนมโรงเรียน และมิลค์บอร์ด ตามลำดับ เพื่อประกาศหลักเกณฑ์ออกมาใช้ในเทอม 2/2561
หน้า8 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 38 ฉบับ 3,402 วันที่ 20-22 กันยายน 2561