ซินเนอร์ยีธุรกิจไม่ใช่การพึ่งพิงแต่ต้องเสริมกัน

23 ก.ย. 2561 | 00:33 น.
การปรับโครงสร้างธุรกิจที่ดิ้นหนีตลาดเรดโอเชียน ในธุรกิจคอนโดมิเนียมและที่พักอาศัยแนวราบ ที่มีการแข่งขันสูง ไปสู่ตลาดบลู โอเชียน ด้วยการเปิดแนวรุกใหม่ ในการลงทุนมิกซ์ยูสในธุรกิจโรงแรมและฮอสพิทาลิตีภายใต้
“วัน ออริจิ้น” ซึ่งเป็นบริษัทลูกของ “บริษัท ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน)”

แม้จะเป็นผู้เล่นรายใหม่ในกลุ่มมิกซ์ยูสด้านนี้ แต่ก็น่าจับตามอง เพราะได้มือทองในธุรกิจโรงแรม “กมลวรรณ
วิปุลากร” ที่หลังเกษียณจาก “ดิเอราวัณ กรุ๊ป” มานั่งแท่นขับเคลื่อน “วัน ออริจิ้น” ในฐานะประธานเจ้าหน้าที่บริหาร คุมแผนลงทุนกว่า 2 หมื่นล้านบาทในช่วง 5 ปีนี้ กว่า 23 โครงการ ซึ่งอยู่ระหว่างพัฒนากว่า 13 โครงการ และอีก 10 โครงการที่มีศักยภาพในการลงทุนที่จะเกิดขึ้น

[caption id="attachment_319557" align="aligncenter" width="355"] S__5734445 กมลวรรณ วิปุลากร[/caption]

คุณกมลวรรณ เล่าให้ซีอีโอ โฟกัส ฟังถึงการตัดสินใจมานั่งบริหารวัน ออริจิ้น ว่า  จริงๆแล้วรู้จักคุณโด่ง-พีระพงศ์ จรูญเอก และคุณยุ้ย-อารดา จรูญเอก เจ้าของออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ มาเป็น สิบปีแล้ว ก็เป็นเหมือนเพื่อนรุ่นน้อง ทั้งยังเห็นว่าเป็นบริษัทของคนรุ่นใหม่ มีมุมมองการทำธุรกิจที่แตกต่าง คิดว่าเป็นข้อได้เปรียบ ซึ่งเขาก็มองประสบการณ์ที่เรามี บวกกับความคิดสร้างสรรค์ของเขาที่จะพุ่งไปข้างหน้า กับการตั้งบริษัทใหม่ มีแนวทางการทำธุรกิจแบบใหม่

โดย วัน ออริจิ้น จะมาดูด้านมิกซ์ยูสในธุรกิจโรงแรมและฮอสพิทาลิตีส่วนออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ จะโฟกัสการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์เพียงอย่างเดียว ดังนั้นการรวมกัน ประสานกันจากประสบการณ์ที่เรามี กับสิ่งที่เขามี ทำให้เกิดการ
ซินเนอร์ยีธุรกิจ ที่ไม่ใช่การพึ่งพิงระหว่างบริษัทแม่กับบริษัทลูก แต่เป็นการเสริมธุรกิจซึ่งกันและกัน เพื่อสร้างการเติบโตอย่างยั่งยืน ก็จะทำให้ธุรกิจไปได้ดี เลยตัดสินใจมาที่นี่

ทั้งด้วยความที่วัน ออริจิ้น เป็นบริษัทใหม่ และมีอายุเฉลี่ยของพนักงานอยู่ที่ 28 ปี จะทำให้เราสร้างวัฒนธรรมองค์กร ที่ปรับตามการเปลี่ยนแปลงของโลก ทำให้ธุรกิจเติบโตอย่างยั่งยืน จากการปรับวิธีการทำงาน ที่ยืดหยุ่น ทำความเข้าใจธุรกิจ นวัตกรรม IOT  เรียนรู้เร็ว กล้าคิดกล้าทำ และปรับตัวให้ทันโลกที่เปลี่ยนไปได้ง่ายกว่าบริษัทที่อยู่มานาน และมีวัฒนธรรมองค์กรแบบเดิม

การเข้ามาทำงานในวัน ออริจิ้นของซีอีโอมืออาชีพมากฝีมือคนนี้ เริ่มตั้งแต่ตั้งต้นเลยทีเดียว เพราะเข้ามาดูภาพรวม
ดูกลยุทธ์การจัดทำมาสเตอร์แพลนการลงทุนในช่วง 5-10 ปีนี้  ภายใต้การวางวิชั่นไว้ว่า “วัน ออริจิ้น จะก้าวขึ้นมาเป็นท็อปไฟว์ในธุรกิจโรงแรมและมิกซ์ยูสในด้านฮอสพิทาลิตีภายใน 5 ปีนี้”

การเข้ามารุกลงทุนมิกซ์ยูสด้านโรงแรมและฮอสพิทาลิตีเราจะโฟกัสการเปิดแนวรุกใน 3 กลุ่มธุรกิจ ได้แก่ 1.โรงแรม,เซอร์วิส อพาร์ตเมนต์ คิดเป็นสัดส่วน 70% 2.ธุรกิจอาคารสำนักงานและร้านค้าให้เช่า 20% และ 3.ธุรกิจอาหาร 10%  เพราะมองว่ามีโอกาสขยายและสร้างการเติบโตของธุรกิจได้

090861-1927-9-335x503

มิกซ์ยูสที่เกิดขึ้นในฝั่งดีมานด์ของตลาดเราไม่กังวลเลย เพราะอุตสาหกรรมท่องเที่ยวไทยถือว่ามีความแข็งแกร่ง อีกทั้งวันนี้การท่องเที่ยวก็ไม่ได้กระจุกตัวอยู่แต่ในเมืองใหญ่ เพราะรัฐบาลส่งเสริมการท่องเที่ยวเมืองรอง และการขับเคลื่อนระเบียงเศรษฐกิจภาคตะวันออก(อีอีซี) ประกอบกับคนไทยก็มีไลฟ์สไตล์ที่เปลี่ยนไปจากในอดีต จะเห็นได้จากการชอบเรื่องของ Enjoy Life ชอบกิน ชอบทานอาหารนอกบ้าน

ดังนั้นจากดีมานด์ที่มี ถ้าเราทำโปรดักต์และเซอร์วิส โดยเน้นความเป็น ลิฟวิ่ง คอมมิวนิตี สร้างโปรดักต์ให้โดดเด่นขึ้นมา  ก็เป็นหัวใจสำคัญ เราหาช่องว่าง หาสิ่งที่สร้างความแตกต่าง เราก็จะเข้าไปดูดซับดีมานด์ให้เพิ่มสูงขึ้น ยังดึงมาร์เก็ตใหม่ ทำให้เราเป็นผู้นำธุรกิจ ตามเป้าหมายท็อปไฟว์ในมิกซ์ยูสด้านโรงแรม,ออฟฟิศและกลุ่มอาหารได้

กลยุทธเพื่อก้าวไปสู่เป้าหมายนี้ ซีอีโอ กมลวรรณ โฟกัสใน 4 ประเด็นหลัก  ประเด็นที่ 1 คือโลเกชันในการลงทุน ที่ในกรุงเทพฯก็ต้องเกาะแนวรถไฟฟ้า ทั้งเส้นทางพระราม 1 , สุขุมวิท , พระราม 4 , รัชดาภิเษก, สาทร, บางนา, พื้นที่อีอีซี และเมืองท่องเที่ยวภูเก็ต,เชียงใหม่  ประเด็นที่ 2 คือ การสร้างโปรดักต์ที่ตอบสนองความต้องการของลูกค้า

ส่วนประเด็นที่ 3 คือ การมีพาร์ตเนอร์ที่ดี จะเสริมสร้างความแข็งแกร่งของธุรกิจได้เป็นอย่างดี ทั้งในเรื่องของคอนเนกชัน โปรดักต์ การตลาดและการขายที่ดี จึงทำให้เราจึงดึงกลุ่มอินเตอร์คอนติเนนตัล(IHG)ที่มีเครือข่ายแบรนด์โรงแรมใหญ่ระดับโลกเข้ามาบริหาร ทั้งบางโครงการทางออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ ก็ได้บริษัท โนมูระ เรียลเอสเตท
ดีเวลล็อปเมนท์ จำกัด ซึ่งเป็นระดับท็อปของญี่ปุ่นมาร่วมลงทุน รวมถึงมีส่วนช่วยเสนอแนะทำให้เราได้ดีไซน์โปรดักต์ในมุมมองที่ตอบสนองความต้องการของคนญี่ปุ่นด้วย

สุดท้าย คือ  การวางแผนการเงินที่ดี ซึ่งเราจะสร้างความแข็งแกร่งของทรัพย์สิน ที่เบื้องต้นคาดว่าภายใน 5 ปี จะพัฒนาโรงแรมและเซอร์วิส
อพาร์ตเมนต์เกิดขึ้นกว่า 4 พันห้อง  หรือไม่น้อยกว่า 15 แห่ง จำนวนห้องพักอยู่ที่ระหว่าง 150-300 ห้อง และมีแผนตั้งทรัสต์เพื่อการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ (REIT) รวมทั้งมองถึงการทำIPO ในอนาคต เพื่อทำให้ธุรกิจมีเงินทุนแข็งแกร่งเพื่อขยายงานในอีก 10-20 ปีข้างหน้า

การมีเป้าหมายและกลยุทธ์ที่ดีจึงทำให้วัน ออริจิ้น มั่นใจต่อเป้าหมายการก้าวเป็นท็อปไฟว์ในธุรกิจโรงแรมและมิกซ์ยูสในด้านฮอสพิทาลิตีภายใน 5 ปีนี้

หน้า 25 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ฉบับที่ 3,402 วันที่ 20 - 22 กันยายน พ.ศ. 2561

e-book-1-503x62-7